เสนอ 30 บาทรักษาทุกโรคครอบคลุมเด็กไร้สัญชาติ-ต่างด้าว


อันนี้เสนอมาก่อนปฏิวัติ รอ รอ รอ

เสนอ 30 บาทรักษาทุกโรคครอบคลุมเด็กไร้สัญชาติ-ต่างด้าว

ไทยเตรียมรายงานความก้าวหน้าการแก้ปัญหาสถานะและสิทธิให้แก่เด็กไร้สัญชาติ และเด็กต่างด้าว ต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ ระบุ สธ.กำลังเสนอ ครม.ให้เด็กทุกคนในประเทศได้รับสิทธิด้านสุขภาพในโครงการ 30 บาท โดยจะครอบคลุมเด็กไร้สัญชาติ และเด็กต่างด้าวด้วย

นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มกราคมนี้ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยไปรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ลงนามเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กตั้งแต่ปี 2533 และได้รับรองในอนุสัญญาแล้ว 52 ข้อ จากทั้งหมด 54 ข้อ โดยยกเว้นข้อสงวนไม่รับรองไว้ 2 ข้อ คือ ข้อ 7 เรื่องการจดทะเบียนเกิดและการได้สัญชาติ และ ข้อ 22 เรื่องเด็กที่ลี้ภัย ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงยกเว้นไม่รับรองใน 2 ข้อดังกล่าวต่อไป จนกว่ากระทรวงมหาดไทยและสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะเห็นชอบให้รับรอง

นายวัฒนา กล่าวว่า จะรายงานว่า แม้รัฐบาลไทยจะยังไม่รับรองในอนุสัญญาดังกล่าว แต่ได้มีการดำเนินการเพื่อประกันสิทธิขั้นพื้นฐานให้แก่เด็กทุกคน รวมถึงเด็กต่างด้าวมากขึ้น โดยได้มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 เห็นชอบยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล ให้มีการสำรวจและจดทะเบียนเกิด ตาย ย้ายที่อยู่ และการออกเอกสารแสดงตนแก่บุคคลที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการรับสิทธิด้านต่าง ๆ และมีมติ ครม.เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 เห็นชอบการเปิดโอกาสทางการศึกษาแก่บุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือไม่มีสัญชาติไทย และจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวแก่สถานศึกษาที่จัดการศึกษาแก่กลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมทั้งให้กระทรวงศึกษาธิการจัดการศึกษาแก่เด็กที่หนีภัยจากการสู้รบ โดยให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำฐานข้อมูล และให้สามารถเดินทางไปศึกษาได้เป็นระยะเวลาตามหลักสูตรนั้น ๆ

ละที่สำคัญ กระทรวงสาธารณสุขกำลังจะเสนอ ครม.ให้เด็กทุกคนที่เกิดในประเทศไทย หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทยได้รับสิทธิด้านสุขภาพในโครงการ 30 บาทได้ ซึ่งจะครอบคลุมเด็กไร้สัญชาติ เด็กไร้รัฐ และเด็กที่ลี้ภัยมาด้วย

นายวัฒนา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จะรายงานถึงนโยบายเกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ที่สำคัญ ได้แก่ การประกาศให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ และให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ระดับชาติ และระดับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ การรณรงค์ และควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัวแข็งแรง และการจัดระเบียบหอพักให้มีมาตรฐานเหมาะสมต่อเด็กและเยาวชน และปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก อาทิ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2547

รวมทั้งมีการยกร่างกฎหมายที่สำคัญ ได้แก่ ร่าง พ.รบ.ขจัดความรุนแรงในครอบครัว ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่าง พ.ร.บ.หอพัก ร่าง พ.ร.บ.ปราบปรามวัตถุยั่วยุพฤติกรรมอันตราย และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ....) เรื่องเกณฑ์อายุขั้นต่ำและขั้นสูงในการรับผิดทางอาญา จาก 7 ปี เป็น 12 ปี และจาก 17 ปี เป็น 18 ปี เป็นต้น

 

ผู้จัดการออนไลน์ 1/20/2006

หมายเลขบันทึก: 155705เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2007 19:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 01:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท