นานมากเลยที่ไม่ได้มาเจอ ....ช่วงนี้มีเรื่องที่ต้องคอยติดตามอย่างเร่งด่วน คือ จากที่เราเป็นแม่มือใหม่ ต้องหาอ่านตำราเลี้ยงลูกอยู่เรื่อยๆ อาศัยถามผู้รู้ นำมาทดสอบกับลูกเราเอง ลองมาหลายอย่าง เราสนุกมาก ลูกก็สนุก (จากที่เราสังเกตนะ) จนเมื่อวันหนึ่งสิ่งที่เรานำมาสอนลูกนั้นส่งผลกับลูกในห้องเรียนเราเองด้วย บังเอิญที่เรามักโชคดีเจอห้องดีสุดท้ายแถวตลอดเลยตั้งแต่เป็นครู จึงเจอสารพัดปัญหามานับไม่หมด ทุกรูปแบบก็ว่าได้ เมื่อเดือนที่แล้วทำ CD เรื่องแม่ลูก ให้ลูกได้ดู จึงเข้าใจลูกขึ้นมากเลย บางครั้งลูกก็สะท้อนสิ่งต่างๆให้เราได้รู้ เช่น วันนี้แม่หน้าไม่สวยเลย หนูกลัวไม่กล้าถาม หรือ วันนี้ดูอารมณ์ดีจังเรียนด้วยแล้วเข้าใจ พอมานึกถึงแล้วจึงรู้ว่าเราต้องเก็บอารมรณ์แสดงความรู้สึกดีๆให้เด็กเห็นจึงจะได้ผลในการสื่อความรู้ถึงเขาได้ ดังนั้น ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ลูกๆที่โรงเรียนจึงเห็นนางฟ้าทุกวันแม้แต่ลูกๆมัธยมที่มักได้คำทักทายและรอยยิ้มทุกเช้าที่เจอ ลูกๆที่โตก็มักจะเข้ามาพูดคุยอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วทางมัธยนเกิดปัญหาวัยรุ่น วัยอยากลองมองเพศตรงข้ามขึ้น ผู้บริหารจึงได้มาขอความร่วมมือให้ไปช่วยพูดคุย หรือ อบรมให้หน่อย พอถึงวันที่ต้องเจอวัยรุ่นทั้งห้อง 40 กว่าคนแล้วสั่นเลยไม่รู้จะอบรมเขาอย่างไรดี จึงยิ้มแล้วบอกเขาว่า เราเองก็ยังไม่แก่ วันนี้ไม่ได้มาอบรมขอมาพูดคุยกันในฐานะพี่สาวแล้วกัน พอเกิ่นนำกันเองลูกวัยรุ่นทั้งหลายก็ชอบใจและยอมพูดปัญหาและซักถามข้อข้องใจต่างๆ ทำให้เราได้รู้ถึงปัญหาของเขาแล้วนำเสนอฝ่ายปกครองเพื่อหาทางแก้ต่อไป
ปัญหาของเขาที่เราฟังแล้วต้องคิด มีมากจริงๆ เช่น เที่ยวทุกวันเพื่อต้องการให้แม่มองเห็นความสำคัญ อยากมีแฟเพียงเพราะเหงาเนื่องจากผู้ปกครองไปทำงานกลางคืน (กะ ที่นิคม ลำพูน) ยอมนอนกับเพื่อนชายเพียงแค่อยากให้เขาไม่มีคนอื่น อีกหลายปัญหาเลยที่น่าตกใจ จึงให้คำปรึกษาเป็นรายๆไปที่เขาต้องการความช่วยเหลือมาหาเรา ตอนนี้กำลังช่วยอยู่หนึ่งราย คือ เจอปัญหาพ่อแม่เลิกกันแล้วอยู่กับยาย มีความสัมพันธ์กับเพื่อนชาย ไม่มาเรียน หนีเที่ยว
เราจึงถามถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร เขาบอกว่าเขาอยากมีแม่อยากอยู่กับแม่แต่แม่มีสามีใหม่ไม่ให้อยู่ด้วย พ่อก็มีใหม่เหมือนกัน เขาจึงคิดว่าไม่มีใครรักและต้องการเมื่อมาเจาเพื่อนชายจึงยอมเพื่อนชายเพราะคิดว่าเพื่อชายให้ความสำคัญ จึงอธิบายยกตัวอย่างชี้ให้เห็นความเป็นจริงและเอาใจใส่ทักทายถามตลอดที่เจอเขา เห็นว่าดีขึ้นบ้างแล้วไม่หนีเรียนแล้ว
ปัญหาวัยรุ่นมีให้แก้ไขอีกมากเหลือเกินนะค่ะ คิดว่าต้องตามให้ทันเมื่อถึงยุคลูกเราในอนาคตอันใกล้นี้......
ถ้าครูเราเข้าใจเขา เป็นที่ปรึกษาเขา แต่อย่าให้เขามองว่าเราไปคอยจับผิดเขา ต้องทำให้เขารักและวางใจจริงๆ ถึงจะเกิดการยอมรับและไว้ใจ ควรค่อยๆแนะนำ ยกตัวอย่างที่ดี วิเคราะห์ในสิ่งที่ทำให้เขาเกิดปัญหา ชี้แนวทาง สร้างทางเลือก เขาคงจะยอมรับไม่ทางใดก็ทางหนึ่งซึ่งคิดว่าน่าจะดีขึ้น
ฝากความคิดถึงน้องพู่กันคนเก่งด้วยนะจ๊ะ ถ้าว่างๆบอกมาเรียนคอมกับครูเก่าได้นะครับ