เรื่องเล่ากลับจากชายแดนตอนที่ ๒
เข้าเดือนที่ ๒ การปฎิบัติหน้าเป็นไปอย่างเรียบงาน เพราะการทำงานเริ่มเข้าที่เข้ารอย มีอยู่วันหนึ่งผมได้รับปฎิบัติหน้าที่คือได้เข้าเวณตอนกลางคืน เพราะเป็นหน้าที่ของทหารอยู่แล้ว ในการเวณยามต้องจัดให้มีทหาร ๕ นาย นายสิบ ๑ ทหาร ๔ นายจัดเวณ ๔ ผลัด ผมได้รับผลัดที่ ๔ เวลา04.00น. ถึง06.00 น. ในช่วงเวลาที่ผมยังไม่เข้าเวณเพราะเป็นเวณ ของเพื่อน สถานที่ที่เข้าเวณคือจุดตรวจที่ ๑๔ อำเภอตาพระยา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับเขตไทย กัมพูชา ห่างกันประมาณ ๗oo เมตร ซึงเป็นอำเภอ บึงตระกวน เป็นชื่อประเทศเขมร ที่มีชื่ออยู่ในปัจจุบัน กำลังนอนหรับสบาย อยู่ๆได้ยินเสียงร้องมาจากชายป่า ผมตกใจรีบขว่าปืน M 16 มาอย่างเร็วพร้อมกับได้ยินเสียงนายสิบ ร้องให้ลุกเตรียมตัวประจำการ ในขณะนั้นเสียงเข้ามาใกล้ทุก ๆ ที ปรากฎว่าเป็นหญิงอู้มเด็กถารก ไม่ใช่ผีครับแต่เป็นหญิงคนชาวกัมพูชา ลูกไม่สบายเป็นไข้อย่างหนักเสียงร้องของเด็กยังดัง กล้องหูอยู่ จนถึงปัจจุบันนี้ พอดีผมผลัดเวณต่อจากเพื่อน ตี๔ ถึง ๖ โมงเช้าในช่วงที่ผมเข้าเวณอยู่ เด็กก็ร้องไม่หยุด จะไปโรงพยาบาลในอำเภอตาพระยา ก็ไปไม่ได้เพราะต้องทำเรื่องผ่านคนเข้าเมืองเสียก่อน
ติดต่อกรมศุลกากร ก็ไม่ได้จึงไปตามที่บ้านก็ไม่เจอ โทรติดต่อก็ไม่ติด เลวาผ่านไป เด็กก็ยังร้องอยู่ เวลาได้ประมาณ ตี๕ .๓๕ นาที เด็กเริ่มร้องเสียงเบาลงทุกทีในที่สุดเด็กก็หยุดร้อง ผมจึงเดินมาดู อะนิจดจา เด็กเสียชีวิตแล้วครับ ชั่งหน้าสงสารชีวิตของเด็กจะช่วยก็ช่วยไม่ได้เด็กตายไปต่อหน้าต่อตา อย่างนี้ที่เข้าเรียกว่าผิดหรือถูกครับ เพราะนายทหารหรือหัวหน้าประสานงานแล้ว ก็ยังติดต่อไม่ได้
เรื่องเล่ากับจากชายแดนตอนที่ ๒ คงเศร้าไปหน่อยครับ ต่อตอนที่ ๓ ยังไม่ได้เขียนเป็นเรื่องสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เกี่ยวกับ วิญญาณเด็ก รออ่านต่อตอนที่ ๓ เป็นเรื่องจริงไม่เชื่อย่าลบหลู่