กาลครั้งนั้น...ณ.แดนใต้


วันที่ดีใจที่สุดในชีวิต

 วันที่ดีใจที่สุดในชีวิตอีกวันหนึ่ง คือวันที่ได้รับจดหมายจากทบวงมหาวิทยาลัย ย้อยไปเมื่อ13ปีที่แล้ว เราจะลุ้นผลการสอบเอ็นทราน ก็ต้องไปดูที่บอดร์ ของมหาวิทยาลัย และรอผลทางไปรษณีย์ แต่สำหรับโอ๋แล้วการที่จะไปลุ้นที่มหาวิทยาลัยในกทม.นั้นคงไม่ไช่ แม่ไม่ให้ไปแน่เพราะบ้านอยู่ที่เพชรบุรี เรื่องที่จะไปเย้ว ๆ น่ะอดค่ะ อีกอย่างการสอบครั้งนั้น เป็นการสอบที่บอกกะตัวเองว่าไม่เป็นไรไม่ติดจะพยายามไม่เสียใจเพราะตอนนั้นเพิ่งอยู่มอ 5 (เด็กสอบเทียบ)  แต่ผลออกมาติดค่ะ ติดในคณะที่เลือกอันดับ4 ตอนแรกดีใจปนเศร้าเล็ก ที่สอบติดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตอนแรกเลยพอบอก ป๊า และแม่ แล้วเค้าก็บอกว่า เก่ง แต่ไม่ให้ไป เท่านั้นเองน้ำตาทั่วบ้าน รีบออกจากบ้านไปหาอากงและอาม่า ที่บ้านในไร่เลย

แต่แล้วเสียงสวรรค์ก็อนุญาต อากงเป็นคนให้ไปเรียน และวันที่สอบสัมภาษณ์และมอบตัว ก็อากงเรานี่หล่ะเป็นคนพาไป จนถึงวันที่ต้อง จากบ้านไปเรียนจริง ๆ มีเพื่อนที่โรงเรียนเดียวกันไปด้วยอีก1คนที่สอบติดคณะเดียวกัน

ไปถึงวันแรก น้ำตาทั่วอีกแล้วค่ะ ธรรมดาอยู่บ้านตลอดไม่เคยที่จะไปค้างที่ไหนนอนกับแม่ตลอดยันโต คิดถึงบ้านมาก ๆค่ะ จำได้ว่าโทรศัพย์กลับมาบ้านยังไม่ทันพูดอะไรก็ร้องไห้แล้ว ตึก19 ที่เคยเรียนก็ร้องมาแล้ว ลานอิฐที่ทานข้าวก็ร้องลืมอาย  สองอาทิตย์ผ่านไปป๊ารีบขับรถไปหาที่ มอ.ปัตตานี ไปบอกว่าจะกลับมั้ยที่บ้านเป็นห่วง และแม่ก็จะคุยกับครูที่โรงเรียนให้กลับไปเรียนมอ6 อีกครั้ง แต่ตอนนั้น เริ่มจะพอมีเพื่อนบ้างก็เลยบอกกับป๊าไม่ไม่หล่ะ โอ๋เรียนที่นี่ก็ได้ที่บ้านจะได้ไม่ต้องยุ่งด้วยและตอนนั้นเสียดายค่าเทอมที่เพิ่งจ่ายไปด้วย(อันนี้ด้วยนิสัยส่วนตัว) ก็เลยฮึดอยู่เรียนต่อ และ ตั้งใจจะไม่ร้องไห้ให้แม่ได้ยินอีกเวลาโทรกลับบ้าน  ก็ได้ผลนะ

1เดือนผ่านไปเริ่มปรับตัวได้มีเพื่อนมากขึ้น สนุกมากขึ้นอาการคิดถึงบ้านเริ่มดีขึ้นก็เรียนเรื่อยมา แต่ชีวิตในต่างแดนตอนนั้น ให้อะไรมาก มากเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เอามาใช้จนถึงปัจุบัน การใช้ชีวิตในหอพัก การเอื้ออาทร อารี และมิตรภาพที่ดี ๆ ต่อกัน มีให้กันตลอดจนทุกวันนี้ เพื่อน ๆ ที่อยู่กลุ่มเดียวกันตั้งแต่ปี1 ก็ยังคบหาสมาคมกันอยู่สนิทตอนละอ่อน อย่างไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ตอนเรียนปีแรก โอ๋เรียนอย่างเดียวกิจกรรมไม่ค่อยร่วมมากนัก เรียนเสร็จเข้าหอ f (เป็นหอสมุด) จนมาปี2 เริ่มเข้าไปทำกิจกรรมของชมรม โดยชมรมที่เลือก เป็นชมรมพุทธศาสน์ ตอนนั้นเข้าไปร่วมเพราะมีเพื่อนเอกเดียวกันชวน และมีพี่ที่เรียนเอกเดียวกันทำอยู่หลายคน ก็เลยเข้ามาหลังจากนั้นก็ช่วนกันรับผิดชอบทำงานชมรมจนเรียนจบ และในชมรมนั้นเอง  ......ได้พบกับเรื่องราวของนิยายรักนักศึกษาด้วย แล้วค่อยบันทึกใหม่ในตอนหน้าค่ะ แต่ตอนนี้ ขอพูดถึงชมรมที่เคยร่วมงานกันมาก่อนสมัยที่เรียน ที่ชมรมนี้เองให้อะไรกับโอ๋มาก มีทั้งความสนุก สาระ ธรรมะที่ค่อย ๆ แทรกมาให้เราจากที่เป็นคนเอาแต่สนุกกับทางโลก มาเป็นมีความสุขกับทางธรรม มีแง่คิดดี ๆ เจอคนที่เรียกว่าสนใจสุดโต่งของแต่ละคนในแต่ละด้าน และส่วนตัวโอ๋เองจะเป็นคนคุยเก่งแต่ จะไม่ค่อยขัดแย้งไคร ประเภท ว่าไงว่าตามกัน ก็บางครั้งเค้าเสาวนากันในชมรม เรานั่งยิ้มอย่างเดียวประมาณว่าเก็บข้อมูลเดี๋ยวตอนโหวต หรือขอความเห็นค่อยให้ 555

ก็มีหลายโครงการที่ชอบ และหลายโครงการที่ไม่เห็นด้วย ไม่ค้าน แต่ไม่ร่วม เอะ อย่างไง  

ชีวิตที่ดำรงมาเรื่อย ผ่านเรื่องกิจกรรมมาเรื่อย ๆ สนุกดีค่ะแล้วตอนหน้าจะเล่าให้ฟังอีกครั้งนี่ขโมยเวลางานมาค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ao
หมายเลขบันทึก: 125171เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2007 11:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท