ปลูกต้นพันงูโดยใช้เมล็ดที่พรานกระต่าย
โดย ประสิทธิ์ อุทธา
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว
สำนักงานเกษตรอำเภอพรานกระต่าย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว(2547 - 2549) ข้าพเจ้าในฐานะเป็นนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบตำบลท่าไม้(เกษตรตำบล) อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร สังเกตุเห็นว่าในพื้นที่ตำบลท่าไม้แต่ละปีช่วงเดือนพฤษภาคม - เดือนกรกฎาคม จะมีพืชอาหารท้องถิ่นชนิดหนึ่งถูกเก็บออกจากป่ามาวางจำหน่ายตามตลาดสดในเขตเทศบาลพรานกระต่าย และมีราคาค่อนข้างจะสูงพอสมควร สอบถามพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่แล้วทราบว่า ที่อำเภอพรานกระต่าย เรียกพืชชนิดนี้ว่าพันงูหรือบอนงู ภาคเหนือเรียกว่าดอกก้าน มีหลายชนิดเช่นพันงู(บอนงู) บอนตะโก แหลนผี เป็นพืชตระกูลบุก มีหัวใต้ดินลักษณะคล้าย แครอท ใบเป็นแฉกๆ เมื่อได้รับความชื้นจากนำฝนหัวที่อยู่ใต้ดินจะแทงช่อดอกและลำต้นขึ้นเหนือดิน ชาวบ้านทั่วไปก็จะเก็บต้นอ่อนและก้านดอกมาปรุงเป็นอาหารหรือจำหน่ายตกประมาณ 2-4 ดอก ราคา 10-20 บาท ทำรายได้อย่างดีให้กับผู้ที่รู้จักการเก็บมาจำหน่าย แต่แนวโน้มพืชดังกล่าวจะหายากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีการบุกรุกทำลายป่า และมีผู้คนบางกลุ่มจ้างคนในพื้นที่ขุดหัวพันงูในป่า เพื่อมาปลูกในบ้านทำให้พันงูถูกทำลายจึงหายากและมีราคาแพงมากขึ้น <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="left"> จึงได้คิดหาวิธีที่จะสามารถขยายพันธุ์ต้นพันงู โดยไม่ต้องขุดมาจากป่า คิดว่าน่าจะเลียนแบบธรรมชาติโดยการเพาะจากเมล็ดพันงูที่แก่ และทราบว่ามีเกษตรกรบางรายทดลองเพาะแล้วได้ผลดี ได้ต้นพันงูจำนวนมากการเจริญเติบโตดี จึงแนะนำให้เกษตรกรทั่วไปหันมาเพาะปลูกต้นพันงูเป็นพืชแซมในระบบการเกษตรแบบผสมผสาน หนึ่งในจำนวนเกษตรกรที่สามารถเพาะปลูกต้นพันงูได้คือนางมุกดา โมราราย เกษตรกรบ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 14 บ้านหนองมะคึก ตำบลท่าไม้ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งสามารถขยายพันธุ์เพาะปลูกต้นพันงูได้เองจำนวนกว่า 10,000 ต้น </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="left"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="left">วิธีการเพาะพันงูจากเมล็ด</p> ปล่อยให้ดอกพันงูมีเมล็ดแก่สีแดงจัด นำมาล้างน้ำให้สะอาด เตรียมดินร่วนใส่กระบะหรือกระถางแล้วนำเมล็ดพันงูที่ได้หว่านลงไป ประมาณ 1 เดือน จะงอกเป็นต้นอ่อนเล็กๆ จึงย้ายไปปลูกในพื้นที่ที่มีร่มเงารำไรเช่น ไต้ต้นไม้ใหญ่ ในสวนกล้วย สวนมะนาว สวนลำไย ฯลฯ ต้นพันงูจะแก่ ลงหัวและยุบไป คอยดูแลรักษาอย่าให้น้ำท่วมหรือไก่คุ้ยเขี่ย เมื่อมีฝนตกลงมาต้นพันงูจะงอกขึ้นมาเองตามธรรมชาติใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านเพื่อช่วยให้ดินร่วนทำให้การเจริญเติบโตเร็วขึ้น ภายในปี 2-3 ก็จะมีดอกสามารถเก็บมาทำอาหารหรือจำหน่ายได้และจะมีดอกขนาดโตขึ้นทุกปี ไปเรื่อยๆ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="left"> ดังนั้นจึง ไม่จำเป็นต้องไปหาดอกหรือต้นพันงูในป่ามารับประทานอีก ทั้งยังคิดว่าหากเพาะปลูกได้จำนวนมากขึ้นจะสามารถทำรายได้เพิ่มให้แก่ครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งสามารถรักษาต้นพันงูในป่าไม่ให้ถูกทำลาย ปัจจุบันมีเกษตรกรทั่วไปเริ่มนำแนวคิดดังกล่าวไปใช้แล้วได้ผลดี จึงคาดว่าในอนาคตพืชอาหารจากธรรมชาติชนิดนี้จะได้รับการพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจประจำท้องถิ่นอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชรต่อไป</p>®®®®®®®®®®®®®®®®®