พวกเราคงจะทราบกันดีว่า อารมณ์ประเภท "เครียดๆ เหงาๆ เศร้าๆ" ไม่ค่อยดีกับสุขภาพ วันนี้มีข้อมูลว่า อารมณ์เศร้ามีส่วนทำให้แผลในช่องปากหายช้าลง
ท่านอาจารย์ดอกเตอร์ฟิลิพ ที. มารูจา (ท่านอาจจะมีเชื้อสายอินเดียหรือศรีลังกา) และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐฯ ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาปริญญาตรี 193 คน
...
การศึกษานี้จะคัดเลือกเฉพาะนิสิตนักศึกษาที่มีคะแนนมาตรฐานการตรวจสอบหาโรคซึมเศร้าสูงหรือต่ำมาทำการทดลอง โดยมี "น้ำจิ้ม" หรือค่าตอบแทนนิดๆ หน่อยๆ สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการคือ 360 เหรียญสหรัฐฯ (12,600 บาท - คิดที่ 35 บาทต่อดอลลาร์) เงินเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้คงทำให้พวกเราบางคน(อย่างน้อยก็ผู้เขียน)หายเศร้า และยินดีให้ความร่วมมือกับการทดลองนี้ได้ใช่ไหมครับ
การศึกษานี้ทำโดยนำกลุ่มตัวอย่างมาพ่นหรือทายาชาที่เพดานช่องปาก(ด้านบน) ทำให้เกิดแผลกลมๆ ขนาดเล็ก และถ่ายภาพติดตามวันละ 1 ครั้ง
...
อาสาสมัครที่เข้ารับการตรวจวันละ 1 ครั้งจนแผลหายมีจำนวน 183 คน ผลการศึกษาพบว่า แผลในคนที่ไม่ซึมเศร้าหายดีในเวลาประมาณ 7 วัน ทว่า... แผลในคนที่ซึมเศร้าหายช้ากว่าคนทั่วไปมากถึง 4 เท่า หรือประมาณ 28 วันล
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า อารมณ์เศร้าทำให้แผลที่ผิวหนังหายช้าลงได้
...
อาจารย์ดอกเตอร์มารูจาบอกว่า อารมณ์เศร้าเรื้อรังส่งผลให้เกิดการอักเสบ (inflammation = ธาตุไฟกำเริบ) การอักเสบเรื้อรังส่งผลทำให้แผลหายช้าลง
คนเราประมาณ 1 ใน 10 ของประชากรมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งทุกวันนี้เราพบว่า การรักษาด้วยยาได้ผลดีมาก นอกจากนั้นการออกกำลังเป็นประจำ เช่น การเดินเร็วบ่อยๆ ฯลฯ ก็มีส่วนช่วยทำให้โรคซึมเศร้าทุเลาลงได้
...
คนที่ปล่อยปละละเลย ไม่รักษาโรคซึมเศร้า หรือไม่รู้ว่า เป็นโรคซึมเศร้าจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน สมรรถภาพในการทำงานหรือการเล่าเรียนตกต่ำ ชีวิตอับเฉาลงได้
เรียนเสนอให้พวกเราที่ต้องการป้องกันโรคซึมเศร้าออกกำลังเป็นประจำ และทำอะไรดีๆ เป็นประจำ เช่น บริจาคเลือด ชมคนรอบข้างอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ทำดีอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ฯลฯ การออกกำลังแบบตะวันออกมีส่วนช่วยเสริมสร้างสมาธิ และต้านโรคซึมเศร้าได้ เช่น ไทเกก-ไทชิ(ชี่กง) รำกระบองชีวจิต โยคะ ฯลฯ
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ที่มา