โรงพยาบาลที่รัก


เรียน ๆ อยู่พักหนึ่งจึงตั้งวงดนตรี ..."หมอ จะพาลูกน้องมาร้องเพลงวันไหนคะ"

เรียน ๆ อยู่พักหนึ่งจึงตั้งวงดนตรี ภายใต้ความอุปถัมภ์ ของบิ๊กบ๊อสของโรงพยาบาล...

 

ความเดิม  จากบันทึกเด็ดดวงมาลา..มาร้อย(พวง)มาลัย   ตอนแรกสุด

เมื่อดิฉันป่วย  พักรักษาตัวตอนป่วย  เริ่มต้นเรียนไวโอลิน

ชีวิตพลิกผันมาสนใจ  งานเขียน (ริ เป็นนักอยากเขียน)

เขียนทุกวัน วันละนิดละหน่อย  จนเข้าไปขลุกกับกิจกรรมหนึ่งขององค์กร  การดนตรี ค่ะ

บทบันทึกนี้เป็นบันทึกหนึ่ง  ในช่วงเริ่มตั้งไข่  ล้มลุกคลุกคลานสนุก

สนาน  จึงนำมาเผยแพร่อ่านกัน ค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++ 

โรงพยาบาลที่รัก..จดหมายถึงเพื่อน 

ตอนที่หนึ่ง...คิวร้องเพลง                              "หมอ  จะพาลูกน้องมาร้องเพลงวันไหนคะ" 

ยายน้องเพื่อนรัก

  โรงพยาบาลทั่วๆ ไป  ไม่ว่าใหญ่-เล็ก  มีแต่บัตรคิวตรวจคนไข้ใช่ไหมเธอ

  โรงพยาบาลของฉันแจ๋วกว่าใครเพื่อน  ด้วยว่ามี"คิว" ร้องเพลงด้วย

เธอจ๋า  คิวคือคิว นะจ๊ะ  เป็นสิ่งที่ It's a must.  หรือ ต้อง นั่นเอง ห้ามบิดพริ้ว อดเลื่อนขั้นเงินเดือนได้นะเธอ 

เนื่องด้วยนายของฉัน  ให้มีผู้รับผิดชอบจัด"คิว" และ หัวหน้าหน่วยงานย่อย ๆ ลงมาเช่นฉัน  มีหน้าที่ต้องดูและ หาเวลาว่างจากงานประจำ  ส่วนใหญ่ก็เป็นเวลาพักเที่ยง นั่นเอง   ประสานงาน(นัดแนะ) กัน พากัน มาร้องเพลง   ตามจุดร้องเพลงของโรงพยาบาล

มีหลายจุดด้วยนะเธอ

ฉันและบุคลากรหลาย ๆ คน  ขานรับและ ยินดีกับนวัตกรรมใหม่นี้นะจ๊ะ

เพราะ

  หนึ่ง  การร้องเพลง..ลืมบอกว่าช่วงแรกคือการร้องเพลง  คาราโอเกะตามแบบชาวญี่ปุ่น..ใช่มั้ยไม่รู้  เห็นเขาเรียกกันเป็นภาษา  พียุ่นนี่เธอ

ฉันว่าเป็น Tool และ Method  ที่ ง่าย ธรรมดา และได้ผลในการ  กระชับสัมพันธไมตรี สร้างสรรค์สามัคคี (ง่ายและไม่เปลืองสตางค์อย่างกินข้าวร้านอาหารนะ)

โรงพยาบาลใช้งบประมาณ  ไม่มากนัก  หลักพันจ้ะ  เพราะใช้ของ  วัสดุ

ที่ใช้แล้ว  ชำรุด ตกรุ่น เช่นคอมพิวเตอร์ เอากลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ 

สะระตะ รวมหมดทั้งคอมพิวเตอร์ ซีดีที่โหลดเพลง ลำโพง ไมโครโฟน แล้ว....ฉันเองซึ่งเธอก็รู้ว่าเป็นคน  เศรษฐกิจพอเพียงยังอยากมีที่บ้าน   เพื่อกระชับสัมพันธไมตรี  กับคนในบ้าน สักชุดเลย

 

 สอง ระหว่างการร้อง  จะโชว์เดี่ยว(ฝึกมาดีหรือมีพรสวรรค์) หรือ ร้องหมู่ก็ตามแต่  จะได้รับการเทรนจากบรรดาเทรนเนอร์(ตัวปลอม  หรือ ตัวจริงราวกับ บ้านเอเอฟ)  ทั้งหลาย  เป็นที่สนุกครึกครื้น  ได้ฝึกการออกเสียง  ฝึกการร้องเพลง  ฝึกออกเสียงอักขระ  ฝึกออกเสียง "ร"  "ล"  "ทร"....

และยังได้ฝึกบุคคลิกภาพด้วยแน่ะ

เอ้า..เธอจ๋า  หลังกอมไป    เอ้า  พุงยื่นหล่าว  (มีพี่แม่บ้านคนหนึ่งเป็นคนซุหราด จ้ะเธอ)   มืออย่าพันสายไมค์ค่ะ เดี๋ยวไฟช็อตหนา  อกผายหน่อย  ไหล่ผึ่งด้วยพ่อหนุ่ม...

ได้ฝึกไปโดยไม่รู้ตัว  และ สร้างสิ่งซึ่งเรียกกันว่า"ความสนิทสนม"

ขึ้นมาได้มาก ๆ เลยล่ะเธอ

  สาม ( ขอเป็นตอนต่อนะคะ)

*มาอ่านบันทึกตัวเองสมัยแรก ๆ เข้าข่าย Humanized health care เหมือนกัน

ในระยะต่อมา บิ๊กบ๊อสของเราได้กรุณาเป็น คุณเอื้อ ผลักดันให้เกิดกิจกรรมดนตรีแก่คนไข้

หลายต่อหลายกิจกรรม*

หมายเลขบันทึก: 140174เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2007 19:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 22:18 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • สวัสดีค่ะ
  • รอต่อไป
  • อิอิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท