คนทั่วไปมักจะฟังแบบ Hear มากกว่าฟังแบบ Listen ดังนั้น ปัญหาดังกล่าวหลายๆ อย่าง ต้นเหตุจริงๆ ก็อาจจะมาจากการฟังแบบ Hear นั่นเอง ถ้าลองกลับมาฟังแบบ Listen บ้าง ปัญหาต่างๆ ก็น่าจะได้รับการผ่อนคลาย โดยเฉพาะถ้าเป็นไปได ก็ควรฟังอย่างลึกซึ้ง Deep listening ดูบ้าง เพื่อกาพัฒนาและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ การฟังอย่างลึกซึ้ง ผมขออนุญาตนำคำสอนของธิเบตมาขยายความ โดยบอกว่า การฟัง หมายถึง การปล่อยวางตัวเราเองอย่างถึงที่สุด ปล่อยวางข้อมูลทั้งหลาย รวมทั้งมโนคติ ความคิด และ อคติทั้งหลายที่อัดแน่นอยู่ในหัวของเรา(โซเกียล รินโปเซ) จากนิยามของการฟังอย่างลึกซึ่งดังกล่าว ผมคิดว่าคงจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรสำหรับคนบางคนที่จะกระทำได้ ดังนั้น ปัญหาก็ยังคงมีอยู่ต่อไป ตราบที่ไม่ฟังอย่างลึกซึ้ง
ไม่มีความเห็น