อาหารจืดเบาหวาน โปรตีนน้อย

   

 ขอเล่าเรื่องแม่ให้มากหน่อยน่ะเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เล่าอีกนานแค่ไหน แม่ เป็นทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงและไตวาย

   ดังนั้นอาหารที่แม่กินจึงมีข้อจำกัดมากมาย ลูกสาวอย่างเราก็ต้องทำหน้าที่เป็น caregiver ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือ  อ่านหนังสือ เข้าอบรม เรื่องการรับประทานอาหารของผู้ป่วยโรคไต  ประกอบอาหารและให้ความรู้กับแม่ ครอบครัวของเราที่ช่วยกันดูแลกแม่

    เราวิเคราะห์โรคที่แม่เป็นและอาหารที่ต้องจำกัด ได้ดังนี้

   1. เบาหวาน งดรับประทานอาหารที่หวานจัดทุกชนิดโดยเด็ดขาด

   2. ไตวาย ต้องจำกัดอาหารโปรตีนและ Na (เกลือ)

     - มีภาวะ K สูง ต้องจำกัด กล้วย ส้ม

     - คัน จาก ภาวะของเสียคั่ง และ P สูง จำกัด อาหารที่เป็นผง เป็นหัว และที่มีสีดำ

   3. ไขมันสูงตองจำกัดอาหารที่เป็นไขมันจากสัตว์(ไขมันอิ่มตัว)

   4. ความดันโลหิตสูง ต้องจำกัด Na (เกลือ)

    กล่าวโดยสรุป เราจะให้แม่กินอะไรดี ??????????????

    เรากลับมาวิเคราะห์แบบแผนการดำเนินชีวิตของแม่ (life style) เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร

    1. แม่เป็นคนชนบท มีอาชีพทำนา การประกอบอาหารส่วนมากเป็นสิ่งที่หามาเอง ไม่ได้ซื้อ ได้แก่ ปลา ไข่(เมื่อก่อนท่บ้านเลี้ยงเป็ดและไก่ไว้ใช้ไข่ประกอบอาหาร)

    2. แม่ชอบกินอาหารน้ำพริกกะปิและผัก แต่ปัจจุบันกินผักได้น้อยลงเพราะ เคี้ยวไม่ออก(ฟันมีน้อย)

    3. ผลไม้ที่ชอบ กล้วย ฟักทอง ข้าวโพด  

     ดังนั้นการประกอบอาหารให้แม่ ต้องใส่นำปลาให้น้อยลง งดอาหารประเภทหมักดอง อาหารกระป๋อง มีผัก ไข่และปลาเป็นส่วนประกอบหลัก ได้แก่

• นำพริก ผักต้ม      ปรุงรสนำพริกให้มีเปรียวนำไว้ก่อน  ผักต้องหั่นให้เล็กและต้มให้เละ
• ไข่ดาวยำ รสเปรียวนำเช่นเดิม
• ผัดผัดทุกชนิดที่ไม่ใช่ผักที่เป็นหัวใส่ไข่  
• แกงส้ม
• ไข่ดาว
• ไข่ต้ม
• ปลาทอด
• ผัดพริกปลา
• นำมันที่ใช้ประกอบอาหารเป็นน้ำมันทานตะวัน

    แม่ก็กินอาหารที่เราและครอบครัวทำเองมาโดยตลอด อร่อยหรือไม่อร่อย แม่ก็กินข้าวหมดจาน โดยไม่เติม ทุกครั้งไป เพราะถ้ากินไม่หมดจาน ก่อนนอนแม่จะบอกว่าหิวและต้องกินผลไม้หรือขนม(แม่ฉีดยาเบาหวานตอนเย็นด้วย)

    วันที่แม่เข้ารับการผ่าตัดทำเส้นเพื่อล้างไตครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เราพักร้อนเพื่อไปเฝ้าแม่ 4 วัน ทางโรงพยาบาลให้รับประทานยาทางอายุรกรรมเหมือนเดิม เราเตรียมทั้งยาฉีดและยารับประทานไปด้วย 

   เมื่อแม่นอนโรงพยาบาลหอผู้ป่วยเบิกอาหาร จืดเบาหวาน โปรตีนน้อย

   แม่กินข้าวได้น้อยเราพยายามป้อนอย่างไรแม่ก็บอกว่าอิ่มแล้วและไม่ยอมกิน เรากลัวว่าแม่นำตาลจะต่ำเลยเตรียมขนมหวานและข้าวที่ซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้    ประมาณ 22.00 น. แม่เริ่มหาวและบอกว่าหิวข้าว เราแจ้งพยาบาลเจาะเลือดแม่ น้ำตาลเหลือ 57 เราให้แม่กินข้าวและขนมที่เครียมไว้   น้ำตาลของแม่กลับมาเป็นปกติ และเข้ารับการผ่าตัดได้ในเช้าวันต่อมา

    เมือแม่เข้าห้องผ่าตัด โรงครัวนำอาหารมาให้และบอกว่าญาติรับประทานได้เลยเพราะคนไข้ไปผ่าตัดแล้ว เราเลยกินอาหาร  จืดเบาหวาน โปรตีนน้อย  เราก็ได้คำตอบว่าทำไมแม่ไม่กินข้าวของโรงพยาบาล ทั้งๆท่แม่ก็เป็นคน กินง่าย อยู่ง่าย ตาม Style ชาวชนบท

   คำว่า จืด คือ Low salt ไม่ใช่ No salt  อย่าว่าแต่คนป่วยเลย คนปกติอย่างเราก็สงสัยจะมีภาวะน้ำตาลในเลือดตำได้  แค่อยากจะฝากกับโภชนากรที่เข้ามาอ่านและประกอบอาหารเฉพาะโรค ไว้เป็นข้อคิดค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอื่น