บันทึกหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงความรัก ความเมตตาอันทรงคุณค่าที่แสนประเสริฐที่แม่ได้ทำให้ลูก
แต่บันทึกหน้าหนึ่งหน้านั้นบางครั้งถูกมองข้าม ละเลยความสำคัญ เหลือกลายเป็นเพียงประเพณีที่เรียกแค่ว่าวันออกพรรษาและตักบาตรเทโว
วันออกพรรษา ในพรรษาที่ ๗ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นวันที่พระองค์เสด็จกลับลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากที่ได้ตอบแทนพระคุณแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มหาบุรุษนั้นพึงกระทำ
วันเวลา ๓ เดือนในระหว่างพรรษา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงนำพระอภิธรรม ซึ่งถือว่าเป็นธรรมอันสูงสุดและดีที่สุดไปเทศน์โปรดพระพุทธมารดาซึ่งขณะนั้นเป็นเทพซึ่งสถิตอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต
พระพุทธมารดาของพระองค์ ได้เสด็จจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงมาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อให้องค์พระพุทธเจ้าได้เทศน์โปรดโยมแม่ เพื่อตอบแทนพระคุณอันเปรียบเสมือนเป็นหนี้ศักดิ์สิทธิ์ ที่ลูกพึงกระทำแด่พระพุทธมารดาซึ่งยอมเสียสละแม้กระทั่งความตายเพื่อให้ลูกชายได้มีโอกาสเกิดและได้ประสบความสำเร็จ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แม่ที่ยอมตั้งจิตขอเป็นแม่ของพระพุทธเจ้า ถึงแม้รู้ว่า ถ้าเป็นแล้วจะต้องตาย เพราะครรภ์ของใครก็ตามที่ปรารถนาจะเป็นพุทธมารดานั้น จะสามารถรองรับลูกได้เพียงคนเดียว คนนั้นก็คือ คนที่จะเกิดมาเป็นพระพุทธเจ้า ดังนั้นเมื่อลูกคนเดียวคนนั้นได้เกิดขึ้นมาแล้ว แม่ก็ยอมพร้อมที่จะตายตามกฎนั้น
จากความเสียสละอันใหญ่หลวงที่แม่ได้ให้กับลูก
ทำให้พระพุทธองค์ดั้นด้นเพื่อที่จะตอบแทนความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพุทธมารดา จึงดั้นด้นเดินทางเพื่อขึ้นไปตอบแทนความเสียสละอันใหญ่หลวงของพุทธมารดาโดยเทศน์โปรดพุทธมารดาจนสามารถบรรลุธรรม
เมื่อตอบแทนพระคุณของแม่เสร็จแล้ว พระองค์จึงเสด็จกลับลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จนเกิดกลายเป็นประเพณีตักบาตรเทโวขึ้น ณ ปัจจุบัน...
ความเป็นมาเป็นไปอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่ลูก ๆ อย่างเราซึ่งอยู่ในโลกเดียวกันกับแม่โดยอยู่ห่างกันแค่ฝาห้องกั้น พึงหวนระลึกและปฏิบัติตามพุทธจริยาอันงดงาม เพื่อน้อมกราบกรานตอบแทน “แม่” ผู้ทรงคุณ
ต้นเรื่องจาก ธรรมเทศนาเรื่อง “มารดามหาบุรุษ” โดยท่าน ว. วชิรเมธี
ไม่มีความเห็น