23-10-50
ดิฉันไปทำงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตทำให้มีโอกาสเห็นการหยุดพักการตรวจในช่วงเวลา10โมงเช้าของระบบการให้บริการค่ะ
หลังจากหยุดพักก็จะมีทีมนักวิชาการและนักกายภาพบำบัด พยาบาลมาสอนคนไข้ที่รอการตรวจให้รุ้จักการเหยียดกล้ามเนื้อทำให้คนไข้ที่มารับบริการมีความเข้าใจ สามารถนำไปใช้ที่บ้าน ถ้าทำประจำจะทำให้หายป่วยไปหลายโรคค่ะ
ดิฉันเคยฝันให้ตึกต่างๆสอนผู้ป่วยและมีการสอนคนไข้ที่ห้องผู้ป่วยนอก แต่สามารถทำได้ในห้องตรวจอายุรกรรมที่สอนโดยผู้ช่วยเหลือผู้ป่วย
ดิฉันเองจะยืดเหยียดในช่วงตื่นเช้าก่อนที่จะไปเดินออกกำลังกายทำให้รู้สึกได้ประโยชน์มากๆจากการทำค่ะ
การปวดหลัง ปวดเมื่อยตัวมีน้อยถึงแม้จะเผลอเอี้ยวตัวมากๆแต่ก็ไม่ค่อยเจ็บปวดกล้ามเนื้อค่ะ
ท่าทางที่ทำยืดเหยียดดิฉันจะปรับจากหนังสือโยคะและคำแนะนำของกรมอนามัยโดยเลือกท่าที่ทำแล้วชอบและสบายค่ะ
ดิฉันรู้สึกว่าคุณหมอทั้งหลายยังไม่ค่อยเข้าใจการป้องกันโรคและจะให้ยาผู้ป่วยเนื่องจากหมอมีเวลาน้อย และตัวคุณหมออาจไม่มีเวลาทำเองทำให้มีประสบการณ์น้อย
ถ้าเราให้ความรู้เหล่านี้คนไข้จะหายป่วยและกระทรวงน่าจะลดคนป่วยได้ค่ะ
เคยเห็นที่กรมควบคุมโรคที่ท่านอธิบดีให้หมอระดับกองพาผู้ประชุมยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ระยะหลังก็เลิกไปค่ะ
ถ้าทำเป็นวัฒนธรรมขององค์กรน่าจะเป็นสิ่งที่ดีในโรงพยาบาลที่ได้รับการประเมินให้ผ่าน HPHค่ะ
ในสถาบันโดยผู้บริหารรุ่นใหม่น่าจะมีโครงการส่งเสริมสุขภาพมากขึ้นเพราะเป็นกระแสของการป้องกันโรคค่ะ
เมื่อปลายเดือนที่แล้วเข้าร่วมประชุม "healthy meeting" ซึ่งกรมอนามัยจัดมีทีมบำราศฯที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมไปกันหลายคน เรามีแนวคิดร่วมกันว่าน่าจะนำกิจกรรมยืดเหยียด และการจัดอาหารว่างเพื่อสุขภาพ(ไม่เกิน 200แคลอรี่/มื้อ) มาใช้ในการประชุมของบำราศฯค่ะก็ว่าจะบันทึกเสนอท่านผอ. เพื่อเป็นนโยบายต่อไปค่ะ
ขอบคุณปิ่งที่ไปคิดต่อค่ะ
อัจฉรา