ปัจจัยที่เป็นตัววัดความเจริญกาวหน้าทางเศรษกิจ และ สังคมของแต่ละประเทศ คงไม่มีใครปฎิเสธได้ว่า "การกีฬา" เป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดได้ว่าประเทศนั้น ๆ มีความเจริญก้าวหน้าเพียงใด ประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมหรือที่เรามักเรียกติดปากว่า "ประเทศที่พัฒนาแล้ว" มีมาตรฐานทางด้าน "การกีฬา"อยู่ในระดับแนวหน้าหรืออันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า "ระดับสติปัญญาของประชากรในประเทศนั้นๆ"อยู่ระดับสูงเพียงใด
จากข้อความข้างต้นสอดคล้องกับแนวคิดของนักจิตวิทยาท่านหนึ่งที่มีความเชื่อที่ว่า
"โดยทั่วไปสิ่งที่ดีทั้งหลาย มักจะไปด้วยกันเสมอเช่นผู้ที่มีระดับสติปัญญาสูงมักจะเป็นผู้มีคุณสมบัติที่ดีอย่างอื่นด้วย"
(Edward l. Thorndike)
ซึ่งได้รับการสนับสนุนแนวความคิดโดย ศาสตราจารย์เลวิส เอ็น. เทอแมน แห่งมหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด
ได้ทำการศึกษาบุคคล 1,500 คน ที่มีระดับ I.Q. 140 ขึ้นไป พบว่าบุคคลที่มี I.Q. ระดับนี้ "มีสุขภาพทางกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีการปรับตัวทางสังคมดี และมีทัศนคติทางด้านศีลธรรมดีกว่าคนท้วไปอย่างเห็นได้ชัด" 30 ปีต่อมา ศาสตราจรย์ ได้ทำการศึกษาประชากรกลุ่มเดิม ปรากฏว่า "การตาย การวิกลจริต และการเป็นโรคโดยเฉพาะโรคพิษสุราเรื้อรัง อยูในระดับที่ตำกว่า"
(จาก หลักการทางพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ Jesse Feiring Willaims เขียน ศาสตราจารย์วรศักดิ์ เพียรฃอบ แปล)
" จิตวิทยาการศึกษาไม่สามารถ ไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของร่างกายมนุษย์ไปได้ โดยพื้นฐานที่ว่าสิ่งนี้เองที่มนุษย์มีอยู่ และมนุษย์ต้องเป็นอยู่ดังนั้นการพลศึกษา( หรือการศึกษาที่ใช้กิจกรรมทางกายเป็นสื่อในการเรียนรู้) เป็นการศึกษาอย่างเดียวที่ทำให้มีการเรียนรู้เกิดขึ้น หรือ ทำให้มีขึ้นได้ "
(ศาสตราจารย์ฮาร์ทแมน )
เรื่องการยกระดับมาตราฐานของประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านในก็ตาม ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของใครบางคน คนบางกลุ่ม หน่วยงานราชการ หรือภาครัฐเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของคนทั้งชาติ ที่จะต้องช่วยกัน จะมากหรือน้อยแล้วหน้าที่ ที่ตนเองรับผิดชอบ ว่าจะช่วยได้มากน้อยขนาดใหน อย่างน้อยที่สุด บุตรหลาน เพื่อนพ้อง พี่น้องญาติมิตร คนไกล้ชิด ช่วยกันแนะนำช่วยกันส่งเสริม อนาคตของชาติ ( เยาวชนปัจจุบัน ) จะได้ไม่ใช้เวลาว่างผิดไปจากสิ่งดีงาม อย่างเช่น เด็กแว้นหรือเยาวชนที่ใช้เวลาจับกลุ่มมั่วสุม และยกพวกถืออาวุธไปออกกำลังกาย( ยกพวกตีกัน) กับกลุ่มเยาวชนต่างสถาบัน เลิกปลูกฝังทัศนคติที่ผิด ๆ ระหว่างสถาบันกับสถาบันแล้วหันมาปลูกฝัง " การออกกำลังในทางที่ถูกกันดีกว่า " จะได้แสดงให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าประเทศไทยก็มีระดับสติปัญญาที่อยู่ในระดับสูงเหมือนกัน
เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เรามาช่วยกัน สร้างความเจริญก้าวหน้าของประเทศให้ โดยการปลูกฝังให้เยาวชนรักและมีทัศนคติที่ดีต่อการออกกำลังกาย รู้จักคุณค่าของการออกกำลังกาย เพื่อจะได้มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง จิตใจปลอดโปร่งแจ่มใส เติบโตไปเป็นพลเมืองที่มีค่าต่อสังคม เป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ ก้าวไปเป็น"ประเทศที่พัฒนา"แล้ว อย่างยั่งยืนสืบต่อไป
จากครูพละ
you 'll never walk alone
ดีใจจังเลย มีครูที่ขยันขันแข็ง สมกับเป็นนักกีฬาอาวุโสของโรงเรียน
คุณครูมีเคล็ดลับอะไรให้เด็กที่ครูสอนรักการกีฬาค่ะ