ผู้วิจัยได้รับโทรศัพท์จากจ่าชัย (แห่งบ้านสามขา) เมื่อตอนเกือบเที่ยงของวันพฤหัสที่ผ่านมา ขณะที่ผู้วิจัยกำลังจะเดินทางไปเยี่ยมบัณฑิตอาสาสมัครที่จังหวัดน่านว่า พอช. จะจัดงานวิถีพลังไท (เป็นชื่อย่อค่ะ ชื่อเต็มยาวมาก จำไม่ได้แล้ว) ที่สวนอัมพร ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2550 งานนี้จ่าชัยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานในประเด็นองค์กรการเงินค่ะ
ประเด็นที่จ่าชัยโทรหาผู้วิจัย คือ ต้องการให้ผู้วิจัยประสานงาน (อีกต่อหนึ่ง) กับทางเครือข่ายออมบุญฯ เพื่อที่จะจัดส่งข้อมูลของเครือข่ายออมบุญฯในฐานะตำบลต้นแบบไปร่วมงานนี้ โดยสิ่งที่ทาง พอช. ต้องการ คือ องค์ความรู้ขององค์กรการเงินต้นแบบในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การบูรณาการกองทุน วิสาหกิจชุมชน การแก้ไขปัญหาหนี้สิน การเชื่อมประสานกับหน่วยงาน การเปลี่ยนแปลงของสมาชิกและคณะกรรมการในเรื่องคุณธรรม โดยข้อมูลและรูปภาพประกอบจะต้องส่งให้ พอช. ภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2550
ผู้ที่จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมงานประกอบด้วย
1.ผู้เฝ้าบูธ จำนวนไม่เกิน 3 คน (ต้องอยู่ทุกวันตั้งแต่ต้นจนจบ)
2.ตัวแทนตำบลเข้าร่วมตำบลละ 2 คน ไม่เกิน 5 ตำบล
3.ผู้ประสานงาน 1 คน
ก่อนจบการสนทนา ผู้วิจัยรับปากกับจ่าชัยว่าจะเป็นผู้ติดต่อกับเครือข่ายออมบุญฯ ให้ และจะให้เครือข่ายออมบุญฯ ประสานกับทางจ่าชัยอีกทีหนึ่ง พร้อมกันนี้ผู้วิจัยได้ถามจ่าชัยด้วยความสงสัยว่าเพราะเหตุใดจ่าชัยจึงไม่เลือกพื้นที่บ้านสามขาซึ่งจ่าชัยเป็นคนที่นั่นขึ้นไปนำเสนอเป็นต้นแบบ คำตอบที่ผู้วิจัยได้รับจากจ่าชัยก็คือ ต้องการให้พื้นที่อื่นได้เข้ามาร่วมเรียนรู้ในเวทีต่างๆมากขึ้น ทุกวันนี้บ้านสามขาก็พอจะมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ผู้นำของชุมชนมีโอกาสเข้าร่วมเรียนรู้ในประเด็นต่างๆอยู่พอสมควร ดังนั้น ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจาก พอช. จึงต้องการให้โอกาสพื้นที่อื่นบ้าง ประกอบกับเห็นว่าเครือข่ายออมบุญฯน่าจะเป็นต้นแบบที่ดีได้ทั้งในแง่การบริหารจัดการ การขยายผล และการเชื่อมประสานกับหน่วยงาน ในส่วนของบ้านสามขานั้นต้องยอมรับว่าภายในหมู่บ้านสามารถดำเนินการเรื่ององค์กรการเงินไปได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้ขยายไปยังพื้นที่อื่นๆเหมือนกับเครือข่ายออมบุญฯ
การจบการสนทนาในครั้งนี้ทำให้ผู้วิจัยรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง เพราะอย่างน้อยก็มีแนวร่วมการทำงานที่เข้าใจและให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ และที่มากไปกว่านั้นก็คือ "โอกาส" ที่ชุมชนหยิบยื่นให้แก่กัน โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน
"โอกาส" ที่ชุมชนหยิบยื่นให้แก่กัน โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน ขอบคุณนะคะ ที่ให้ข้อคิดนี้ค่ะ โดนใจค่ะ
สวัสดีครับ อาจารย์อ้อม คงได้ร่วมมือประสานกันเรื่องสวัสดิการนะครับ