ผมฝันว่า
ร่วมรักกับ สมัคร สุนทรเวช
ผมฝันว่า ได้ร่วมรักกับ สมัคร สุนทรเวช
เป็นความประหลาดใจอย่างมากในชีวิตผม
นานหลายปี หลังจากไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นในชีวิต
หลังจากไม่เคยมีฝันประหลาดติดพันกันมานานหลายปี
จนผมต้องหาทางออกในชีวิต
ผมโทรศัพท์ปรึกษากับเพื่อนที่เป็นจิตแพทย์ นั่งคุยกับเพื่อนที่เป็นนักจิตบำบัด และนั่งปรึกษาหารือในวงเหล้า เพื่อหาทางออกในชีวิต ด้วยความไม่เข้าใจและโดยความวุ่นวายใจ ซึ่งประดังในใจผม
หลังจากคืนนั้น คืนที่ผมตื่นขึ้นมากลางดึก
ค่ำวันนั้น
ผมนั่งดูข่าวคุณสมัคร สุนทรเวช ได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกพรรคพลังประชาชน ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พร้อมกับคำประกาศว่า เป็น นอมินี ของคุณทักษิณ ชินวัตร พร้อมทั้งประกาศความมั่นใจจะเป็นรัฐบาล
ก่อนที่คืนต่อมา จะมีเรื่องระอุในใจผม
คุณสมัคร ประกาศว่า จะปฏิบัติงานชิ้นแรกหลังจากได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือ ได้จัดตั้งรัฐบาล ด้วยการผลักดันให้เกิดการนิรโทษกรรมทางการเมือง และยกเลิกความผิด ให้แก่กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน
ผมไม่แน่ใจตัวเองขึ้นมาทันที หลังการตื่นขึ้นในกลางดึก
ผมเริ่มหวั่นไหวและถามตัวเองซ้ำซ้ำกันอยู่เสมอ ว่าเป็นคนพวกรักร่วมเพศแล้วหรือ ผมกำลังจะเปลี่ยนโหมดทางเพศหรืออย่างไร หรือผมกลัดกลุ้มอะไรในใจ มากมายจนถึงกับต้องระบายออก
ด้วยการร่วมรักกับคุณสมัคร สุนทรเวช
คำปรึกษาส่วนใหญ่ ถามถึงความรู้สึกในขณะเกิดเรื่องขึ้น
ถามว่าผมรู้สึกอย่างไรในขณะร่วมรัก ถามว่าผมคิดอะไรอยู่ในขณะนั้น และที่ผ่านมาผมเคยคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้หรือไม่ หรือเคยคิดว่าได้ร่วมรักกับใครบ้าง
ให้ตายเถอะครับ ผมนึกว่า
ผมกำลังปรึกษาหมอเรื่องความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ผมอธิบายในทุกขั้นตอนของการร่วมรักให้หมอฟัง อธิบายให้เพื่อนนักจิตบำบัด อธิบายให้เพื่อนในวงเหล้าฟัง ในแทบทุกขั้นตอน
ผมรำลึกเรื่องราวเหล่านั้น
หลังจากได้ทำรายงานวิจัยในหอจดหมายเหตุ ผมเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งระบุคำกล่าวของคุณสมัคร ในวันที่ 5 และวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ผมเปิดหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์เหลืองกรอบด้วยความระมัดระวัง
ความกลัวที่จะทำให้กระดาษหนังสือพิมพ์ยุ่ยไปกับมือ
ไม่เท่ากับกับการอาการขนลุก
ผมขนลุกขนพอง เหมือนอยากเข้าห้องน้ำ
ขนแขนตั้งชันเมื่อเปิดอ่านพบ ถึงข้อความที่มีคนพูดว่า คนเหล่านั้นไม่ใช่คนไทย แต่เป็นพวกแกว เป็นคนต่างชาติ เป็นคอมมิวนิสต์ และอีกมากมายที่ทำให้ผมขนลุกขนพอง
แต่ขนแขนที่ลุกยืนขึ้นมา เหมือนกำลังถามผมว่า รู้สึกอะไรบ้าง
ผมไล่อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไปจนหมด และหลังจากนั้นผมต้องกลับมาเขียนรายงานสรุป และอธิบายลำดับเนื้อหาตามจังหวะเวลา จนกระทั่งผมได้มีโอกาสนั่งฟังเทป Reel ที่สามารถบันทึกเสียงของ วิทยุยานเกราะ ในวันนั้นได้
ผมไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นในใจตัวเอง
แต่ผมนึกถึงเรื่องราวใน Godfather
หลังจากนั้น ผมฝันติดต่อกันนานนับสัปดาห์ ก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2519 จะครบรอบ 20 ปี ในปี 2539 แต่ในปี 2549 ผมกลับมีไม่ความฝันอะไรเลย ผมไม่รู้ว่าความฝันของผมหล่นหายไปไหน ผมเหมือนคนไม่มีความฝัน นานหลายปีที่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องราวเหล่านี้
ในครั้งนั้นผมฝันติดต่อกันนานสัปดาห์
ผมฝันว่า
ผมตัดคอม้าไปวางไว้บนเตียงข้างตัวคุณสมัคร สุนทรเวช หลังจากนั้น ผมฝันว่าตัวเองได้อุทานขึ้นมาว่า
เฮ้ย ไม่ใช่ ต้องตัดหัวแมว
ใช่ผมตัดสินในความฝันใหม่ ผมตัดหัวแมวไปวางไว้บนเตียง
ผมอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้หมอฟังเป็นคนแรก หลังจากนั้นผมได้ลำดับความถึงความคับแค้นใจบางอย่าง เหมือนได้นั่งเขียนหนังสือออกมาจากเรือนจำ โดยฝันว่าตัวเองเป็นนักโทษการเมือง เขียนจดหมายเป็นเหมือนหนังสือ จนต่อมาได้รับการตีพิมพ์ และใช้ชื่อว่า เราคือผู้บริสุทธิ์
ผมเริ่มต้นลำดับความ ว่ามันได้หายไปนานมาก
ผมอธิบายสุขภาพทางเพศของผม ว่าผมมีแฟน เคยมีคนรัก และกิจกรรมสำคัญเพื่อออกกำลังชีวิตและจิตใจของผมอย่างสม่ำเสมอ ผมมีเพื่อน มีสังคม มีหน้าที่การงานที่ดีขึ้นตามลำดับ จะตกต่ำย่ำแย่ก็เป็นเพียงบางช่วง ไม่มีเรื่องให้ต้องสะเทือนใจอะไรมากนัก ยกเว้นหมาที่รักของผมมาตายจาก
แต่นี้ไม่ใช่หมา
ผมไม่ได้รับคำตอบจากหมอเท่าที่ควร เพราะหมองานยุ่งมาก แต่ผมได้รับคำตอบจากเพื่อน จากเพื่อนนักจิตบำบัด ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า เป็นความคับแค้นใจ เป็นความกลัดกลุ้มของตัวเอง หรือเพราะผมไม่ยอมลืมเลือนเรื่องราวของอดีต มันเลยกลายเป็น
สิ่งที่ตกค้างในใจผมมานาน และผมก็เลยฝัน
แต่สำหรับคำตอบที่ทำให้ผมต้องคิดมาก ปรากฏขึ้นในค่ำคืนของวงเหล้า
กูถามก่อนว่า มึงเป็นคนทำ หรือเป็นคนถูกกระทำ
ผมจำได้ว่า ในความฝัน ในขณะร่วมรัก
ผมเป็นคนกระทำและกระทำด้วยความรุนแรง ผมเป็นผู้กระทำ และผมกระทำการร่วมรักในค่ำคืนแห่งความฝันนั้น
นั่นแหละ คือหัวใจสำคัญ มึงคือชายเหนือชาย
มึงเก็บความเจ็บช้ำน้ำใจ และความร้นทดคับแค้นเหล่านั้น พอถึงจุดหนึ่งมันเลยออกมาเป็นฝันว่ามึงตัดหัวแมวไปวางไว้ข้างตัวแล้ว แต่มันดันไม่เกิดอะไรขึ้น พฤติกรรมยังเหมือนเดิม นิสัยยังเหมือนเดิมปากยังเหมือนเดิม
ร่างกายมึงจิตสำนึกมึง จิตใต้สำนึกมึงเลยเริ่มทำงานใหม่อีกครั้ง ทั้งหมดมันทำงานประมวลผลใหม่ เหมือนกับว่า โจทย์ที่มึงเคยตั้งไว้ว่า มึงจะฆ่ามัน จะฆ่าคนที่มันรัก จะด่าทอคนที่มันรัก จะฆ่าสิ่งที่มันหวงแหนที่สุด แต่มันกลับไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านั้น มึงเลยเริ่มต้นฝันใหม่ เริ่มต้นความฝันครั้งใหม่
มึงเลยกลายเป็นผู้กระทำ
แล้วในค่ำคืนนั้น เราได้ปรึกษาเรื่องราวในความคับแค้นใจหลายอย่างของผม ผมปรึกษาในแทบทุกเรื่องราว ผมปรึกษาถึงความหมายที่แฝงอยู่ในใจตัวเอง คิดถึงเรื่องเก่าๆ ที่เคยทำให้ผมต้องทำงานวิจัยชิ้นนั้นด้วยน้ำตา คิดถึงคืนวันเก่าๆ ที่เคยสะเทือนใจ
จนกระทั่งมาจบในค่ำคืนความฝันที่ผมได้ร่วมรัก
ในค่ำคืนนั้น ผมไม่คิดว่าจะพบกับคำตอบที่น่าประหลาดใจ
จนกระทั่งเมื่อผมถูกเพื่อนคำถามสุดท้าย ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องอื่นต่อ ด้วยความรื่นเริงและเบิกบานใจของผม ตอนฝันตอนนั้น มึงส่องกระจกหรือเปล่า
ใช่ ผมส่องกระจก
แล้วมึงเห็นหน้าตัวเองหรือเปล่า
เปล่าไม่เห็น
เห็นแต่หน้าสุธรรม แสงประทุม ที่นอนกอดกับ สมัคร สุนทรเวช
สมัคร สุนทรเวช
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นายสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองและนักพูดที่มีชื่อเสียง เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2478 ที่กรุงเทพมหานคร บ้านหน้าวังบางขุนพรหม ถนนสามเสน บิดาคือ เสวกเอกพระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช) มารดาคือ คุณหญิง บำรุงราชบริพาร (อำพัน -สกุลเดิม จิตรกร)
เป็นหลานลุงของ มหาเสวกตรี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) นายแพทย์ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นหลานตาของมหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) จิตรกรประจำราชสำนัก
หลังจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เส้นทางการทำงานของสมัครเริ่มจากการเป็นสื่อสายการเมือง โดยเขียนบทความและความคิดเห็นทางการบ้านการเมืองแบบไม่ประจำในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ, สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 และเขียนไปถึง พ.ศ. 2516
สมัคร ข้ามจากการเป็นสื่ออย่างเดียวมาเริ่มต้นชีวิตทางการเมืองโดยเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2511 ลงสมัครในระดับต่างๆ ไล่ขึ้นมาจากท้องถิ่น จนมีบทบาทโดดเด่นในช่วงปี 2519 จัดรายการทางสถานีวิทยุยานเกราะ คัดค้านโจมตีบทบาทของขบวนการนักศึกษาในสมัยนั้น ปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังขบวนการนักศึกษาจนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
และเมื่อสิ้นสุดเหตุการณ์ เขาได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเมื่ออายุได้เพียง 41 ปี ควบคู่กับการแยกออกมาก่อตั้งพรรคประชากรไทย มีฐานคะแนนเสียงหลักใน กทม. บางเขตที่มีหน่วยทหารอยู่หนาแน่น
ความคิดและบทบาทของเขามักจะสร้างกระแสมวลชนทั้งหนุนและค้านวิจารณ์ได้กว้างขวางร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 6 ตุลา , พฤษภาทมิฬ 35, ไอเดียหนุนกระทงโฟม, ไล่มาจนถึงการกล่าวโจมตีประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ทางทีวีเมื่อต้นปี 2549
แต่แฟนประจำไม่น้อยก็ชื่นชอบลีลาการหาเสียงที่ระดมอัดตัวเลขข้อมูลบรรยายโครงการก่อสร้างต่างๆ จนเห็นภาพสวยงาม สำนวนที่สนุกสนานดุเดือดไม่เคยน่าเบื่อ และลีลาการทำอาหาร "ชิมไปบ่นไป" กับความรักแมวที่มั่นคงตลอด
สวัดสดีครับ
สวัสดีครับพี่ Kati
- เป็นความฝันที่มีความหมาย ความหมายที่ลึกซึ้งมากมาย หากไม่อ่านให้ดี ด้วยความอ่อนน้อม ไม่อ่านด้วยความละเอียดหรืออ่อนโยน อาจจะทำให้แปลงานเขียนออกไปผิดเพี้ยนจากสิ่งที่ต้องการสื่อมากครับ
- ผมไม่เคยฝันถึงคุณ สม. คนนี้เลย ผมเห็นแต่ขยะทางจิตวิญญาณที่มากมายเกินกว่าที่จะกู่กลับของชายผู้นี้ บางครั้งผมจึงคิดว่าก็เพียงรับรู้ แต่ไม่พยามที่จะรู้สึกกับชายผู้นี้มากนัก
- ขอบคุณการแลกเปลี่ยนที่ก่อให้เกิดความคิดที่ดีงาม ของทั้งสองท่านข้างต้นครับ แม้จะแตกต่าง แต่ก็สร้างสรรค์ ความคิดเห็นของเราล้วนสะท้อนความคิด ความรู้สึก อารมณ์ และจิตวิญญาณภายในที่เราสั่งสมมามากมายครับ พร้อมชี้ถึงการพัฒนาในชีวิตอนาคตของเราด้วยครับ
- ผมได้วากรรมที่สำคัญจากพี่ชายท่านหนึ่ง ที่เป็นสหายเดือนตุลาที่มุกดาหาร ท่านกล่าวว่า คนเราต้องปฏิวัติความคิด และจิตใจของเราตลอดเวลา เพื่อให้เติบโต งดงามมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆครับ