คำถาม : เพชฌฆาตประหารชีวิตนักโทษ บาปหรือไม่?
1.คำจำกัดความ,ความหมาย
1. ประหารชีวิต, ฆ่า = การทำชีวิตของมนุษย์หรือสัตว์ให้พรากจากกัน, ขาดจากกัน
2. บาป = การกระทำความผิดข้อห้ามในศาสนา, ความชั่ว, ความมัวหมอง
In put + process = out put _ out come
เพชฌฆาต, นักโทษ + ประหาร = นักโทษเสียชีวิต _ ?
2.แสดงกระบวนการแต่ละขั้นตอนจนถึงการประหาร
คู่กรณีของจำเลย " จำเลย " โจทย์ " ตำรวจ " ทนาย,อัยการ
?
? ! ประหาร ! เพชฌฆาต ! ผู้พิพากษา ! คณะลูกขุน
3.แสดงความเป็นเหตุและผล โดยหลักของการเป็นเหตุปัจจัย มีความเชื่อมโยง และอิงอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนี้
เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนั้นจึงมี
เมื่อสิ่งนี้เกิดสิ่งนั้นจึงเกิด
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนั้นก็ไม่มี
เมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนั้นก็ดับ
กรรม = การกระทำ ทางกาย ทางวาจา ทางใจกุศลกรรมบถ 10 = ผู้กระทำกรรมดี " บุญ " มีสวรรค์ภูมิเป็นที่ไป
อกุศลกรรมบถ 10 = ผู้กระทำกรรมชั่ว " บาป " มีนรกภูมิเป็นที่ไป(ตามคำจำกัดความ,ความหมาย)
กุศลกรรมบถ 10 ข้อที่ 1 = ไม่ฆ่าสัตว์ (ปาณาติบาต) " บุญ " มีสวรรค์ภูมิเป็นที่ไป
อกุศลกรรมบถ 10 ข้อที่ 1 = ฆ่าสัตว์ (ฆ่ามนุษย์) " บาป " มีนรกภูมิเป็นที่ไป
เพชฌฆาตฆ่ามนุษย์(โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน) = อกุศลกรรม = บาป
[กุศล = สิ่งที่ดีที่ชอบ, กรรม = การกระทำทางกาย, อ = ไม่, อกุศลกรรม = การกระทำที่ไม่ดี]
เพชฌฆาตฆ่าตามหน้าที่โดยไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรองและมีค่าเงินเดือนตอบแทน นักโทษผิดจริงผู้พิพากษาวินิจฉัยถูก[บาป]
เพชฌฆาตฆ่าตามหน้าที่โดยไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรองและมีค่าเงินเดือนตอบแทน นักโทษไม่ผิดวินิจฉัยผิด แพะรับบาป [บาป+บาป]
คู่กรณีของจำเลย + จำเลย + โจทย์,ผู้เสียหาย,ทายาท = ผู้มีกรรมต่อกัน
ตำรวจ + ทนาย + อัยการ + คณะลูกขุน + ผู้พิพากษา + เพชฌฆาต = ผู้มีกรรมร่วม
4. อภิปรายผล มีคำถามว่า
(1) การทำความดี มีเมตตา กรุณาตามหลักพรหมวิหาร4 จะมีหนทางไปสู่นรกภูมิหรือไม่?ตอบว่า ไม่
(2) การที่เพชฌฆาตทุกคนทำการประหารนักโทษหลายๆครั้งจะมีหนทางไปสู่สวรรค์ภูมิหรือไม่? ตอบว่า ไม่ เพราะ ถ้าการที่เพชฌฆาตประหารชีวิตนักโทษแล้วเชื่อว่าได้ไปสวรรค์ ถ้าคุณมีความเชื่อเช่นนั้นจริง แล้วให้คุณไปเป็นเพชฌฆาต คุณจะเป็นหรือไม่
ดังเช่น : องคุลิมานตั้งเป้าหมายประหารชีวิตมนุษย์ให้ครบ 1,000 คน เพื่อบรรลุผลบางอย่างและได้ไปสวรรค์อันเป็นการเข้าใจผิด เพราะเป็นอวิชชา องคุลิมานประหารชีวิตมนุษย์ได้ 999 คน เหลืออีก 1 คน ก็จะครบ 1,000 คน องคุลิมานมาพบพระพุทธเจ้าและวิ่งไล่ตาม ไล่อย่างไรก็ไม่ทัน องคุลิมานจึงบอกให้พระพุทธเจ้าหยุด พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า เราหยุดแล้ว แต่ท่านสิยังไม่หยุด ถ้าหากว่าการฆ่าทำให้องคุลิมานมีสวรรค์ภูมิเป็นที่ไปแล้วพระพุทธเจ้าจะทรงห้ามองคุลิมานมิให้ฆ่าคนเพิ่มอีกทำไม หากว่าการฆ่าคนไม่เป็นบาปก็ควรส่งเสริมการฆ่าสิ แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ซึ่งการที่องคุลิมานฆ่ามนุษย์โดยที่เขาเหล่านั้นไม่เคยโกรธ เกลียด เคียดแค้นกันเลย คนเหล่านั้นก็อาจจะมีทั้งผู้บริสุทธิ์(คนดี) และผู้สมควรถูกฆ่า(คนชั่ว) ปะปนกันไป องคุลิมานฆ่าโดยเห็นผิดคืออวิชชา(ผู้พิพากษา) จากอกุศลกรรมคือธรรมฝ่ายชั่วให้ฆ่าคน 1,000 คน เพื่อบรรลุผลบางอย่าง จึงเปรียบ
องคุลิมาน = เพชฌฆาต
พระพุทธเจ้าทรงห้ามองคุลิมานฆ่ามนุษย์ = พระพุทธเจ้าทรงห้ามเพชฌฆาตฆ่ามนุษย์
พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าองคุลิมานฆ่ามนุษย์เป็นบาป = พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าเพชฌฆาตฆ่ามนุษย์เป็นบาป(บาปตามคำจำกัดความ ,ความหมาย)Ans(คำตอบฝ่ายธรรม)
แต่ถ้าจะตอบคำตอบทางฝ่ายโลก คือ คู่กรณีจำเลย+โจทย์เป็นผู้เสียหาย,จำเลยกระทำความผิด,
กฎการอยู่ร่วมกันของสังคมคือการบังคับใช้กฎหมาย " ตำรวจจับกุม" ส่งอัยการฟ้องศาล
$
สังคมว่าไม่บาป ! เกิดความชอบธรรม ! เพชฌฆาตประหาร ! ศาลวินิจฉัย
$
เป็นคำตอบฝ่ายโลก
คุณจะเชื่อพระพุทธเจ้าหรือคุณจะเชื่อใคร?
โดย
สักทอง ร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง
สวัสดีค่ะ
กฎแห่งกรรมค่ะ อย่างไรการฆ่าก็ต้องบาป มากหรือน้อย อยู่ที่เจตนา
อยากให้เพิ่มขนาดในบันทึกนี้ จะทำให้อ่านได้ชัดเจนขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
ถ้าฆ่าในเมื่อ สิ่งที่ฆ่าเป็นประโยชน์ต่อหมู่ข้างมาก .........น่าคิดครับ
ท่าน ทนัน ภิวงศ์งาม ได้เปรียบเทียบบาป บุญ ด้วย หมึกและน้ำ ทำให้เปรียบเทียบกับการฆ่าของท่านเพชฌฆาตเห็นได้เด่นชัดขึ้น ว่าบาปหรือไม่ ต้องขอขอบคุณท่านอย่างมากที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันความรู้ ขอบคุณมากครับ