ศูนย์อนามัยที่ 1 KM หน่วยงานต้นแบบ (ตอนที่ 2)


การไปเรียน ไปทราบ ไปฟัง ถ้ายังไม่ทำ ก็ยังไม่ลึกซึ้ง

 

ไปเรียน ไปทราบ ไปฟัง แต่ถ้ายังไม่ทำก็ยังไม่ลึกซึ้ง

วันนี้ ขอสกัดมาเล่าเรื่องต่อ ... การจัดการความรู้ ฝ่ายบริหาร ศูนย์อนามัยที่ 1... คุณอรทิพย์ หัวหน้าฝ่ายฯ เล่าว่า ... ปีที่แล้วไปเรียนรู้ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ทีม รพ. ได้ทำไปก่อน ก็ไปอ่านบอร์ดที่ รพ.ทำการจัดการเรียนรู้ ทุกๆ เช้า ก็รู้สึกได้อารมณ์ ... จึงเริ่มต้นด้วยการทำแผนขออนุมัติ ผอ. ดำเนินการ พอได้รับอนุมัติ ก็บอกน้องๆ ว่า ... ตอนนี้คงจะต้องทำงานนี้ เพื่อพัฒนาระบบบริการ เพราะเราก็เป็นผู้ให้บริการ ไม่ใช่บริการรักษา แต่เป็นการบริการในงานบริหาร ทั้งบุคคลภายนอก ภายใน จึงเริ่มตั้งต้นที่ มอบหมายหน้าที่ ระบุว่า ใครเป็นทีมงาน และประชุมชี้แจงน้องๆ เพื่อทราบร่วมกัน โดยมีดิฉัน กับคุณพัชรินทร์ (การเงิน) เป็นเลขา เพราะว่าคุณพัชรินทร์ก็ได้ไปเรียนรู้ในปีที่แล้ว ... แต่ว่า ... การไปเรียน ไปทราบ ไปฟัง ถ้ายังไม่ทำ ก็ยังไม่ลึกซึ้ง

คุณอรทิพย์ กมลปลื้มพอมาทำก็รู้สึกว่า จะทำได้หรือไม่ เพราะฝ่ายบริหารมีเจ้าหน้าที่มาก กว่า 50 คน ก็มาคิดว่า จะทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบดี โดยกำหนดเรื่องเล่าไว้ก่อนในเรื่อง “ความประทับใจ หรือผลสำเร็จ ในการทำงานของแต่ละคน” แรกๆ ก็มาคิดว่า เอาอย่างนี้ เราแบ่งกลุ่มย่อย ให้แต่ละงานไปคุย เรื่องเล่าสู่กันฟังก่อน แล้วก็มารวบรวมบันทึกไว้ และมาคุยอีกที ... ทีนี้ก็คิดว่า เอ ถ้าเฉพาะงานมันก็น้อย และก็รู้กันแต่ในงานตัวเอง ก็เลยเปลี่ยนใหม่ว่า เอาอย่างนี้ เรามาแบ่งครึ่งฝ่ายบริหาร แต่ละงานส่งมาครั้งที่ 1 ครึ่งหนึ่ง และครั้งที่ 2 ครึ่งหนึ่ง มาคุยในหัวข้อที่เหมือนกัน 2 ครั้ง ก็เกือบจะ 100% ของเจ้าหน้าที่ แต่ก็คิดว่า คงไม่ครบหรอก เพราะว่าการให้ได้ 100% ของฝ่ายบริหารคงยาก บางคนก็ออกไปข้างนอก บางคนก็ไม่อยู่ ... แต่ก็คิดว่า ทำให้เขาได้เรียนรู้น่ะแหล่ะ จึงเริ่มต้น

วันหนึ่ง ก็นั่งอยู่ ก็เอ ทำไมคนรถเขาขึ้นมาเยอะแยะ ... เป็นว่า น้องเขานัดคุย และก็รู้สึกว่าเขาสนุกสนานกันใหญ่ มีพนักงานขับรถขึ้นมาทีมหนึ่งก่อน และมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ มาเป็น Fa ให้ ก็รู้สึกว่า ดี และเราก็ได้ทำกันมาเรื่อยๆ ทำให้มีเรื่องเล่าให้กันฟัง และมีการรวบรวมทำแฟ้มเก็บไว้ พิมพ์ไว้ ทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก็ยังไม่ครบคนของฝ่ายบริหาร

ความจริงแล้ว การเข้ามาประชุมกันทีก็ยาก แต่ทุกครั้งที่มีการคุย ก็มีหลักฐานเก็บไว้ เรื่องที่คุยเป็นเรื่อง ความประทับใจในเรื่องอะไร ทำงานประสบความสำเร็จมีหลักยังไง ที่คนชม และทำงานได้ทันเวลา ทำยังไง ก็แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันส่วนหนึ่งแล้ว และก็ทำกันต่อๆ ไปก่อน ... เอาไว้เมื่อสักระยะหนึ่งนะคะ เราก็จะมาประชุม กลั่นกรอง และจะนำมาเก็บเป็นขุมความรู้ของฝ่ายต่อไป และจะพยายามทำให้สำเร็จ …

คุณพัชรินทร์ ... เปิดเผยความในใจว่า ครั้งแรกเป็นคนเริ่มนัดประชุม ... หนักใจ เพราะว่าถูกมอบหมายให้เป็นเลขา ... ก็รู้สึกว่านะ ว่า เขาต่อต้าน ไม่อยากคุย คือ แค่พูดเฉยๆ ว่า KM คืออะไร เราจะต้องทำอะไร และไปอ่านมั่งไหม เขาก็ไม่ค่อยสนใจ แต่ก็พยายามจะซึมเข้าไปทุกครั้ง ไม่รู้ละจะเดินไปตรงไหนก็จะซึมกับเจ้าหน้าที่ในฝ่าย และครั้นพอเรียกเข้ามาประชุมจริงๆ กับมีความรู้สึกว่าเปลี่ยนไป พอเขาได้เข้ามาประชุม รู้สึกเขาอยากพูดนู่น พูดนี่ และตอนนี้พอเดินไปตรงไหน รู้สึกว่า เขาอยากจะพูด อยากจะเล่า

ส่วนของตัวเองนั้น เมื่อหนักใจ ก็พยายามอ่านตำราทุกอย่าง ... จากเดิมไม่ค่อยชอบอ่าน ชอบแต่ดู ชอบฟัง พอตอนนี้ มีตรงไหนก็ไปขอเขามาอ่าน แล้วเผอิญก็ได้อยู่ใน KM ของฝ่าย ตอนเข้าไปเรียนรู้ตอนแรก เหมือนตัวเองโง่จริงๆ แต่ยอมรับสภาพตัวเองว่า เราไม่ใช่นักวิชาการ เราก็ยุ่งแต่หน้าที่ที่เราทำ เขาพูดแต่ภาษาอังกฤษก็ไม่เข้าใจ แต่พอตอนหลังที่ได้ทำแล้ว ก็รู้สึกเริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้น คือ แม้กระทั่งหลับก็เป็น KM ตื่นก็เป็น KM ตลอด ในใจ คือเรียกว่าครึ่งหนึ่งของงาน ซึม KM ไปหมดซะทุกเรื่อง

ตอนนี้ตัวเองก็เหมือนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เดินไปทางไหน เจอชาวบ้านก็คุย ไปเจอลูกค้า แม่ค้าก็เอาหมด คุยเรื่องการออกกำลังกาย มีคนหนึ่งถามเขา เห็นเขาสูบบุหรี่ เป็นผู้หญิงสูบบุหรี่ ก็ถามว่า ทำไมถึงสูบบุหรี่ เขาบอกว่า เขากลุ้มใจ ก็ถามเขาว่า อ้าวแล้วทำไมมีเรื่องกลุ้มล่ะ ทุกคนก็มีเรื่องกลุ้มหมด แต่อันนี้มันฆ่าตัวเองนะ วันนั้นตัวเองก็ใส่เสื้อออกกำลังกาย เราก็บอกว่า ลองดูซิ ใช้วิธีอื่นแก้กลุ้มใจบ้าง ต่อมาพอเขาเจอหน้ากันทีไร เขาก็หลบ เอาบุหรี่ไปซ่อน พอตอนหลังไม่มีแล้วค่ะ ไม่มีการสูบบุหรี่ ก็เลยถามเขาไปอีกว่า เลิกได้ยังไง ทำไมถึงเลิก เขาก็บอกว่า ก็พี่บอก มาคิดๆ ดูแล้ว รู้สึกว่า มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ดูแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย

ที่ข้างบ้าน มีเด็กแรกเกิด ตัวเองก็ชอบเด็ก และรู้ว่า ที่ทำงานของเรามีวิชาความรู้เยอะ ก็เลยหาของไปฝากเขา มีหนังสือก็เอาไปให้ เอาถุงนิ้วทำความสะอาดฟันไปให้ ตอนนี้ เขาก็เลยมาหาเรา คุยกันเรื่องจะเลี้ยงลูกยังไง เราก็คุยไปกับเขาด้วย และอีกอย่างคือ ติดทีวี วันเสาร์ อาทิตย์ มีความรู้เรื่องสุขภาพ ก็จะฟังแต่วิชาการ เวทีชาวบ้านก็ฟัง หวังว่า จะเอาความรู้ใส่ตัวให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ไปคุย ไปเล่าให้คนอื่นๆ ฟังด้วย

ในเวทีนี้ พญ.นันทา อ่วมกุล ที่ปรึกษา KM กรมอนามัย ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “จะเห็นว่า เรื่องการแก้ความหนักใจ ก็จะทำให้คนทำมีความสำเร็จไปขั้นหนึ่ง ... และการเข้าไปอ่าน ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดูของจริง และก็การไปดูของจริงนั้นก็เลยได้อย่างอื่นแถมมา และนี่ก็เป็นภาพให้เห็นว่า ... ถึงเราจะทำงานบริหารด้านการเงิน แต่ก็ทำหน้าที่อย่างอื่นได้ด้วย นี่ก็คือ Core value ของกรม คือ เป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องสุขภาพ และสิ่งนี้ก็คือการ capture knowledge จากตรงนี้ไปใช้ประโยชน์ แต่ว่า ใช้แล้วให้มีคำถามมาถามพวกเราต่อ ใช้แล้วมีข้อสงสัย ก็มาทำความเข้าใจใหม่ เพื่อไปสอนเขาใหม่ หรือหาเรื่องอื่นๆ เพื่อไปขยายผล และขยายไปเรื่อยๆ และก็ทำให้เราได้นักประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นได้ด้วย”

คุณฉัตรลดา KM Team ของกรมอนามัย (ซึ่งเธอก็ทำงานที่ศูนย์อนามัยที่ 1) เล่าต่ออย่างชื่นชมกับฝ่ายบริหารว่า … มีที่ตอนแรกเขามีความหนักใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง แต่ความที่เขามีความมุ่งมั่น เข้ามาสอบถาม หรือเรียนจากกลุ่มอื่นๆ เยอะพอสมควร ทำแล้วมีการทำตัวอย่าง พอทำเรื่อง telling story เสร็จก็เอามาให้ดูว่า แล้วจะจัดการอย่างไรต่อ ก็บอกว่า พอได้ขุมความรู้อย่างนี้แล้ว จะทำยังไง เขาก็เกิดความรู้ใหม่ เรียนรู้ใหม่ตลอดเวลา ก็บอกว่า ถ้าทำจากตรงนี้แล้ว capture knowledge แล้ว ได้ยินพูดถึงเรื่องธารปัญญาอีก (แน่ะ ... พอเป็นแล้ว ชักใจร้อน) แล้วจะทำยังไง เขาก็พยายามจะต่อ ก็เลยบอกไปว่า ลองเอาขุมความรู้นี้มาให้ดู แล้วเราก็มาคิดทำอะไรกันต่อในฝ่าย หรือระหว่างฝ่ายกันเอง ก็มีความรู้สึกชื่นชม ที่เขาได้เรียนรู้ และมีการพัฒนาตลอดเวลา”

... ฝ่ายบริหาร ศูนย์อนามัยที่ 1 ก็ได้เริ่มลงมือทำการจัดการความรู้ ... จากจุดเริ่มต้น เล่าจากสิ่งดีดี ที่มีความประทับใจ ภูมิใจในการทำงาน ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งนะคะ ที่ทำให้คนคุย คนเล่า ได้กำลังใจ และมีการเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากประสบการณ์ของกันและกัน

... เรื่องนี้ยังไม่จบ และเราคงได้มีโอกาสที่จะนำมาเล่าให้กันฟังในโอกาสต่อไปอีกค่ะ ...

 

หมายเลขบันทึก: 12534เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2006 22:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

หมอนนคะ ทำงานได้รวดเร็วมากสมเป็นกระบี่มือหนึ่ง อย่างนี้Kmต้นแบบมีกำลังใจและอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว ในเมื่อกรมเร็วเราก็ต้องเร็วด้วยคะ  ตอนนี้เสี่ย(พี่ศรี)สั่งลุย รับรองศูนย์เขต1ต้องมีอะไรดีๆแน่นอน ขอคุยไว้ก่อนล่วงหน้า 555

วันนี้ทำCoP ที่ฝ่ายเป็นผู่เล่าเรื่องคนแรก สบายใจและรู้สึกดี เมื่อวานประชุมคกก. KM ศูนย์ รู้สึกดีมาก บอกได้ว่าเรื่องหนักใจ ภูเขาที่ทับอกอยู่ได้เขยื่อนแล้ว ดีใจดีใจดีใจ

ตอนนี้ชาวศูนย์อนามัยที่6 กำลังเตรียมงานเพื่อนำkmไปใช้ในการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เสียดายที่ทีมจากกรมมาไม่ได้  อย่างไรก็ตามยังรอต้อนรับในโอกาศต่อไปนะค่ะ

                           ปราณีต

ขอสวัสดี ทีม KM ของสำนักที่ปรึกษาฯ และทีมการจัดการความรู้ ฝ่ายบริหาร ศูนย์อนามัยที่ 1 ทุกๆท่าน

ผมชอบประโยคนี้มากครับ....ที่ คุณพัชรินทร์ (การเงิน)

บอกว่า..

"แต่พอตอนหลังที่ได้ทำแล้ว ก็รู้สึกเริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้น คือ แม้กระทั่งหลับก็เป็น KM ตื่นก็เป็น KM ตลอด ในใจ คือเรียกว่าครึ่งหนึ่งของงาน ซึม KM ไปหมดซะทุกเรื่อง"

เริ่มเห็นความภาคภูมิใจจากการทำ KM ของคณะทำงานหลายๆท่านมากขึ้น เชื่อว่า KM กรมอนามัยจะสำเร็จได้ในหลายๆเรื่อง และจะเป็นต้นแบบให้กับที่อื่นๆได้ในไม่ช้า..

เป็นกำลังใจให้ครับ

                                              แขก_PRสคส.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท