รำลึกถึง...... "หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ"

10:11 น.  หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มรณภาพ ขณะมีอายุ 96 ปี เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช หลังมีอาการเจ็บหน้าอก และเข้ารักษาอาการอาพาธ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ มรณภาพ เมื่อเวลา 09.00 น. ณ ตึกอัษฎางค์ โรงพยาบาลศิริราช โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีอาการเจ็บหน้าอก และเข้ารักษาอาการอาพาธ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มรณภาพขณะอายุ 96 ปี
....................................................( คัดลอกจาก...สำนักข่าวเนชั่นฯ )

ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติในการเผยแผ่แก่นธรรม ที่มีชื่อเสียง
น่าเคารพเลื่อมใสมาก  ท่านเป็นเยี่ยงอย่าง ในการ "ทวนกระแส" และชี้นำให้
ชาวพุทธปฏิบัติในทางที่ถูกต้องตลอดอายุขัยของท่าน

เพื่อรำลึกถึงท่าน  ผู้เขียนจึงคัดลอก "ทางพ้นทุกข์" ที่ท่านกล่าวใว้ในที่บางแห่ง
มาให้อ่านกัน ครับ

"ทางพ้นทุกข์"
....................
1. เมื่อมีความทุกข์เกิดขึ้น  จงนึกว่าต้องมีสาเหตุ

2. สาเหตุของความทุกข์อยู่ที่ตัวเราเอง  มิใช่มาจากที่อื่น

3. สิ่งภายนอกจะเป็นวัตถุก็ตาม  คนก็ตาม  มิใช่ตัวการสำคัญ

ตัวการสำคัญอยู่ที่ตัวเราเองโดยแท้

4. จงค้นหาสาเหตุของความทุกข์ในตนของตนเอง

5. ในการค้นหาสาเหตุนั้น  ต้องทำใจให้สงบ  ด้วยการเข้าไปสู่

ที่สงบเงียบ  เพื่อความสงบทางใจ

6. การสวดมนต์ภาวนาในพุทธศาสนามิใช่การอ้อนวอนให้ใคร ๆ

มาช่วยตน  แต่ต้องการความสงบใจเท่านั้น

7. เมื่อสงบใจแล้ว  จงเอาปัญหาความทุกข์ขึ้นมาพิจารณาให้แตก

ด้วยความสุขุมรอบคอบ  จนเห็นได้ชัดว่าอะไรเป็นเหตุของความทุกข์นี้

8. เพื่อพบสาเหตุแล้ว  จงแข็งใจตัดเหตุนั้นทิ้งเสีย  อย่าได้ทำตน

เป็นคนอ่อนแอ  อย่ายอมแพ้แก่ธรรมชาติฝ่ายต่ำเป็นอันขาด

ถ้าหากท่านปฏิบัติได้อย่างนี้  ท่านก็มีหวังพ้นทุกข์ได้แน่
                                                                          ....ปัญญานันทภิกขุ

.......................................................................................................................

[ไพฑูรย์]

ขาดเสาหลักทางความคิดไปอีกหนึ่งท่าน เราหวังว่า จะมีคนอื่นๆ ที่มีหลักคิดแบบท่านเกิดขึ้นอีก เพื่อยังความสันติสุขแก่สังคม ในวันที่กระแสงสังคมไหลเชี่ยว

[augustman]

 

"ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย  ณ บัดนี้  ถึงเวลาของการฟังปาฐกถาธรรมแล้ว  ขอให้ทุกท่านอยู่ในอาการอันสงบ  ตั้งใจฟังให้ดี  เพื่อให้ได้ประโยชน์อันเกิดจากการฟัง  ตามสมควรแก่เวลา" ...ฯลฯ

เพื่อรำลึกถึง "หลวงพ่อปัญญาฯ"  จึงขอนำคำอรัมภบทก่อนเข้าสู่เนื้อหาสาระปาฐกถาธรรมของท่านที่เราทั้งหลาย  เคยได้ยินจนคุ้นเคย  ทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย  ทุกเช้าวันอาทิตย์ต้นเดือนก่อนหน้าโน้น

เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกคล้าย ๆ กัน คือว่า...ท่านพูดตรง จริงใจ ไม่อ้อมค้อม   แต่เปี่ยมด้วยเมตตา...ครับ

................................................................

สวัสดี คุณ. pp 

นับวันพระแท้ พระดี หายากลงไปเรื่อย ๆ  
มีก็เห็นแต่ "ตามกระแสวัตถุ" จนน่าเศร้า ครับ

ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ครับผม