เทคโนโลยีสารสนเทศ


เทคโนโลยีสารสนเทศ

บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสังคมความเป็นอยู่ของมนุษย์เป็นไปอย่างรวดเร็ว กล่าวกันว่าได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เรียกว่า การปฏิวัติมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเกิดจากการที่มนุษย์รู้จักใช้ระบบชลประทานเพื่อการเพาะปลูก สังคมความเป็นอยู่ของมนุษย์จึงเปลี่ยนจากการเร่ร่อนมาเป็นการตั้งหลักแหล่งเพื่อทำการเกษตร ต่อมาเมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากที่เจมส์วัตต์ประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ มนุษย์รู้จักนำเอาเครื่องจักรมาช่วยในอุตสาหกรรมการผลิตและช่วยในการสร้างยานพาหนะเพื่องานคมนาคมขนส่ง ผลที่ตามมาทำให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม สังคมความเป็นอยู่ของมนุษย์จึงเปลี่ยนจากสังคมเกษตรมาเป็นสังคมเมือง และเกิดรวมกันเป็นเมืองอุตสาหกรรมต่าง ๆ
          ในช่วง พ.ศ.
2523 เป็นต้นมา ความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างกว้างขวาง มีการส่งถ่ายข้อมูลระหว่างกันเป็นจำนวนมาก เกิดการประยุกต์งานด้านต่าง ๆ เช่น ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต การจองตั๋ว การซื้อสินค้า การติดต่อส่งข้อมูล เช่น โทรสาร (facsimile) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail) 1.1 สังคมเมืองชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ที่มีบทบาทเพิ่มขึ้น ใน พ.ศ. 2528 กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้วิชาคอมพิวเตอร์เป็นวิชาเลือกของหมวดวิชาคณิตศาตร์ ประกอบด้วย 2 รายวิชา คือ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และการเขียนโปรแกรมภาษาเบสิก ต่อมา พ.ศ. 2532 และ พ.ศ. 2541 ก็เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมหลักสูตรทางด้านคอมพิวเตอร์อีกหลายวิชา และจัดกลุ่มอยู่ในวิชาอาชีพสาขาคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีโรงเรียนมัธยมศึกษาหลายแห่งทั่วประเทศเปิดการเรียนการสอนทางด้านคอมพิวเตอร์ขึ้นรูปที่
1.2
การเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมีความจำเป็นเพียงไรที่จะต้องให้เยาวชนไทยเรียนรู้คอมพิวเตอร์ เมื่อมีวิชาพื้นฐานอื่น ๆ มากมายที่ต้องจะเรียน เหตุผลสำคัญสำหรับตอบคำถามนี้ คือปัจจุบันความเป็นอยู่ของมนุษย์ในสังคม มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ข้อมูลมากขึ้น
     
ตั้งแต่เช้าตรู่ นักเรียนอาจถูกปลุกด้วยเสียงนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์แบบดิจิทัล และเริ่มวันใหม่ด้วยการฟังวิทยุที่ส่งกระจายเสียงทั่วประเทศพร้อมกัน รับประทานอาหารเช้าที่ปรุงจากเครื่องครัวที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เสร็จแล้วรีบมาโรงเรียน ก้าวเข้าลิฟต์ที่ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ติดต่อกับเพื่อนด้วยโทรศัพท์มือถือ คิดเลขด้วยเครื่องคิดเลขทันสมัย เรียนพิมพ์เอกสารด้วยโปรแกรมประมวลคำ ตกเย็นกลับบ้านดูทีวีแล้วเข้านอน
กิจวัตรในชีวิตประจำวันของมนุษย์เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากขึ้น จนดูเหมือนว่าเทคโนโลยีเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งทำให้มนุษย์ได้รับความสะดวกสบายและประสบความสำเร็จในงานด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีทางด้านอวกาศ ทางด้านการผลิต ทางด้านอุตสาหกรรม และทางด้านพาณิชยกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคแรก เริ่มจากการใช้เครื่องจักรกลแทนการทำงานด้วยมือ พลังงานที่ขับเคลื่อนเครื่องจักรก็มาจากพลังงานน้ำ พลังงานไอน้ำ และเปลี่ยนมาเป็นพลังงานจากน้ำมันขับเคลื่อนเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าแทน ต่อมาการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้เกิดขึ้นอีก โดยเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานทีละขั้นตอนมาเป็นการทำงานระบบอัตโนมัติ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กลไกการควบคุมอัตโนมัติทำงาน เช่น การดำเนินงานผลิต การตรวจสอบ การควบคุม ฯลฯ การทำงานเหล่านี้อาศัยระบบการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
อุตสาหกรรมทางด้านคอมพิวเตอร์เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในระยะปีหรือสองปีข้างหน้า ยากที่จะคาดเดาว่า จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ขึ้นมาอีกบ้าง ทั้งนี้เพราะขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสูงมาก โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับไมโครคอมพิวเตอร์ (micro computer )พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ขอบเขตของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ประโยชน์ที่ได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศ

คำสำคัญ (Tags): #การเรียนการสอน
หมายเลขบันทึก: 132919เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2007 11:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณนะคะทีให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมงาน จะรอบันทึกใหม่นะคะ 

เพื่อนสนิท

       ความแตกต่างกันของแต่ละบุคคล ทำให้โลกนี้มีทรัพยากรเพียงพอแก่แต่ละคน ไม่แก่งแย่งกันจนวุ่นวายเกินไป ลองคิดง่าย ๆ ถ้าคนทุกคนใจเดียวกัน คิดเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน ทำเหมือนกัน โลกนี้คงจะวุ่นวายทุก ๆ อย่าง เพราะคนต้องแย่งที่ที่เดียวกันอยู่ แย่งอาหารประเภทเดียวกันกิน จะไม่มีการเฉลี่ยจ่ายแจก เนื่องจากคนชอบทุกอย่างชนิดเดียวกันหมด

          แต่เพราะธรรมชาติไม่ต้องการให้มนุษย์วุ่นวายไปกันมากกว่านี้ จึงสร้างให้มนุษย์มีความแตกต่างกันออกไปในด้านต่างๆ ให้มนุษย์คนหนึ่งมีสิ่งที่อีกคนหนึ่งอาจจะไม่มี และให้คนหนึ่งรู้ในสิ่งที่อีกคนหนึ่งไม่รู้ ก็เพื่อให้มนุษย์ทุกคนรู้จักช่วยเหลือกัน อาศัยกัน เห็นความสำคัญของกันและกัน ไม่ยโสโอหัง ถือว่าตนเก่ง ตนฉลาด ตนดีเลิศประเสริฐศรีเพียงคนเดียว

          ธรรมชาติไม่ได้สร้างความแตกต่างกันมา เพื่อให้มนุษย์ใช้เป็นปัญหาในการรังแก เอารัดเอาเปรียบ ดูถูก ดูหมิ่น ทะเลาะ ชิงชังกันและกัน แต่สร้างมาเพื่อให้มนุษย์เรียนรู้ เข้าใจ และเห็นใจซึ่งกันและกัน

          จงสงสาร และเห็นใจในความโง่ของคนอื่น แต่อย่างสงสารและเห็นใจให้ความโง่ของตัวเอง

          จงอภัย ในความผิดของคนอื่น แต่อย่าอภัย ในความผิดของตัวเอง

          จงอย่าโกรธ เมื่อคนอื่นเขาไม่ได้ดังใจเรา แต่จงโกรธ ที่ใจของเราไม่ยอมให้ใครได้ดังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท