“อิสลามคือศาสนาแห่งสันติภาพ” “อิสลามคือศาสนาแห่งสันติภาพ” เป็นประโยคที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ แต่ในมุมมองของอีกหลายคนที่ต้องการใส่ร้ายและไม่หวังดีต่อศาสนา กลับมองว่าความหมายจากประโยคดังกล่าวนี้ยังค้านกับความเป็นจริง ทำให้เวลานี้ มุสลิม (คนที่นับถือศาสนาอิสลาม) กำลังตกอยู่ในสภาพที่เลวร้าย กำลังถูกโจมตีด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเคร่งศาสนา คัมภีร์มรณะ และอื่นๆ ทั้งๆที่เอกลักษณ์และความโดดเด่นของอิสลามก็คือ การให้ความสำคัญกับคำว่า “สลาม” ซึ่งหมายความว่า “สงบ สันติ ผ่องแผ้ว ปลอดภัย และมีความผาสุก” ซึ่งจะถูกกล่าวบ่อยครั้งในอัล-กรุอาน หนึ่งในพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงประทานศาสนานี้ ก็คือ “อัส-สะลาม” หมายถึงผู้ทรงให้ความปลอดภัย เพราะพระองค์ประสงค์จะให้เกิด ความปลอดภัย ความสุขและสงบผ่องแผ้ว แก่จิตใจมวลมนุษยชาติทั้งหลาย โดยการประทานศาสนบัญญัติอันบริสุทธิ์ให้มวลมนุษย์ได้ยึดถือและปฏิบัติ ในการทักทายของชาวมุสลิม โดยการกล่าวเป็นประโยคสั้นๆแต่มีความหมาย นั่นคือ “อัสสลามุอาลัยกุม” แปลว่า “ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน” ซึ่งเป็นการให้สลาม หรือการกล่าวให้สันติแก่มวลมนุษยชาติเป็นคำสอนที่มีความสำคัญเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของอิสลาม การที่อิสลามพูดเรื่องสลามหรือสันติครั้งแล้วครั้งเล่านั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้น และความรู้สึกนึกคิดต่างๆของมนุษย์ให้ตระหนัก และเห็นความสำคัญของอุดมการณ์สันติภาพ อันเป็นคำสอนที่สำคัญและสูงส่งของอิสลาม เพราะอิสลาม คือ ศาสนาที่ดำรงไว้ซึ่ง ความกรุณาปราณี เป็นคำสอนแห่งสันติภาพ และครรลองอันเที่ยงตรง