เช้าวันนี้ผมมาทำงานตามปรกติ แต่ก็รู้ว่าต้องรีบมาเช้าหน่อย เพราะ คณะศึกษาศาสตร์ มีงานสำคัญที่มีนักการศึกษาในจังหวัดพิษณุโลก มารวมกันที่โรงละคร มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อที่จะประชุมเชิงปฏิบัติการ กลยุทธ์ขับเคลื่อนนวัตกรรมการเปลี่ยนผ่านการศึกษา “สัตตศิลา” ซึ่งตอนแรกผมเข้าใจว่า ตักศิลา ซึ่งเคยได้ยินตอนเมื่อสมัยไปประชุม UKM ครั้งแรก ที่มหาสารคาม แล้วได้เข้าพักที่โรงแรมของเมืองการศึกษา แม้กระทั่งโรงแรมที่ดีที่สุด ก็ชื่อว่าโรงแรม “ตักศิลา”
แต่คำว่า สัตตศิลา นี้มีความหมายว่า หลักเสาหินทั้ง 7 ซึ่งประกอบไปด้วย ผลของความรู้ที่ได้จากการวิจัย ภายใต้การนำของ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทรวานิชย์ ซึ่งได้งบวิจัยจาก สกว. มา 100 กว่าล้าน ในการวิจัย การเปลี่ยนผ่านการศึกษา (Education Transformation) โดย ได้นักวิจัยส่วนกลางจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งนำทีมโดย ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ศ.ดร.สุวิมล ว่องวาณิช และคณะ ได้ทำการวิจัยและพบความรู้ในการเปลี่ยนผ่านการศึกษาสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้
การเปลี่ยนผ่านการศึกษา คือกระบวนการเปลี่ยนแนวทางการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนในยุคสังคมวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่มีความรู้มากมายผ่านช่องทางหลากหลาย ทั้งหนังสือ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ตในยุคสารสนเทศ โดยใช้หลักสัตตศิลา ที่ได้ค้นพบจากการวิจัย ขับเคลื่อนความรู้การเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรทางการศึกษา ซึ่งก็คือโรงเรียน โดยในรอบ ๓ นี้ มีโรงเรียนในโครงการที่เข้าร่วมจากจังหวัดพิษณุโลก และอุบลราชธานี
การที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านการศึกษาสามารถดำเนินการได้สำเร็จ โรงเรียนต้องมีการปรับกระบวนทัศน์ทางการศึกษา ปรับระบบการเรียนรู้ และการปรับโครงสร้างพื้นฐานการเรียนรู้
๑. การปรับกระบวนทัศน์ทางการศึกษา
การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ใหม่ คือการเปลี่ยน วิธีคิด เปลี่ยนปรัชญาการเรียนรู้ และการบริหารจัดการศึกษาใหม่ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน
๒. การปรับระบบการเรียนรู้
๓. การปรับโครงสร้างพื้นฐานการเรียนรู้
ถ้าตามหลักสัตตศิลา พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสำคัญที่สุดครับ ผมฟังแล้วยังสะท้อนตัวเองว่า เรามีเวลาที่ทำกิจกรรมกับลูกน้อยไปครับ เพราะไปคิดฝากความหวังการศึกษาอยู่ที่ครู แต่ความจริงแล้ว ลูกจะเรียนเก่ง เรียนอย่างมีความสุข เป็นนักอ่าน ช่างสังเกตุ รู้จักค้นคว้าหรือไม่ อยู่ที่แม่แบบ พ่อแบบ ซึ่งก็คือพ่อแม่นี่เองครับ