หน้าแรก
สมาชิก
ห้องสมุดกรมบัญชีก...
สมุด
สรุปข่าวประจำวันข...
การคลังในทศวรรษหน้า
ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การคลังในทศวรรษหน้า
การคลังในทศวรรษหน้า
เมื่อพูดถึงภาคการคลัง เรามักตั้งคำถามว่า
“
ภาคการคลังในช่วงทศวรรษหน้าจะยั่งยืน (
Sustainable)
ได้
หรือไม่
”
คำว่า
“
ยั่งยืน
”
มีความหมายที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า ภาวะที่รัฐไม่ก่อหนี้สินจนเกินความสามารถในการหา
รายได้ และในแต่ละปีภาระการคืนหนี้
(
ต้น+ดอกเบี้ย) จะต้องไม่สูงเกินจนไม่เหลืองบประมาณไปพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ
ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ภาคการคลังของเรามีวินัยที่ดี กระนั้นก็ตาม ในช่วงทศวรรษหลังนี้มี
3
เหตุการณ์
ที่ทำ
ให้ประชาชนเป็นห่วงเรื่องความยั่งยืนทางการคลังมากขึ้น
ประการแรก วิกฤตเศรษฐกิจในปี
2540
ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ
12
ก่อนวิกฤต เป็นร้อยละ
57
เนื่องจากรัฐต้องมีภาระในการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเศรษฐกิจหดตัว และส่วนหนึ่งต้องรับภาระของกองทุนฟื้นฟูที่ต้องเข้าไปรับความเสียหายจากสถาบันการเงินที่ล้มไปด้วย
ประการที่
2
ในช่วง
2544
เป็นต้นมา มีการใช้นโยบายการคลังทั้งใน และนอกงบประมาณ หรือใช้รัฐวิสาหกิจ
เพื่อดำเนินนโยบายในรูปแบบใหม่ ๆ มากขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถามว่า ถ้ารวบรวมภาระที่กระจัดกระจายเข้า
ด้วยกัน ภาคการคลังจะยั่งยืนได้หรือไม่
ประการที่
3
ทิศทางของนโยบายพรรคการเมืองในปัจจุบันประกอบกับทิศทางของรัฐธรรมนูญทั้ง
2
ฉบับ ได้
เอื้ออำนวยต่อการใช้จ่ายเชิงสังคมมากขึ้น จะทำให้ภาระการใช้จ่ายของภาครัฐสูงจนยั่งยืนได้หรือไม่
บทความหนึ่งในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในสัปดาห์ก่อน
ช่วยตอบ
คำถามนี้ โดยค้นพบว่า ปัจจุบันหนี้ภาครัฐถึงแม้จะยังไม่สูงมาก ประมาณร้อยละ
40
ของ
GDP
และเมื่อรวมภาระการคลังทั้งหมด ทั้งในและนอกงบประมาณไว้ด้วยกันแล้ว ในกรณีฐาน ซึ่งเป็นกรณีที่ภาครัฐไม่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าแนวโน้มในอดีตแล้ว ภาคการคลังยังคงยั่งยืนได้ในทศวรรษหน้า
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มรายจ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น ดังนี้
(1)
จากการศึกษาโครงสร้างด้านรายจ่ายพบว่า ประเทศเราใช้จ่ายด้านสังคมค่อนข้างต่ำกว่าประเทศอื่น แต่มี
แนวโน้มใช้จ่ายด้านสังคมสูงขึ้นในช่วงทศวรรษหลังนี้ และในช่วงที่ผ่านมารายจ่ายด้านป้องกันประเทศได้ปรับตัวเป็นสัดส่วนลดลงมาโดยตลอด เปิดโอกาสให้รัฐมีเงินไปใช้จ่ายด้านเศรษฐกิจ และสังคมมากขึ้น
กระนั้นก็ตาม
โครงสร้างรัฐธรรมนูญ
2550
ที่เน้นดูแลสังคม และยังมีบทบัญญัติด้านรายจ่ายป้องกันประเทศที่ชัดเจนว่า ต้องมีกอง
กำลัง และอาวุธเทคโนโลยีที่ทันสมัย และพอเพียง มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันด้านรายจ่ายป้องกันประเทศควบคู่ไปกับรายจ่ายด้านสังคมที่ต้องเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการพัฒนาของประเทศ
(2)
เมื่อวิเคราะห์ด้านรายได้พบว่า ประเทศเรายังเก็บรายได้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ และพึ่งพิง
ภาษีเงินได้น้อยมาก ภาษีเงินได้ที่จัดเก็บได้ส่วนใหญ่มากจากภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะที่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ยังจัดเก็บได้น้อย ภาษีศุลกากรก็มีแนวโน้มลดลง ไม่สามารถจะพึ่งพิงเป็นแหล่งเงินได้ได้ต่อไป เนื่องจากการทำ
ข้อตกลง
เรื่องการค้า
ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บมาโดยต่อเนื่อง จนทำให้อัตราจัดเก็บที่
แท้จริง (
Effective Tax Rate)
ใกล้เคียงกับอัตราตามกฎหมายมาก
นัยดังกล่าวบอกกับเราว่า หากรายจ่ายต้องเพิ่มขึ้น มีความจำเป็นต้องขยายฐานภาษีโดยต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีสัดส่วนผู้อยู่ในฐานภาษีประมาณ
6
ล้านคน จากกำลังแรงงาน
30
กว่าล้านคน และมี
สัดส่วนการลดหย่อนค่อนข้างสูง คือ มีค่าลดหย่อนต่อเงินได้พึงประเมิน ประมาณ
1
ใน
4
เพื่อลดความเสี่ยง
ด้านการ
คลังดังกล่าว บทความนี้จึงเสนอให้มีการปฏิรูประบบค่าลดหย่อนที่สำคัญ เช่น
1)
ไม่ต่ออายุให้กับการลงทุนหุ้นระยะยาว (
LTF)
ที่ให้ลดหย่อนภาษีได้ถึงปี
2559
2)
การคงมาตรการลดหย่อนอื่น ๆ เช่น การออมระยะยาว และประกันชีวิตไว้ แต่ให้เปลี่ยนไปใช้ระบบ
Credit
ภาษีแทน เนื่องจากระบบค่าลดหย่อนเดิมคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ คนที่มีรายได้สูง และตกในอัตราภาษีสูง ขณะที่ระบบ
Credit
ภาษีจะคืนให้เป็นจำนวนเท่า ๆ กัน
ตัวอย่างเช่น คนที่มีรายได้สูง และเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาร้อยละ
37
หากลงทุนใน
LTF 1
แสนบาท จะประหยัดภาษีไปได้
3.7
หมื่นบาท ขณะที่อีกคนหนึ่งเสียภาษีอัตราร้อยละ
10
ลงทุนใน
LTF
จำนวนเท่ากัน
จะ
ประหยัดภาษีไปได้เพียง
1
หมื่นบาท เป็นต้น
การใช้ระบบลดหย่อนจึงเป็นไปเพื่ออัตราการเก็บแบบถอยหลัง (
Regressive)
ให้กับระบบภาษีเงินได้ที่ควรเป็นอัตราก้าวหน้า
ทั้งนี้ การปฏิรูปภาษีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการลดความเสี่ยงจากด้านการคลังในอนาคต ซึ่งต้องควบคู่ไปกับ
การระมัดระวังด้านความโปร่งใสจากการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณ และการใช้เงินเพื่อดำเนินนโยบายของพรรค
การเมือง
ในอนาคต ที่ประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพราะทุกบาทที่นำมาแจกจ่ายตามนโยบายต่าง ๆ ก็คือเงิน
ภาษีของทุกท่าน
โพสต์ทูเดย์ 22 ต.ค. 50
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ห้องสมุดกรมบัญชีกลาง CGD Library
ใน
สรุปข่าวประจำวันของห้องสมุดกรมบัญชีกลาง
คำสำคัญ (Tags):
#การคลัง
หมายเลขบันทึก: 140776
เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2007 11:33 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:08 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ห้องสมุดกรมบัญชีก...
สมุด
สรุปข่าวประจำวันข...
การคลังในทศวรรษหน้า
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท