ภาพบน คือ จุดสูงสุดในสยามที่ดอยอินทนนท์ ได้รับคำแนะนำจากท่านครูประจำชั้น อภิชาต พุทธเจริญ ว่าให้เอาแม่คะนิ้งที่พบบนยอดดอยเมื่อครั้งไปเยี่ยมเมื่อต้นเดือนธันวาให้ชมด้วย จัดให้ทันทีครับ เพื่อให้ท่านไปชมที่ LA และตอบมาจาก USA โน่น
ส่วนภาพล่าง คือ ภูแปก อยู่ใกล้สถานีทดลองเกษตรที่สูง อ.ภูเรือ อากาศหนาวเย็นจึงทดลองปลูกพืชเมืองหนาวได้ผลดี ครับ ภาษาถิ่นไม่มี "ล" จริง ๆ ก็คือภูแปลก ที่มีธรรมชาติที่แตกต่างไป ใครเคยได้ยินประวัติ "ลานหินแตก" ในสมัยคอมมิวนิสต์ บริเวณที่แห่งนี้ที่เคยเกิดการประทะ ปิดล้อมกันมาพอควร ที่ว่าแปลกสำหรับพวกเรา(วิทยากร และผู้นิเทศศูนย์ไอซีทีโรงเรียนเชียงกลมวิทยา มาจาก สพฐ.และโรงเรียนฟากกว๊านวิทยาคม) คือได้เดินทางขึ้นยอดภูแปกเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินโดยใช้รถอีแต๋น(ภาษาท้องถิ่นเรียกอย่างนี้จริง ๆ) ค่อย ๆ ไต่ขึ้นเขาตามเส้นทางไปสวน ไปไร่ ของชาวบ้านที่แคบ ชัน และขรุขระ ใช้เวล ๑ ชั่วโมงขึ้นยอดเขาระยะทางเพียง ๔ กิโลเมตร ลงอีก ๑ ชั่วโมง ขึ้น ๑๗.๐๐ น. ลงมาถึงพื้นราบ ที่ทำการ สวนรุขชาติ เวลา ๑๙.๓๐ น. ลงมาทั้งมืด ทั้งหิว นั่งรถก็ลำบากแต่ ผอ.ทินกร นนทการ โรงเรียนภูเรือวิทยา และคณะ เจ้าของพื้นที่ ทำกับข้าวไว้รอ ทานกันจนอิ่ม(ทุกคนได้ฟังกิตติศัพท์ และสรรพคุณของปลาซ่อนกั้งที่ผอ.ทินกรเล่าให้ฟัง และทำอาหารนี้โดยหลามในกระบอกไม้ไผ่ จึงรีบทานกันคนละถ้วย สังเกตเห็นผู้ชายเดิมกันหลายครั้งเพื่อจะได้เพิ่มพลัง เท็จจริงเป็นเช่นไรต้องถามกันเอง โดยเฉพาะพี่แหวง กับท่านอภิชาต ดูกระชุ่มกระชวยเป็นพิเศษ มิน่าร้องเพลงทั้งคืน จนตีสาม สบายมาก จริงไหม?) ร้องเพลงคาราโอเกะ(เครื่องเสียงดีมาก) จนตีสามจึงแยกย้ายกันนอน
รุ่งเชาไปเยี่ยมน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านหินสอ หมุ่บ้านที่หนาวที่สุดในสยาม ชมดอกไม้สวย ๆ ที่ สถานีเกษตรที่สูง แล้วแยกย้ายกันกลับ
แวะมาอ่านครับ