เรียนรู้จากการเล่นบาสเก็ตบอล


ประสบการณ์จากการเล่นบาสเก็ตบอล จึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการองค์การได้อย่างดี ยิ่งในสถานการณ์ที่ผกผัน ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ต้องรุกเร็ว ถอยเร็ว อย่างนี้ ยิ่งสำคัญมาก

             ในความเห็นของผม การเรียนรู้สำคัญกว่าความรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เป็นความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในรูปทักษะ ประสบการณ์ สัญชาตญาณของผู้ปฏิบัติจริงทั้งหลาย การเล่นหลายกิจกรรมให้งานและให้ความรู้ ทำให้แวดวงของการพัฒนาบุคลากรต่างได้นำกิจกรรมการเล่นต่างๆมาใช้ในการพัฒนาคน

            สมัยเรียนชั้นมัธยม ผมมีโอกาสได้เป็นนักกีฬาหรือเล่นกีฬาน้อยมากพอไปเรียนชั้นมหาวิทยาลัยก็ได้เข้าร่วมเป็นนักกีฬาหลายอย่างเช่นกรีฑา ว่ายน้ำ รักบี้ โปโลน้ำ ซึ่งเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายทั้งนั้น อาจจะเป็นเพราะพื้นฐานของเด็กบ้านนอกที่การเล่นส่วนใหญ่ต้องวิ่ง ต้องออกแรงเพราะไม่มีของเด็กเล่นมากนัก พอจบมาทำงานกีฬาที่เคยเล่น หาเล่นได้ยาก จึงได้เปลี่ยนมาเล่นบาสเก็ตบอลและวอลเลย์บอล กับเด็กนักเรียนมัธยมและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งขณะทำงานที่งาว แม่พริกและบ้านตาก

           เมื่อได้ฝึกเล่นบาสเก็ตบอลอย่างเต็มที่ก็รู้สึกว่าชอบอย่างมาก บาสเก็ตบอลเป็นกีฬาที่อาศัยความแข็งแรง ปราดเปรียวว่องไว อาศัยการตัดสินใจเฉพาะหน้าที่เฉียบคม  ว่าจะส่งลูก จะรับสูง จะชูตเองหรือส่งให้เพื่อนร่วมทีมชูตแทน ทุกอย่างต้องตัดสินในในเวลาไม่มากเพราะคู่แข่งจะคอยวิ่งฉกฉวยจังหวะในการทำแต้มเช่นกัน

            การเล่นบาสเก็ตบอล จะฝึกใจให้กล้าได้กล้าเสียเมื่อมองเห็นว่ามีโอกาสได้มากกว่าเสีย ต้องรุกเร็วและถอยเร็ว ต้องวางตัวให้เหมาะสม ว่าใครจะเป็นตัวกลาง ใครจะเป็นตัวปี ใครจะเป็นตัวป้องกันและเมื่อเวลายังไม่หมดโอกาสจะแพ้ชนะจะมีอยู่ตลอดเวลาเพราะสามารถเก็บเกี่ยวทำคะแนนได้ง่ายกว่าฟุตบอล

           ประสบการณ์จากการเล่นบาสเก็ตบอล จึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการองค์การได้อย่างดี ยิ่งในสถานการณ์ที่ผกผัน ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ต้องรุกเร็ว ถอยเร็ว อย่างนี้ ยิ่งสำคัญมาก

           เมื่อวานนี้ ได้มีการจัดทีมของโรงพยาบาลบ้านตาก ซึ่งยังไม่เคยซ้อมทีมร่วมกันเลย อายุก็เกือบจะ 30 ขึ้นไปทั้งนั้น (ผมแก่ที่สุด) แข่งกับทีมของเด็กม. 3-5 ที่มีการซ้อมและมีทักษะในการเล่นเป็นทีมมาอย่างดี ปรากฎว่าคะแนนการเล่นคู่คี่กันมากอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเกิดจากการวางตัวอย่างแหมาะสมของทีมและอาศัยวัยวุฒิที่สูงกว่าทำให้คุมสติ คุมตัวเองได้ดีกว่า โดยวางตัวนักบาสของ สอ.เป็นตัวกลางเพราะตัวสูง เล่นบาสเป็น แย่งลูกและชูตลูกได้ดี สาธิตกับโก๋เป็นการ์ดเพราะตัวใหญ่ แข็งแรง เร็วและมีทักษะการแย่งและการเบียดบังได้ดีเพราะเป็นนักฟุตบอลทั้งคู่ ส่วนผม อั๋น สุโทน เป็นปีกเพราะตัวเล็กแต่สามารถเลี้ยงลูกและนำลูกเข้าไปยิงใต้แป้นได้ และทีมเราเน้นการตั้งโซน ไม่เกาะตัวคู่ต่อสู้เพราะรู้ตัวว่าถ้าเล่นประกบตัวเราจะหมดแรงก่อน เอาไว้คอยอาศัยจังหวะเผลอค่อยขึ้นไปทำแต้ม แต่พอเล่นไปท้ายๆเกมส์ก็รับรู้ได้ว่าทีมเชื่องช้าลงเพราะความฟิตสู้เด็กไม่ได้
จะเห็นว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามล้วนต้องอาศัยการเรียนรู้ทั้งนั้น และการเรียนรู้ในเรื่องต่างกันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ทั้งนั้น
คำสำคัญ (Tags): #kmกับงานประจำ
หมายเลขบันทึก: 14072เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2006 22:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
เอามาลงไมวะเนี่ย เสียเวลาเปล่า
ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณaaaเสียเวลาเปล่า แต่ลองคิดดูสิครับ มีการเรียนรู้อะไรซ่อนอยู่เพื่อใช้ในการทำงานจริงหรือเปล่า

 

 อ่า.............มีวิธีการเล่นมาบอกบ้างจิ

ช่วยบอก.........เกี่ยวกับวิธิการเล่น บาส ท่าพิเศษต่างๆได้ไม่คะ

บอกเทคนิคหน่อยคับ

จริงอ่ะไม่อยากเชื่อแก่ขนาดนี้แหละ

บ้าจริงๆ

โนโมกิอยากอ้วก

กับคำโกหก

คุนม่ายต้องสจายคนอื่นหรอกงับคุนอยากทามอารายก็เชนเรยครับเพราะพมก็ชอบพวกเรื่องบาสอยู่เหมือนกันนะคับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท