เท่าที่ดู เดี๋ยวนี้ในงานสังคมไม่ว่าที่ไหนก็เป็นอย่างที่จขบ. (เจ้าของบล็อก) ว่ามาทั้งนั้นเลยครับ
แทนที่การทำบุญจะเป็นการทำเพื่อให้
กลายมาเป็นทำเพื่อตอบแทน เพื่อสังคม เพื่อชื่อเสียง เพื่อเกียรติยศ หรือเพื่อได้คะแนนจากประชาชน
กลายจากการทำบุญเพื่อสละความโลภ...สละกิเลส
มาเป็นการทำเพื่อยึดเอาความโลภไว้เต็มมือเลยครับ
จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกันละเนี่ย
ฮาฮือ ฮาฮือ
ท่านท้ายอาสน์สงฆ์คะ ขอบพระคณที่เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจ ตอนนี้เปิดเทอมแล้ว การบ้านเยอะมาก แบ่งเวลามาเขียนไม่ได้ และก็ไม่มีเวลาไปอ่านของท่านอื่น เพราะถ้าอ่านก็ต้องแสดงความคิดด้วย ถึงจะสมบูรณ์แบบ ท่านว่างมีเรื่องใหม่ๆ ธรรมะ ธรรมโม ก็เขียนไปก่อนนะคะ แล้วจะไปอ่านย้อนหลังให้เป็นรายๆไป เรื่องและความคิดของท่าน อ่านแล้วมีความรู้ และให้ความคิเดตือนสติได้ดี และแสดงความคิดเห็นดีด้วย แสดงความคิดเห็นตามชีวิตจริงๆ และก็จริงๆด้วย เพราะบางคนทำบุญ เอาหน้า และหวังผลตอบแทน เพื่อตนเองจะได้เป็นเครื่องต่อรอง ในบางสิ่งบางอย่าง และจะมากลับเอาคืนในภายหลัง ไม่ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ ก็คงจะยิ้มแบบแหยๆ ข้างในซ่อนอะไรไว้ลึกๆ นี่หละหนอชีวิต ช่างเป็นไปได้
ฮือ ฮือ ฮือ ร้องไห้ดีกว่า จะได้สบายใจขึ้นบ้าง