กิ่ง
น.ส. พัทยา กิ่ง เพียพยัคฆ์

หนึ่งชีวิตของยายสำราญ


ยายมองหน้าหนูแล้วยายตอบแบบเสียงเบา ๆ คิดถึงสิ

ในชีวิตหนึ่งของคนเราไม่เท่ากัน ต่างคน ต่างเวลา ต่างจิต  ต่างใจ ต่างคนต่างอยู่  ต่างคนต่างมีครอบครัวเป็นของตัวเอง  กิ่งได้มีโอกาสได้รู้จักยายสำราญก็ตอนที่มาอยู่ที่มหาชีวาลัยอีสาน  ยายมีลูกสามคน มีลูกสาวหนึ่งคนแต่เสียชิวิตแล้วแต่ก็ยังไม่ลืมทิ้งหลานไว้ให้ยายเลี้ยงหนึ่งคน หลานยายต้องกินยาทุกวัน มีลูกชายสองคนมีครอบครัวไปทำงานที่  กทม. กันหมด  ไม่เคยที่จะมาดูยายเลยเคยถามยายว่าคิดถึงลูกหรือเปล่ายาย  ยายมองหน้าหนูแล้วยายตอบแบบเสียงเบา ๆ คิดถึงสิ

ยายมีสามีหนึ่งคนแต่สามียายติดสุราเวลาเมามาก็ทุบตียาย จนยายต้องหนีมาอยู่ที่มหาชีวาลัยอีสานต้องคอยหลบเวลากลับไปหาหลาน หลานยายอยู่กับสามียาย  เวลายายมีเงินก็จะเอาไปฝากครูที่โรงเรียนไว้ให้หลาน  ยายไม่อยากเจอสามีอีกเวลาสามียายเห็นก็จะตียายอีก

ยายมาอยู่มหาชีวาลัยอีสานยายจะทำงานทั้งวัน ไม่ยอมนั่งเปล่าค่ะงานประจำของยายเลี้ยง หมู ไก่ เป็ด หมา  แมว นกยูง ไก่ตอก  เอาเป็นว่ายายเลี้ยงทุกอย่างที่มีชีวิต คิดดูนะค่ะเวลายายไม่อยู่หมาที่ยายเลี้ยงจะพากันออกไปรอยายปากทาง   เวลายายมาก็จะไปนอนหน้าห้องยาย ถ้าตัวไหนหิวก็จะทุบประตูห้องยายกลางดึก  ทุกวันนี้ยายปลูกผักแล้วยายก็จะเอาไปขายในเมืองสตึก  ไปกับยายสอนไปทีก็จะให้ค่ารถยายสอนยายเป็นคนมีน้ำใจค่ะ   เห็นยายแล้วคิดถึงแม่ค่ะก็เลยมานั้งมองสังคมบังคับให้คนทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั้งแม่ของตัวเอง  เห็นเงินมีค่ามากกว่าแม่  ทิ้งถิ่น  ทิ้งบ้านเกิด   คิดว่าการที่ก้าวไปข้างหน้าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในถิ่นบ้านเกิดของตัวเอง  ยอมไปข้างหน้าเพื่อจะหนีกำพืดตัวเอง  ถ้ายอมทิ้งสิ่งที่ทำให้เราเกิดมาในโลกเน่า ๆ ใบนี้ได้แล้วชีวิตเราจะเน่าแค่ไหนกันละ  ยายไม่ชอบถ่ายรูปเอาไว้วันหลังจะถ่ายมาลงค่ะ  ยายบอกว่ายังไม่สวยไม่ยอมยายต้องสวยก่อน

ใครที่มีแม่อยู่ก็กลับไปหาท่านบ้างนะค่ะอย่าปล่อยให้ท่านคิดถึงเปล่าท่านจะไปทำบุญกี่ร้อยวัด ถ้าคนในบ้านไม่สุข  ทำบุญสักร้อยวัดก็จะได้อะไร

%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87

                                    ยายสำราญที่งามจากภายใน

        ตักแม่คือหมอนหนุนอันอบอุ่น

คือเบาะนั้งอันอ่อนนุ่มสบาย

สำหรับลูกยามมีชีวิตที่อ่อนล้า หรือพ่ายแพ้

กลับมาเถาะ มาหาตักแม่

เพราะที่นี่ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการแย่งชิง

ไม่มีการให้สินจ้างรางวัล

ตักแม่เมื่อลูกยังเยาว์วัยเป็นเช่นใด

วันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

แม่รออยู่ที่เดิม

 

 

หมายเลขบันทึก: 135371เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2007 21:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
อ่านแล้วเศร้าใจครับ  มีตัวอย่างแบบนี้ที่ปรากฏทางหน้าจอทีวีมากครับ เราต้องช่วยกันคนละไม้คนละเชมือโดยเฉพาะภาครัฐน่าจะเป็นแกนนำเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนระดับรากหญ้าที่ขาดโอกาสในทุกด้าน ครับ
  • สวัสดีค่ะคุณสนิทP
  • สังคมเน่าเกินแก่แล้วค่ะ
  • เอาแค่ไม่ให้เน่ามากไปกว่านี้ก็ดีแล้วค่ะ
  • ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทาย

สวัสดีค่ะ

 สงสารย่ยสำราญ ในหมู่บ้านที่เคยทำงาน ก็มียายแบบนี้ เยอะมาก คนแก่ ก็หมดความหมายไปตามความสามารถ และประโยชน์ก็จะลดลง จึงเหลือแต่เมตตาจิต ของเพื่อนร่วมโลกเท่านั้น จะเอี้ออาทร อย่างไร้เงื่อนไข

  • สวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะ
  • ก็คงต้องแก้ที่ตัวเราก่อนค่ะ
  • จะไม่ให้แม่เป็นแบบยายค่ะ
  • ดีจังน้องหล่า
  • เขียนเรื่องใกล้ๆตัวได้น่าอ่านเลยล่ะ
  • อ่านแล้วลูกทั้งหลายต้องจุกไปที่อก
  • วันนี้คิดถึงแม่หรือเปล่าครับ
  • สวัสดีค่ะอ้ายออต
  • ขอบคุณค่ะที่มาทั้งตัวและหัวใจค่ะ
  • ตังเป็น ๆ หันหลังชนกันอยู่ที่มหาชีวาลัย

 

  • คิดถึงยายสำราญจ๊ะ
  • คิดถึงสองคนที่นั่งหันหลังชนกัน
  • คิดถึงสองคนที่ไล่ตีกัน
  • คิดถึงแม่หวี
  • คิดถึงพ่อที่หนีไป  ปาย
  • คิดถึง.... ยายไอ้แตงโมหนีไปสวรรค์ 
  • สวัสดีค่ะอาจารย์คนสวยที่สุด
  • หลังจากที่สวนป่าเงียบ
  • มีลิงมาเพิ่มอีกตัวตอนนี้เป็นสวนป่าแตกแล้วค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท