ในเลาหนึ่งสมัยผมวัยรุ่นกำลังจะก้าวข้ามสู่เยาวชนและวัยผู้ใหญ่ ผมเรียกร้องในใจด้วยไฟแห่งฝัน ที่พร้อมจะเดินออกจากบ้านและการดูแลของพ่อแม่สู่โลกแห่งเสรีและท้าทาย สู่การแสวงหาไขว่ขว้าความสำเร็จ เพื่อชีวิตผม พ่อแม่ เพื่อชื่อเสียงศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล เพื่ออุดมการณ์แห่งอุดมคติ เพื่อโหยหาความรักและการครองคู่สร้างชีวิต หลายสิ่งเป็นไป ทั้งเพื่อตนเอง และผู้อื่น
ผมอยากออกไปไกล ๆ จากบ้าน อยากออกไปท่องเที่ยวหาสิ่งแปลกใหม่ อยากรู้จักผู้คนสถานที่ ให้กว้างออกไป อยากใช้ชีวิตด้วยความรับผิดชอบตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ และไม่รู้สึกเกรงกลัวสิ่งใด
นั่นกระมังวัยแห่งความฝัน วัยแห่งการแสวงหา วัยแห่งหนุ่มสาว วัยแห่งดอกไม้บาน วัยแห่งการสร้างสรรค์
ผมผ่านเวลาและวันครั้งแล้วครั้งเล่าเนิ่นนานแห่งการเปลี่ยนผ่าน ผมคิดว่าผมเข้มแข็งมั่นคงพอที่จะใช้ชีวิตได้บนโลกแห่งความจริง แม้ต่างจากความคิดเห็นในยุคสมัยแห่งวัยฝัน แต่สิ่งต่าง ๆ ที่ได้พบจากการแสวงหาและเรียนรู้ผ่านมานั้นก็เป็นสิ่งสำคัญช่วยนำทางแห่งการใช้ชีวิตผ่านมาและผ่านไปได้อย่างดีเยี่ยม .....ผมอยู่ในวัยแห่งการหยุดนิ่งทบทวน สับสนและแสวงหา ผสมกลมกลืนจนบอกไม่ถูกเช่นกันว่า วัยแห่งการจะเปลี่ยนผ่านไปจากนี้ คือการตามฝันอีกครั้งในวัยแห่งหนุ่มสาวหรือไร หรือจะเป็นวัยแห่งการทบทวนและเพียงพอ ผมมีโอกาสมากมายที่สรุปได้ในความคิดสู่การทบทวนชีวิตเพื่อเข้าหาสิ่งจริงแท้แน่นอนแห่งชีวิตบนโลก ......และผมมีโอกาสมากมายที่จะออกไปแสวงหาสิ่งสวยงามอิ่มเอมแห่งความต้องการที่ไร้ขีดจำกัดของมนุษย์
เรื่องราวบางอย่างบางช่วงชีวิต รุมทำร้ายจิตใจและความสงบสุขของวิถีทางของผมไม่น้อย ให้รู้เถอะว่า .........บางทีผมอ่อนแอและไม่อยากต่อสู้กับอคติ การเอาเปรียบ ความรุนแรง สัญชาตญาณแห่งการล่า ความผุพังของความรักความปรารถนาดีบนพื้นดินและสังคม
ผมประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว ผมไม่อยากไขว่ขว้าสิ่งเกินจำเป็นแห่งการใช้ชีวิตแล้ว ผมไม่อยากเดินออกไปปิดโอกาสแห่งทางชีวิตของผู้อื่น และผมไม่อยากลงสนามเพื่อการแข่งขันอย่างมีเดิมพันอีกแล้ว
ผมคิดถึงบ้าน........และอยากกลับไปทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต และเริ่มเวลาแห่งการสร้างสรรค์สิ่งดีงามและเข้าหาให้ใกล้ความจริงที่จิตใจจะเรียนรู้รับได้
ผมคิดถึงพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด ที่ท่านคงมองดูความเป็นไปของผมและอาจคาดหวังให้ผมกลับไปดูแลใกล้ชิดท่าน
สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในการคาดหวังของครอบครัวเรา ไม่ว่าจะเป็น เงินทอง เกียรติยศ ความปลอดภัย มั่นคง ความรัก ผมคิดว่าเราต่างมีและพอเพียงแล้ว และชีวิตแห่งเราก็กำลังเดินทางไปข้างหลัง
ผมคิดว่า ......ผมต้องทำหลาย ๆ สิ่งให้ช้าลงเพื่อทำบางอย่างให้เร็วขึ้น พร้อมทั้งต้องทำบางอย่างให้เร็วขึ้นเพื่อให้หลาย ๆ สิ่งช้าลงไป
ผมจะกลับไปตัดสินใจอีกครั้งที่.......บ้าน
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับครูอ้อย
ดีใจครับที่คิดเหมือนผมเช่นกัน เป็นความรู้สึกที่แย่บางทีของช่วงชีวิตน่ะครับ แต่ความจริงคือผมยังไม่สามารถหลีกหนีจากสิ่งรอบตัวได้
มันจึงต้องต่อสู้ไปอีก กำลังใจก็จากที่นี่ส่วนหนึ่งครับ
ถูกเผงครับต้องระงับการเปลี่ยนแปลงในใจกายเราเองให้ได้ และก็เชื่อว่าการยึดมั่นในสิ่งดีงามก็จะช่วยให้ปลอดภัยครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
สวัสดีครับคุณออต
แน่นอนครับพบกันที่ดงหลวง และผมติดตามทุกเรื่องราวในการเตรียมตัวสู่ที่นั่นครับ
ขอบคุณครับ
น้องสุมิตรชัย มีแรงขับมากมายนะเนี่ยะ ดีครับที่ชีวิตมีการทบทวน นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่คนเราควรจะมีช่วงเวลาเช่นนี้ครับ
พบกันครับน้องสุมิตรชัย
มาเยี่ยมให้กำลังใจค่ะ ความ "พอกิน-พอใช้" ในเศรษฐกิจพอเพียง คือสิ่งที่ดีที่สุด
เรื่องค่านิยมของแต่ละคน (Personal Value หรือ Philosophy of Life) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากความสุขของแต่ละคน ย่อมจะมาจากตัวเราเอง คนเราจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้น เมื่อพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไม่เปรียบเทียบกับผู้อื่น เราจะพบความสุขจากภายในตัวเราเองสวัสดีครับพี่บางทราย
ครับผม ผมพยายามทบทวนอยู่เสมอครับ และก็เพราะว่า ผมอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขทั้งเพื่อตัวเอง ผู้อื่น ด้วย
จึงไม่อยากอยู่ในการแข่งขันใด ๆ แล้วครับ แม้แต่กับตัวเอง คล้ายเหมือนจะหมดไฟไหมครับ
แต่ผมว่าผมเป็นพวกสุขนิยมมากกว่า แต่ทั้งนี้หากพูดถึงอุดมการณ์ที่เคยยึดถือและกลุ่มผองเพื่อนร่วมความคิดแล้ว สิ่งนี้ยังคงขับผมออกไปสู่ความขัดแย้งทั้งทางความคิดและการกระทำ
นั่นคงเพราะยังไงผมก็อยู่ในสังคมนี้ครับสังคมที่ยังมีการล่าเป็นพื้นฐาน
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับพี่ sasinanda
เรื่องค่านิยมของแต่ละคน เห็นภาษาอังกฤษที่ในวงเล็บว่า philosophy of life ยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ว่าเป็น "ปรัชญาแห่งชีวิต" หรือความจริงแห่งชีวิต
หรือถ้าหากจะเชื่อมโยงเข้ากับนิยามการมีสุขภาพดีขององค์การอนามัยโลกที่พูดถึง กาย จิต สังคม และจิตวิญญาณ ผมว่าเป๊ะเลยครับ
ความสุขจากภายในตัวเราเอง และการนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี
คนที่คิดถึงปรัชญาแห่งชีวิตตัวเองได้ และให้ค่านิยมของตัวเองได้เหมาะสมกับสภาวะที่ตนดำรงอยู่ได้จริง ( การปรับตัว ) จึงจะมีความสุขได้ใช่ไหมครับ
คิดแล้วโชคดีจริง ๆ ครับว่าผมคิดถึงตรงนี้ได้
ขอบคุณที่ช่วยเติมความคิดผมให้มากและชัดขึ้นอีกครับ
สวัสดีค่ะ
อ่านสิ่งที่คุณสุมิตรชัยถ่ายทอดแล้วทำให้คิดถึงหนังสือเล่มนึงที่พี่เคยอ่านตอนเรียน...นานมากแล้วเป็นหนังสือที่มีภาพวาดประกอบ ที่มีชื่อว่า "ฉันกำลังตามหาสิ่งที่หายไป"
เป็นเรื่องราวของการแสวงหาความสมบูรณ์และความสมดุลย์ในตัวเอง เจ้าของเริ่องราว...เดินทางยาวนานบนเส้นทางแห่งการแสวงหา พบปะผุ้คนและเรื่องราวหลากหลาย...คิดว่าใช่ หากกลับมิใช่...จนเริ่มเหนื่อยล้าอ่อนแรง...ท้ายสุด กลับค้นพบว่า สิ่งที่ตนเองแสวงหานั้น กลับเป็นสิ่งที่ตนเอง "มีอยู่แล้ว" เพียงแต่เป็นสิ่งที่ "ใกล้ตัว" มากจนมองไม่เห็นและไม่อาจรับรู้
คิดว่าเราทุกคนต่าง "โหยหา" บางสิ่งบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ เป็นบางสิ่งที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์...หลายคน "เหงา" แม้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย...หลายคน "ว้าเหว่" แม้จะดูเสมือนว่ามีทุกสิ่ง...
หากมีโอกาสและเวลา คุณสุมิตรชัยลองนั่งนิ่ง ๆ สบาย ๆ ผ่อนคลาย และลองไม่คิดอะไรนะคะ...อาจจะได้ค้นพบ "บ้านที่แท้จริง" ที่กำลังแสวงหาค่ะ
สวัสดีครับ อ.ทิพวัลย์
บันทึกนี้ผมเขียนขึ้นตอนขณะเจอกับปัญหาขัดแย้ง จากการถูกคุกคามจากคนกลุ่มหนึ่ง ในสถานที่หนึ่ง ห่างไกลจากบ้าน ห่างไกลจากระบบความปลอดภัย สถานที่ทำงานแห่งหนึ่งอยู่ท่ามกลางผู้คนหลากหลาย ในภาระให้บริการที่ยึดโยงยาวนานของวัน
ด้วยจรรยาวิชาชีพแห่งผู้ให้บริการ เชื่อมั่นในความดีที่จะชนะความไม่ดีได้
ด้วยจิตใจที่พยายามเข้มแข็ง แต่อ่อนล้าและมองหาใคร ที่ไหน สักแห่งจะเติมกำลังใจที่เริ่มอ่อน
ที่ ๆ ปลอดภัยที่สุดของผู้คน คือบ้านครับ บ้านเก่าที่เราเคยอยู่ หรือบ้านใหม่ ที่ไหนสักแห่ง ที่มีคนคุ้นเคย มีสถานที่คุ้นเคย
แต่ที่นี่มันกลายเป็นไม่ใช่เสียแล้ว
หากจะหลับตาลงแล้วปล่อยวางเรื่องราวปัญหาทั้งหมด ผมก็ได้กลับมาเช่นกันครับ การอยู่นิ่ง ยิ้ม และไม่คิดเจ็บใจ เห็นใจคนอื่นให้มาก
แล้วเรื่องร้ายก็ผ่านไปครับ บางทีก็ด้วยการหลับตาและ ไม่คิดอะไรอย่างที่ อาจารย์แนะนำครับ
สวัสดีครับ ครูเอ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน และฝากกำลังใจไว้ครับ
ขอบคุณและสวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ครับผม
ขอบคุณครับพี่นารี
ขอบคุณที่ตามเข้ามาอ่านย้อนหลังนะครับ
เป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับผมอย่างแปลกประหลาดใจจริง ๆ มันเจ๋งโคตร ๆ ไปเลย ( เห็นวัยรุ่นเขาพูดเวลาที่ได้เจอะอะไรที่มัน จ๊าบ ๆ เก๋า ๆ โก๋ ๆ อะไรอย่างงั้นน่ะครับ )
อ้อ....อีกอย่างครับ พี่ยังไม่แก่จริง ๆ แค่ดูภูมิฐาน