1. โรคผิวหนัง
ยาเสพติดทำให้เกิดโทษพิษภัยอันตรายต่อร่างกาย มีฤทธิ์กระตุ้นและกดประสาทส่วนกลาง ซึ่งก็แล้วแต่ละประเภทของยาเสพติด ทำให้ร่างกายเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาเสพติดและมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น นอนตื่นสาย ไม่ไปทำงาน ไม่ไปโรงเรียน กลับบ้านไม่ตรงเวลา ชอบเที่ยวเตร่ หงุดหงิดง่ายไม่สนใจสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขวิทยาส่วนบุคลไม่ดี เก็บตัว สุขภาพทรุดโทรมหน้าตาหมองคล้ำ เสื้อผ้าสกปรกซึ่งอันเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้นมา และที่พบบ่อยในผู้ป่วยคุมประพฤติที่ถูกส่งตัวมาบำบัดฟื้นฟู คือเป็นโรคผิวหนัง เช่น เป็นหิด เป็นกลากเกลื้อน ผื่นคัน บริเวณใบหน้า ลำคอ ตามตัว และใต้ร่มผ้า จากการสังเกตพบว่าผู้ป่วยคุมประพฤติส่วนใหญ่ที่ก่อนจะถูกส่งตัวมาบำบัดที่สถาบันได้รับการกักขังที่เรือนจำมาก่อน อยู่ประมาณ 45 วัน อันเป็นสถานที่หนึ่งที่เป็นสาเหตุให้มีการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ง่ายเพราะอยู่กันแออัด ไม่มีที่นอนเป็นสัดส่วน ต้องนอนรวมกันมีการใส่เสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่น และไม่มีการทำความสะอาดที่ดี เช่น ผู้ป่วยที่นำมาศึกษารายนี้ ผู้ป่วยที่นำมาศึกษารายนี้เป็นผู้ป่วยเสพติดยาบ้าที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณขาหนีบทั้งสองข้าง
2. การดำเนินของโรค
เริ่มมีอาการผื่นคันบริเวณขาหนีบ 1 เดือน ก่อนถูกจับขังที่เรือนจำมีนบุรี เคยซื้อยาทาเองแต่ไม่ทาประจำทำให้อาการคันและโรคที่เป็นอยู่ไม่หาย เมื่อถูกจับเข้าเรือนจำเป็นเวลา 45 วันไม่มีการดูแลรักษา อาการผื่นคันจึงเพิ่มมากขึ้น ระยะที่เป็นโรค 75 วัน
3. การปฏิบัติตัวขณะอยู่ที่บ้าน
ช่วงระยะที่ก่อนถูกจับนั้นผู้ป่วยมีพฤติกรรมที่หาเงินเลี้ยงชีพด้วยการเล่นการพนันทุกวัน ไม่ทำงาน ไม่สนใจในการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคลคือใส่กางยีนส์ตัวเดิมทุกวันมีการซักกางเกง สองอาทิตย์ต่อหนึ่งครั้ง อาบน้ำวันละครั้ง ซักกางในไม่สะอาดคือใส่อาบน้ำแล้วบิดตากในที่อับชื้นบริเวณห้องน้ำและใส่กางเกงในที่ชื้นเป็นประจำ ไม่ตากแดดให้แห้งและไม่ไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการคัน
4. การปฏิบัติตัวขณะอยู่ที่เรือนจำ
เสื้อผ้ามี 1 ชุดซักอาทิตย์ละครั้ง กางเกงในมี 1 ตัวตอนเย็นอาบน้ำแล้วบิดตาก เช้าใส่ต่อตอนเช้าซึ่งยังไม่แห้ง ผ้าเช็ดตัวใช้รวมกันกับคนอื่น มีที่นอนใช้นอนรวมกันหลายคนไม่มีผ้าปู บางครั้งนอนกับพื้นนั่งเล่นที่ไม่สะอาดเพราะเดินย่ำไปมา
5. การดูแลผู้ป่วย
1. มีการรายงานแพทย์เพื่อได้รับการรักษา คือ ได้ยารับประทานและยาทาเป็นเวลา 1 เดือน
2. อธิบายถึงสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังเพื่อให้ผู้ป่วยได้รู้จักผลกระทบ มีการดูแลตนเองและป้องกันการติดเชื้อและให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำ
3. ดูแลให้รับประทานยา และทายาหลังอาบน้ำ เช้า – เย็น โดยใช้ไม้พันสำลีแต้มยาทาบริเวณที่เป็น และทิ้งไม้พันสำลีที่ขยะติดเชื้อในห้องปฐมพยาบาลปิดฝาทุกครั้ง
4. แนะนำให้ผู้ป่วยดูแลรักษาความสะอาดร่างกายอาบน้ำวันละสองครั้ง
5. แนะนำเรื่องการถูสบู่เวลาอาบน้ำ ควรฟอกสบู่ให้เป็นฟองที่มือแล้วล้างทำความสะอาดบริเวณที่สะอาดก่อน เช่น ใบหน้า ลำคอ ลงมาแล้วล้างฟองให้สะอาดก่อนจึงนำสบู่มาฟอกที่มือใหม่แล้วค่อยฟอกส่วนที่ติดเชื้อ
6. ใส่เสื้อผ้าที่ซักทุกวัน โดยซักด้วยผงฟอกล้างน้ำผึ่งแดดให้แห้งก่อน
7. แนะนำให้ดูแลตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมเชื้อที่เล็บและให้ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอหลังจากการหยิบจับสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือบริเวณที่คัน
8. แนะนำวิธีการล้างมือที่ถูกต้องตาม 6 ขั้นตอน
9. ดูแลและแนะนำให้แยกสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว ของทุกคน เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า สบู่ เป็นต้น
สรุป
อาการผื่นคันที่ขาหนีบหาย แต่ยังต้องดูแลและทายาต่อเนื่องถึง 6 เดือน สิ่งสำคัญที่เป็นปัญหา คือ เมื่อ ผู้ป่วยกลับไปอยู่บ้าน ผู้ป่วยต้องกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม มีพฤติกรรมติดการพนันไม่ดูแลตนเองและการปฏิบัติตนอาจจะเหมือนเดิม จึงให้มีการวางแผนก่อนกลับบ้าน เพื่อให้ผู้ป่วยตระหนักในการเลิกยาเสพติดและเล่นการพนันหันมาดูแลเอาใจใส่ตนเอง เพราะมีผลต่อการดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังได้อีก ผู้ป่วยรับฟังดี และปฏิบัติตามคำแนะนำ วางแผนว่าจะไปสมัครงานหางานทำเป็นหลักแหล่งไม่เล่นการพนันและเลิกยาเสพติด ผู้ป่วยรับฟังและจะปฏิบัติตามคำแนะนำ
ต้องใช้ยาอะไรงับ ผม เปง อยุ่ เป็น ผื่น แดง ยิ่งเกา แย่ง คน