ความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
ให้แก่ผู้แจ้งการครอบครองต่อไป
และให้ทำสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้ที่สำนักงาน
พร้อมรายงานให้กรมประมงทราบด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจอนุญาต ตามคำสั่งกรมประมงที่ 1187/2538 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2538 4.2 กรณีอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณาเห็นว่าไม่สมควรอนุญาตให้ผู้แจ้งการครอบครอง ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้ผู้แจ้งการครอบครองส่งมอบสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อนำไปปฏิบัติตามระเบียบต่อไป
หากผู้แจ้งประสงค์จะจำหน่ายให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะหรือจำหน่ายให้แก่ผู้รับใบอนุญาตเพาะพันธุ์ในกรณีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ ให้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือวันที่ได้รับแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตจากอธิบดีเมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ยังมีสัตว์ป่าคุ้มครองเหลืออยู่เท่าใดให้สัตว์ป่าคุ้มครองนั้นตกเป็นของแผ่นดิน ให้เจ้าของส่งมอบกรมประมง หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
5. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งการครอบครองจัดทำทะเบียนการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยให้ระบุเลขลำดับการรับแจ้ง วันที่รับแจ้ง ชื่อ-ที่อยู่ของผู้แจ้งชนิดและจำนวนสัตว์ป่าตามการแจ้งการครอบครองนั้น เป็นสำคัญเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานต่างหากจากแบบแจ้งการครอบครอง
6. ให้สำนักงานประมงจังหวัด รวบรวมรายงานผลการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมด้วยรายละเอียดให้กรมประมงทราบโดยเร็ว เมื่อหมดระยะเวลาการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง
7. การรับแจ้งการครอบครองในครั้งนี้ ตามกฎหมายกำหนดให้รับแจ้งการครอบครองได้แต่เฉพาะสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีชีวิตเท่านั้น มิได้กำหนดให้มีการรับแจ้งการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผู้ที่แจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่แจ้งวัตถุประสงค์จะเลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นต่อไป จะจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นมิได้ คงเก็บไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์เท่านั้น จะจำหน่ายได้เฉพาะลูกที่เกิดมาจากสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กฎหมายกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้เท่านั้น เช่น ปลาตะพัด จระเข้ เป็นต้น
หมายเหตุ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมให้สอบถามได้ที่
ส่วนอนุญาตและจัดการประมง สำนักบริหารจัดการด้านการประมง กรมประมง
โทร.0-2561-4689 หรือ
สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0-2561-2917
โทร. 0-2561-4837
ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจอนุญาต ตามคำสั่งกรมประมงที่ 1187/2538 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2538 4.2 กรณีอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณาเห็นว่าไม่สมควรอนุญาตให้ผู้แจ้งการครอบครอง ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้ผู้แจ้งการครอบครองส่งมอบสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อนำไปปฏิบัติตามระเบียบต่อไป
หากผู้แจ้งประสงค์จะจำหน่ายให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งและดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะหรือจำหน่ายให้แก่ผู้รับใบอนุญาตเพาะพันธุ์ในกรณีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ ให้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือวันที่ได้รับแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตจากอธิบดีเมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ยังมีสัตว์ป่าคุ้มครองเหลืออยู่เท่าใดให้สัตว์ป่าคุ้มครองนั้นตกเป็นของแผ่นดิน ให้เจ้าของส่งมอบกรมประมง หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
5. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งการครอบครองจัดทำทะเบียนการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยให้ระบุเลขลำดับการรับแจ้ง วันที่รับแจ้ง ชื่อ-ที่อยู่ของผู้แจ้งชนิดและจำนวนสัตว์ป่าตามการแจ้งการครอบครองนั้น เป็นสำคัญเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานต่างหากจากแบบแจ้งการครอบครอง
6. ให้สำนักงานประมงจังหวัด รวบรวมรายงานผลการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมด้วยรายละเอียดให้กรมประมงทราบโดยเร็ว เมื่อหมดระยะเวลาการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง
7. การรับแจ้งการครอบครองในครั้งนี้ ตามกฎหมายกำหนดให้รับแจ้งการครอบครองได้แต่เฉพาะสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีชีวิตเท่านั้น มิได้กำหนดให้มีการรับแจ้งการครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผู้ที่แจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่แจ้งวัตถุประสงค์จะเลี้ยงดูสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นต่อไป จะจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นมิได้ คงเก็บไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์เท่านั้น จะจำหน่ายได้เฉพาะลูกที่เกิดมาจากสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่กฎหมายกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้เท่านั้น เช่น ปลาตะพัด จระเข้ เป็นต้น
หมายเหตุ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมให้สอบถามได้ที่
ส่วนอนุญาตและจัดการประมง สำนักบริหารจัดการด้านการประมง กรมประมง
โทร.0-2561-4689 หรือ
สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0-2561-2917
โทร. 0-2561-4837
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย นาย พีรศักดิ์ มากรักษ์ ใน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมง G.707
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก