ใครหยิกข่วนสามี ตายไปเป็นเปรต ครับ


บันทึกนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะนำมาเขียนกล่าวโทษสตรีผู้ใด ที่มักหยิกข่วนทำร้ายสามีเป็นนิจนะครับ

ใครหยิกข่วนสามี  ตายไปเป็นเปรต ครับ

  

บันทึกนี้  ไม่ได้ตั้งใจจะนำมาเขียนกล่าวโทษสตรีผู้ใด ที่มักหยิกข่วนทำร้ายสามีเป็นนิจนะครับ

  

แต่นำมาบอกเล่าเก้าสิบกันว่า   มีการกล่าวเรื่องอย่างนี้ในไตรภูมิพระร่วง  และคนโบราณได้นำมาสั่งสอนกุลสตรีมิให้กระทำการอย่างนี้  ลองอ่านดูครับ

  

แล สัตถังคเปรต นั้น   มีเล็บมือ  เล็บเท้ายาวงอดุจคมมีด     ตจฺเฉตวา   ย่อมข่วนเนื้อแลเลือดของตนกินเป็นอาหาร

 อาศัยกรรมอันใด? 

ยถา  อิธ  มนุสฺสา  อิตฺถีนํ  ปุริสานํ   องฺคปจฺจฺคานิ   ปกตินเขน  ราคปริยุฏฺ  ฐิตาว  ตจฺเฉนฺติ

 วิสัชนาว่า 

แต่ก่อนสัตว์เหล่านี้  หยิกข่วนบิดามารดา  หยิกข่วนสมณชีพราหมณ์ผู้มีศีล  อันหนึ่ง  สตรีใจร้ายริษยา  ราคะดำกฤษณาครอบงำ  แลหยิกข่วนสามีนั้นก็ดี  หยิกข่วนทาส  กรรมกร  บ่าวไพร่แห่งตนนั้นก็ดี  ย่อมไปเกิดเป็น สัตถังคเปรตเหมือนกัน 

                                                              (ไตรภูมิโลกวินิจฉัย 2520 , 178)    

 

ขอพรรณนาความน่าสะพรึงกลัวของ สัตถังคเปรต เป็นร่ายยาว ไว้เพื่อให้เกิดภาพเห็นจริงสักนิด

  ร่ายยาว

ขอพรรณนาภพเปรตนาม วิชาประเทศทุรสถาน      หามีวิมานสุขสบายดั่งสวรรคภูมิไม่      สถิตในภพแผ่นดินเหนือนรกภูมิขึ้นมาตรงป่าหิมพานต์     มีมหิทธิกเปรตเป็นนฤบาลเป็นใหญ่   ปกครองไพร่เปรตปริมาณมากถึงสิบสองตระกูล     แต่ละตนรูปร้ายชั่วอับสูญวิปริตวิกลจนหาความงามมิได้      ยังมีเปรตหนึ่งไซร้นามว่า  สัตถังคเปรต  ดูทุเรศเวทนาสงสาร     ด้วยมีนิสัยสันดานเถื่อนเลื่อนเปื้อนวิปริตผิดแผกจากเปรตพวกพ้อง   คือเปรตสตรีร่ำร้องโหยหวนชวนหวาดหวั่นประพรั่นเสียง    กรี๊ดกรี๊ดกรีดสำเนียงโอดโอยด้วยเจ็บปวดเหลือคณา   เอานขาคือเล็บตนที่ยาวโง้งงอดั่งตะขอคมมีดเข้ากรีดเนื้อ   เหมือนเอามีดเข้าเถือข่วนเคี่ยวดังเคียวกระชาก  เสียงเล็บฉีกเนื้อดังขวากขวากเป็นแนวคม   ข่วนกรีดที่ใดก็ร้องล้มดังควายถูกเชือด    แลเลือดกระฉูดพุ่งเป็นฟุ้งฝอยแดงฉะฉาน     แลเอาเนื้อเถือฝานมากินเป็นอาหารยามหิวโหยด้วยเหตุไม่มีกิน    หามีใครบังคับลิ้นมีให้แตะรสเนื้อแลเลือดแห่งตนไม่   ด้วยเพราะทนกรรมเวรบังคับขับตัณหามิได้จึ่งจำกิน   แม้ใจจะไม่ยินดีที่ลิ้มชิมรสอันชวนสยดสยอง   แต่จำต้องข่วนกรีดเนื้อเลือดทุกย่ำยาม   จะหาความรำงับดับความหิวโหยนั้นไม่หยุดที่   ซ้ำกรีดเฉือนทีแสนจะเจ็บปวดรวดร้าวสาหัส    เลือดจะแห้งอัตคัดล้มตายแล้วก็กลับฟื้นคืนสนองกรรมเวรจนกว่าจะหมด   เป็นที่รันทดสลดใจทรมานอย่างนี้กี่โกฏิปีตามแต่ที่กรรมกระทำเอาไว้   นั่นแล  

ที่เป็นเช่นนี้ด้วยเหตุใด 

 

ก็เพราะเมื่อครั้งมีชีวิตอาศัยอยู่เป็นฆราวาส   ได้บังอาจโทโสโกรธากระทำร้ายต่อผู้มีพระคุณยิ่ง  ซึ่งให้กำเนิด ด้วยการขีดข่วนด้วยเล็บตนให้ผิวเนื้อท่านเป็นรอยแผล  เลือดซิบแลไหลออกมาเป็นที่แสนจะเจ็บปวด  ผู้มีพระคุณได้แก่ 

 

บิดามารดาผู้ให้กำเนิดตนมาอย่างเสน่หา รักใคร่  อุ้มชู  ปรารถนาดีที่จะให้มีชีวิตที่เป็นสุข ให้การเลี้ยงดูด้วยอาหารโอชารส เฝ้าอบรมให้เป็นคนดีมีความประเสริฐเลิศคุณแก่สังคมประเทศชาติ ให้การศึกษา หาอาชีพ แลครอบครัวเป็นฝั่งฝา  สตรีที่เป็นบุตรยังหารู้คุณไม่  กลับทำร้ายจิตใจแลร่างกายให้เลือดตกยางออก จึ่งสมควรถูกสาปแช่งและตายไปเป็นเปรตชดใช้กรรมดังกล่าว

  

สมณชีพราหมณ์  ผู้ทรงศีล ที่บริสุทธิ์  เป็นผู้ชี้นำปวงชนให้หลุดพ้นซึ่งทุกข์ทั้งหลาย  เป็นเนื้อนาบุญแห่งพระศาสนา การทำร้ายขีดข่วนท่านจึงเป็นบาปหนา สมควรแก่กรรมคือตายไปเป็นเปรตกระทำเยี่ยงนั้นแก่ตัว

  สามี  คือผู้ให้การปกป้องคุ้มครอง  ดูแลภรรยา และบุตร  เป็นผู้นำครอบครัววงศ์วาน  ให้เบิกบานแลมั่นคงมีชื่อเสียง  สตรีที่หยิกข่วนสามีผู้ประเสริฐจึงสมควรถูกลงโทษด้วยกรรมนั้นดุจเดียวกัน

 ข้าทาส บริวาร บ่าวไพร่  แม้จะดูต่ำต้อยคอยรับใช้อยู่ แต่ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน อีกทั้งยังสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ผู้เป็นนายอย่างสัตย์ซื่อ จะถือโทษหยิกข่วนให้เลือดไหลไม่บังควร เพราะตนมิใช่เจ้าของที่จะเอาเป็นที่รองอารมณ์ร้ายได้  สมควรต้องชดใช้รับกรรมเป็นเปรตดังพรรณนามานี้

 ผมเขียนบันทึกนี้แล้วก็สบายใจครับ เพราะรับประกันได้ว่า ภรรยาจะไม่กระทำกรรมอย่างนี้เป็นแน่  เธออ่านแล้วก็ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก พลางกล่าวอย่างฉะฉานดังชัดเจนว่า  ไม่หยิกข่วนหรอกจ้ะ ถ้าทำดี ซื่อตรงและให้เกียรติ ไม่มีกิ๊กที่ไหน  รับรองจ้ะ แล้วเธอก็ทิ้งปริศนาไว้ที่ มีดปอกผลไม้ขาววับตรงหน้า  แปลว่าอะไรให้ผมเอาไปคิดเอง    

หมายเลขบันทึก: 139342เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2007 12:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 09:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ

คุณกรเพชรนี่ดีจัง วันก่อนก็เล่าเรื่องนางยักษ์ให้ฟัง วันนี้เล่าเรื่องสตรีหยิกข่วนสามี แล้วกลายเป็นเปรต อย่างนี้ต้องติดกันเทศน์ด้วย เสื้อเกราะ กันคมมีดที่ใช้ปอกผลไม้

พึ่งรู้ในความนี้เป็นหนแรก แต่กว่าจะออกเรือนหนูคงเตรียมซื้อคานทองไว้เกาะ ชาตินี้ฉันใดคงยากหลุดลงขื่อคาน

หยิกไปแล้ว ข่วนไปแล้ว หาก(อนาคต)เปรตกลับใจ มีวิธีแก้ไหมคะ

คุณP

          ผมขอบคุณที่จะติดกัณฑ์เทศน์ด้วยเสื้อเกราะและคมมีด  เห็นทีจะรับไว้ด้วยความยินดี  เพราะ "กันไว้ดีกว่าแก้"  ตามคติโบราณ   มีคำกล่าวว่า  อันใจสตรีดั่งนทีมหาสมุทร แม้ราบเรียบอยู่ตรงหน้าก็หาปลอดภัยไม่  อาจเกิดคลื่นลมใหญ่ฉับพลัน  เกิดแล้วก็สงบ เราจึง  "ไม่ควรไว้ใจทะเล"  ครับ 

หนูP

             อย่าเพิ่งถอดใจ  อันสตรีและบุรุษย่อมเป็นของคู่กัน เหมือนผานิตและมดย่อมอดจะชิมลิ้มรสมิได้ (ผานิต-น้ำตาล)  ขื่อคานมีไว้มอง มิใช่มีไว้ขึ้นไปขี่

สวัสดีครับคุณP

              ไม่เป็นไรครับ มีทางแก้ คือ 1 สามียกโทษให้ก่อน  2 ต้องทำความดีให้สามีมากๆ เพื่อให้คุณความดีนั้นสนองตอบก่อน เป็นการชะลอกรรมนั้น การกลับใจเป็นเรื่องดีครับ แต่ลบกรรมที่ทำแล้วนั้นไม่ได้  ผู้ใดทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง  นอกจากชะลอกรรมนั้นไว้มิให้สนองก่อนด้วยทำความดีมากๆ

ถ้าดิฉัน ถูกสามีตบหน้าดิฉัน แล้วจะให้ดิฉันทำยังไงคะ ถ้าดิฉันไม่หยิกเขาบ้าง

สวัสดีครับคุณพรหล้า

          ภรรยามีสิทธิป้องกันตัวครับ  สำหรับในบันทึกนี้ท่านหมายถึงสตรีใจร้าย ใจพาลระรานสามีซึ่งดีต่อภรรยา อย่างนี้จึงจะเข้าข่ายครับ  และฝ่ายที่ระรานพาลทุบตีหยิกข่วนคนอื่นซึ่งไม่ได้ทำอะไรให้ย่อมได้รับกรรมสนองครับ

นางสาวพรรพี ไชยบุญศรี

สรุป  ใครยิกข่วนสามีตายเป็นเปรต

     ภรรยาไม่ควรยิกข่วนสามี  เพราะสามีมีหน้าที่ดูแลปกป้องคุ้มครอง  เป็นผู้นำครอบครัว  ภรรยาควรให้การยกย่อง  นับถือสามี  และเคารพสามี  ควรใช้เหตุผลในการพูดจา  ไม่ควรตบตีสามีหรือนินทาสามี  จะทำให้เรามีปราบติดตัวไปตลอด

ข้อคิดที่ได้

    ทำให้เราเป็นผู้มีเหตุผลมากขึ้น และมีสติก่อนที่คิดจะทำอะไรลงไป

คติที่ได้รับ

     ใหทุกข์แก่ท่าน  ทุกข์นั้นถึงตัว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท