คอขวดทางการศึกษาคืออะไร


คอขวดทางการศึกษาคืออะไรใครตอบได้

คอขวดทางการศึกษากรุณาแนะนำ

การจัดการศึกษาของไทยได้วิวัฒนาการมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยผ่านขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ประกอบกับได้มีการก่อเกิดทฤษฎีทางการศึกษาใหม่ ๆ จากทั้งในและต่างประเทศ และสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นตัวแปรที่สำคัญ ผนวกเข้ากับความเจริญด้านเทคโนโลยีที่ก้าวอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้สังคมมองการศึกษาว่าไม่สามารถจัดให้กับประชากรได้อย่างมีคุณภาพ โดยยึดเอามาตรฐานของต่างประเทศมาเป็นบรรทัดฐานจนลืมรากเหง้าของความเป็นไทย ซึ่งเป็นสังคมเกษตรกรรมไปเสียสิ้น        จากประเด็นปัญหาการศึกษาของไทยไม่สามารถจัดให้กับประชากรได้อย่างมีคุณภาพนั้น อาจมีมูลเหตุเนื่องมาจากระบบการบริหารจัดการเกี่ยวกับการเรียนการสอนในชั้นเรียนไม่มีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากครูมีเวลาทุ่มเทและพัฒนาเกี่ยวกับการเรียนการสอนให้กับเด็กน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นการให้เวลากับการตรวจการบ้านน้อยลง ครูไม่ได้เตรียมการสอน ครูมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กลดลง ความผูกพันระหว่างวิญญาณความเป็นครูกับศิษย์ลดลง และที่สำคัญที่สุดคือประสิทธิภาพทางการสอนของครูที่ฝึกฝน อบรม เล่าเรียน กันมาตั้งแต่ปริญญาตรี จนถึงปริญญาโท หรือบางท่านจบถึงปริญญาเอกก็ไม่สามารถถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ศิษย์ได้อย่างสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์        ปัญหาดังกล่าวน่าจะมีสาเหตุมาจากระบบการบริหารจัดการเกี่ยวกับการเรียนการสอนในชั้นเรียนไม่มีประสิทธิภาพ กล่าวคือนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างครู   ที่ทำหน้าที่หลักทางการสอนไปทำภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน) ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า ครูในยุคปัจจุบันนอกจากจะทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนแล้วยังต้องรับภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)อีกด้วย ทำให้เวลาส่วนหนึ่งที่ครูจะทุ่มเทให้กับงานสอนลดลงไป ทีนี้เมื่อพูดถึงภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)แล้วคนที่อยู่นอกวงการอาจไม่เข้าใจ จึงขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนเด็กเลยแต่เป็นงานที่สนับสนุนการสอน โดยผู้บริหารมอบหมายให้ทำและครูควรต้องทำ เช่น  งานทะเบียนนักเรียน งานวัดผลประเมินผล งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน งานประกันคุณภาพการศึกษา งานอาหารกลางวัน  งานธุรการ งานการเงิน งานพัสดุ งานข้อมูลสารเทศ งานนโยบายและแผนฯ งานสวัสดิการร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียน งานอาคารสถานที่ เป็นต้น        จะเห็นได้ว่างานบริหารมีบทบาทต่อครูอย่างน้อย 1 งานขึ้นไปต่อคน ยิ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กเข้าไปแล้วก็ไม่ต้องถามเลยว่าจะหนักขนาดไหน ทั้ง ๆ ที่จำนวนครูก็น้อยแต่ต้องรับภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)ให้เหมือนกับโรงเรียนขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ อีกด้วย       ดูแล้วก็น่าหนักใจและเห็นใจกับคุณครูผู้สอนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ลองนึกภาพถึงครูในสมัยที่เขายังเป็นนิสิตปริญญาตรีทางการศึกษาอยู่นั้น สถานศึกษาแต่ละแห่งก็ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการสอนเพื่อจะนำไปใช้แก่ศิษย์ในอนาคต แต่พอทำงานเอาเข้าจริง ๆ กลับลดบทบาทความสำคัญลงไป โดยสังเกตได้จากผู้บริหารสถานศึกษาส่วนใหญ่มักกล่าวอ้างว่า ครูทุกคนนอกจากสอนแล้วทุกคนต้องทำภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)ด้วย เพราะบุคลากรของเรามีจำกัดต้องมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน โดยทางปฏิบัติแล้วครูที่มุ่งทำภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)ให้เด่นจะเป็นที่โปรดปรานของผู้บริหารเป็นอย่างมาก และมักได้รับพิจารณาความดีความชอบอยู่เสมอ โดยผู้บริหารมักจะให้เหตุผลว่าเป็นบุคคลที่อุทิศเวลาให้กับโรงเรียน ถ้ายิ่งกลับบ้านเย็น ๆ ทำงานภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)ให้ผู้บริหารเห็นบ่อย ๆ ก็จะก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว       เรื่องนี้ฟังแล้วก็ไม่น่าจะตำหนิผู้บริหารสักเท่าไรเพราะถ้าครูไม่ทำงานภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)นี้แล้วใครจะทำให้ซึ่งก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน... ขืนไม่มีคนทำงานภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)ให้แล้วจะรายงานต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้อย่างไร        ถ้าเราอยากให้อาชีพครูเป็นวิชาชีพที่มีมาตรฐานเหมือนกับอาชีพอื่น เช่น อาชีพแพทย์ อาชีพ ผู้พิพากษา หรืออาชีพชั้นสูงอื่น ๆ ได้นั้น เราต้องยอมรับความจริงและเข้าใจปัญหาทางการศึกษาในส่วนนี้ให้มาก ถึงแม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะฝึกฝน อบรม พัฒนาครู ตามโครงการต่าง ๆ           ที่กระทรวงศึกษาธิการจัดให้เป็นอย่างดี แต่การศึกษาของไทยก็ไปได้ไม่ไกลเหมือนกับอารยประเทศที่เจริญแล้วได้ ถ้าเรายังไม่รู้จักแก้ไขปัญหาที่คอขวดทางการศึกษาให้ได้เสียก่อน        ทีนี้แล้วบางคนก็ยังสงสัยอีกว่า คอขวดทางการศึกษา คืออะไรกันแน่  ก็ขอตอบได้เลยว่า             เป็นภาระงานที่นอกเหนือจากหน้าที่หลักทางด้านการสอน(งานสายสนับสนุนการสอน)ที่คอยขัดขวางงานการเรียนการสอนของครูและเด็กให้มีประสิทธิภาพนั่นเอง        แล้วทำอย่างไรล่ะที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวโดยให้ครูอยู่กับเด็กได้มากขึ้น มีเวลาเตรียมตัวสอนและอบรมเด็กได้มากขึ้น ตรวจการบ้านเด็กได้มากขึ้น หรือให้ผู้บริหารมานิเทศติดตามการเรียนการสอนในชั้นเรียนของครูได้มากขึ้น ไม่ใช่เหมือนในปัจจุบันที่ผู้บริหารเดี๋ยวก็ไปประชุมโน่นบ้าง ประชุมนี่บ้าง เดี๋ยวก็มีโครงการแปลก ๆ มาให้ครูทำอยู่เนือง ๆ และบางครั้งก็มีหน่วยงานอื่นมาขอข้อมูลโดยให้ครูช่วยทำบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นการรบกวนประสิทธิภาพการสอนของครูลงไป        ท้ายนี้เราสงสารครูที่ทำงานในยุคปัจจุบันมาก บางท่านทุ่มเทงานสอนมากกว่างานสายสนับสนุนการสอน(วงการครูเรียกว่า"งานพิเศษ")  แต่กลับถูกมองข้ามความสำคัญไป โดยผู้บริหารกลับมองเห็นความสำคัญของภาระงานบริหารมากกว่างานสอนเสียอีก จริงหรือไม่ต้องถามผู้ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษาก็คงจะเข้าใจกันดี

หมายเลขบันทึก: 146199เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2007 18:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ม่ายมีสายทางการศึกษาหรอที่จะสอบเข้าเปงครูได้งะ

ต้องมีบุคลากรสายสนับสนุนการสอนทำงานแทนครู

ให้ครูอยู่กับนักเรียนมากขึ้น จึงจะดีขึ้นครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท