วันนี้มีโอกาสจะได้นำผลงานการเขียนเรื่องสั้นของนักเรียนชั้น ม. ๕ เป็นผลงานของน้องศศิธร บูชา คนนี้ฝีมือดี ชอบอ่านเรื่องสั้นเป็นชีวิตจิตใจ เลยได้กำไรจากการอ่านเพราะได้ครูดีจากผลงานที่อ่านนั่นเอง ตรงกับคำกล่าวของ อาจารย์ ฐะปะนีย์ นาครทรรพ ว่าหากจะเป็นนักเขียนควรเริ่มต้นด้วยการเป็นนักอ่าน เด็ก ๆ ได้รับหัวข้อเรื่องจากครู พรรณา ในหัวข้อเรื่อง " ปากกาทรยศ " จะทรยศอย่างไร ติดตามได้ ณ บัดนี้ แอ่น.... แอน........ ....แอ้น...........................................................
ปากกาทรยศ
น.ส. ศสิธร บูชา ม. ๕ / ๑ / ๔๙
“ ไอ้ปากกาทรยศ ”
เสียงแหลมเล็กที่ตะโกนด่าด้วยความโกรธ เสียงนั้นมันดังก้องไปทั่วหัวของฉันพร้อมกับมือขาวนุ่มที่จับฉันโยนลอยละลิ่วออกไปเพื่อให้พ้นสายตาของเจ้าหล่อน ในขณะที่ตัวของฉัน กำลังล่องลอยอยู่ในอากาศที่นิ่งสงบ ซึ่งตรงกันข้ามกับจิตใจของฉันที่มัน ผวา ตื่นกลัว และเศร้าสลดกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พลันความคิดของฉันก็หวนกลับไปนึกถึงเรื่องราวในอดีตของฉัน ในความทรงจำที่ฉันจำได้แม่นยำและไม่เคยลือเลือน ฉันคือปากกาหมึกสีน้ำเงิน ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยบริษัทผลิตเครื่องเขียนมีชื่อแห่งหนึ่งในประเทศไทย ฉันเป็นปากกาที่มีรูปทรงสวยงาม มีสีชมพูสดใส มิหนำซ้ำยังเขียนลื่นอีกต่างหาก เรียกได้ว่าฉันเป็นปากกาที่ใครเห็นใครก็อยากจับจองเป็นเจ้าของ ฉันถูกนำมาวางขายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง และแล้วก็มีผู้หญิงวัยกลางคนมาซื้อฉันจากพนักงานขาย ......พนักงานขายคนนั้นเธอบรรจงวางฉันลงในกล่องที่สวยงาม และผูกริบบิ้นสีหวานที่ถูกเลือกสรรอย่างดีเพื่อให้เข้ากับกล่อง
ใช่แล้ว... ฉันถูกซื้อไปเพื่อผู้ที่ซื้อฉันจะมอบฉันให้กับเจ้านายตัวจริงของฉันอีกทีหนึ่ง ในตอนนั้นฉันเศร้าใจมากที่จะต้องไปทำหน้าที่ของปากกา ฉันคิดในใจเพียงแต่ว่าความสวยงามของฉันมันคงต้องเสื่อมลงเพราะผ่านการใช้งาน แล้วก็ต้องทนเมื่อยล้าเพื่อให้มนุษย์ใช้ขีดเขียน ฉันอยากจะนั่งจะนอนเพื่อตั้งโชว์อยู่ในตู้กระจกภายในห้างสรรพสินค้าแบบนี้ตลอดไป แต่มันคงจะเป็นไปได้เพียงแค่ความฝันเท่านั้น
เจ้านายของฉันเธอเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกที่เจ้านายได้ฉันมา เธอก็เก็บฉันไว้ในถุงปากกาสีชมพู ฉันได้พบกับเพื่อนๆ เครื่องเขียนที่มีสีชมพูเหมือนกันกับฉันอีกมากมาย ทั้งปากกา ดินสอ ไม้บรรทัด และเหล่าบรรดายางลบทั้งหลาย ฉันรู้สึกว่าเจ้านายโปรดปรานฉันมาก เพราะตั้งแต่เจ้านายได้ฉันมา เธอก็ใช้แต่ฉันเพียงด้ามเดียว ฉันและเพื่อน ๆ ปากกามักบ่นกันถึงเรื่องนี้เสมอในเวลาที่อยู่ในถุงปากกา แต่เรื่องที่ฉันบ่นกับเพื่อน ๆ ปากกาบ่นมันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
“ โอ๊ย ...ฉันละเบื่อจริง ๆ ที่ต้องนอนอยู่แต่ในกระเป๋าปากกานี้ ” ปากกาหนุ่มวัยเดียวกับฉันพูดขึ้น
“ ใช่.. เค้าก็เหมือนกัน ” ปากกาสาว และสวยที่สุดในกระเป๋าใบนี้เสริมขึ้น
“ ใช่... ใช่... ใช่...ใช่... พวกเราก็เหมือนกัน ” เหล่าปากกาทั้งหลายพูดขึ้นพร้อมๆกัน
“ แต่ฉันไม่คิดเหมือนพวกเธอเลย ” ในตอนนั้นฉันพูดขึ้น
“ อ้าว..ทำไมล่ะ” ปากกาด้ามหนึ่งถามขึ้น
“ ใช่ พวกฉันน่ะยังอิจฉาเธออยู่เลยที่ได้ทำหน้าที่ของปากกาให้กับมนุษย์ ” ปากกาด้ามหนึ่งเสริม
“ ฉันต่างหากที่ต้องอิจฉาพวกเธอที่ไม่ต้องทนเหนื่อย ทนเมื่อยเหมือนฉันในตอนนี้ ” ฉันตอบเพื่อน ๆ
“ นี่ พวกเราน่ะ เป็นปากกา มีหน้าที่ให้มนุษย์ใช้ขีดใช้เขียน เราก็ควรทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อที่คนอื่นจะได้เห็นคุณค่าของเรา และก่อนที่คนอื่นจะเห็นคุณค่าของตัวเรา เราก็ควรจะเห็นคุณค่าของตัวเราก่อนรู้มั้ย ” ปากกาอาวุโสที่สุดพูดขึ้น หลังจากที่นิ่งฟังมานานในตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไร
จนในเช้าวันนี้ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ เจ้านายพาพวกเราไปโรงเรียน พอถึงเวลาเรียนเจ้านายก็หยิบฉันขึ้นมาเหมือนเช่นเคย ฉันก็แอบถอนหายใจเพราะความเบื่อหน่าย แต่พอเจ้านายหยิบฉันขึ้นมา สิ่งที่ฉันฝันมานานและไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หมึกในด้ามของฉันหมดพร้อมๆ กับความศรัทธาของเจ้านายที่มีต่อฉันก็หมดลงด้วยเช่นกัน เหลือไว้แต่ความโมโหโกรธา พร้อมกับเสียงแหลมเล็กที่ตะโกนด่าฉัน
“ ไอ้ปากกาทรยศ ” แล้วตัวฉันก็ลอยละลิ่วปลิว ไปในอากาศและหล่นลงในถังสีดำที่วางอยู่มุมห้องเรียน
************************
.
ไม่มีความเห็น