พี่นาถ
นางสาว ภาวิดา พี่นาถ อ่อนนาน

การเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ครูผู้ช่วย


การจัดการความรู้

          ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 สำหรับผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู บรรลุตามความมุ่งหมายในการเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และบุคลิกลักษณะในการปฏิบัติวิชาชีพ ทั้งการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนที่เหมาะสมกับวิชาชีพครู  ก.ค.ศ. จึงมีมติกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ดังนี้หลักเกณฑ์1.      ให้ผู้ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในตำแหน่ง ครูผู้ช่วยเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มระหว่างปฏิบัติราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วยเป็นเวลา 2 ปี นับแต่วันเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ.กำหนด2.      ก่อนการมอบหมายหน้าที่ให้ปฏิบัติ ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาแจ้งให้ครูผู้ช่วยทราบถึงภาระงาน มาตรฐานคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ เกณฑ์การประเมินผลงาน ระเบียบแบบแผน หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติราชการ บทบาทหน้าที่ของข้าราชการในฐานะเป็นพลเมืองที่ดี และหลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 3.      การประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ให้คณะกรรมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม  ดำเนินการดังนี้3.1  ประเมินเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ครูผู้ช่วยเป็นระยะ ๆ ทุก 3 เดือน ตามแบบประเมินที่ ก.ค.ศ. กำหนด ในการประเมินแต่ละครั้งให้ประธานกรรมการ แจ้งผลการประเมินให้ครูผู้ช่วย และรายงานผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ทราบ3.2  เมื่อครบเวลา 2 ปี ให้สรุปผลการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม เสนอต่อผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 เพื่อพิจารณาต่อไป4.      การนับระยะเวลาการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปี นับวันเข้าปฏิบัติราชการวันแรกเป็นวันเริ่มต้น และนับระยะเวลาสิ้นสุดตามปีปฏิทิน  กรณีครูผู้ช่วย ผู้ใดได้ลาคลอดบุตร ลาป่วย ซึ่งจำเป็นต้องรักษาตัวเป็นเวลานาน ลาป่วยเพราะประสบอันตรายในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือขณะเดินทางไปหรือกลับจากปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล เป็นระยะเวลาเกินกว่า 90 วัน ไม่ให้นับระยะเวลาการลาที่เกิน 90 วันดังกล่าวรวมเป็นเวลาการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มวิธีการ1.      ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา แต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มจำนวน 3 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นประธาน กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 1 คน เป็นกรรมการ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งดำรงตำแหน่งครูที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม เป็นกรรมการและเลขานุการ2.      ให้คณะกรรมการมีหน้าที่เตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ให้คำปรึกษา แนะนำ รวมทั้งประเมินผลการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมและการประเมินเพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้บรรลุผลตามความมุ่งหมาย3.      เมื่อผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ได้รับรายงานแล้วให้ดำเนินการ ดังนี้3.1  กรณีที่เห็นว่าครูผู้ช่วยมีผลการประเมินการเตรียมความพร้อม และพัฒนาอย่างเข้มต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลการพัฒนา ที่ ก.ค.ศ. กำหนด หากผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 เห็นว่าควรทบทวนการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ก็อาจให้คณกรรมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง และหากผลการประเมิน ยังต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลการพัฒนาที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้มีผู้มีอำนาจมาตรา 53 สั่งให้ครูผู้ช่วยผู้นั้นออกจากราชการภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับรายงาน แล้วแจ้งให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว3.2  กรณีที่ครูผู้ช่วยมีผลการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินผลการพัฒนาที่ ก.ค.ศ. กำหนด และผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 เห็นเช่นเดียวกับคณะกรรมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ก็สั่งให้ครูผู้ช่วยนั้นออกจากราชการภายใน  5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับรายงาน แล้วแจ้งให้ผู้นั้นทราบโดยเร็ว3.3  กรณีที่เห็นว่าครูผู้ช่วยมีผลการประเมินการเตรียมความพร้อมและการพัฒนาอย่างเข้ม เป็นไปตามเกณฑ์การประเมินผลการพัฒนา ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้มีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ต่อไป และเมื่อผ่านการประเมินทุกครั้งจนครบสอง ปี และเห็นว่าควรให้ครูผู้ช่วยผู้นั้นรับราชการต่อไป ก็เสนอให้อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง พิจารณาอนุมัติ และผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งครูผู้ช่วยผู้นั้น ให้ดำรงตำแหน่งครูต่อไป แล้วให้แจ้งให้ผู้นั้นทราบ

หมายเลขบันทึก: 125169เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2007 11:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน 2012 11:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (44)

ชัดเจนดีครับ

น่าจะมีรูปด้วยก็จะดี

มาเยี่ยมเป็นกำลังใจครับ

ลงรูปแล้วชัดเจนเหมือนตัวจริงเลยค่ะ 
ขอบคุณที่มาเยี่ยม
อย่าลืมของเยี่ยมด้วยนะคะ

ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน  ก็ต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดนึ

มาเป็นกำลังใจค่ะ  สู้ต่อไปนะคะ

ทุกตำแหน่งก็ต้องเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม..ขอเป็นกำลังให้นะค๊ะ

ทำไมรูปหนูไม่มาด้วยหล่ะ

ดิฉันบรรจุเมื่อ 5 มิ.ย.51

เดือน พ.ค.52 ได้ไปสอบใหม่และทำหนังสือขออนุญาตสอบอย่างถูกต้อง

อยากทราบว่าถ้าสอบได้

จะสามารถนับเวลาราชการต่อเลยได้หรือไม่

ข้องใจมากบางคนบอกได้

บางคนบอกไม่ได้

กรุณาตอบให้หายข้องใจด้วยนะคะ

ขอบพระคุณค่ะ

อาจารย์อารีวัลย์ คะ

ถ้าสอบได้ก็สามารถนับเวลาราชการต่อได้เลย โดยไปรายงานตัวตามที่เขตที่สอบบรรจุได้ เรียกรายงานตัวและแจ้งทางเขตให้ทำเรื่องให้ แต่ทั้งนี้หากประกาศรับสมัคร ที่อาจารย์ไปสมัครระบุว่าไม่นับเวลาต่อ ก็นับต่อไม่ได้ แต่ส่วนมากจะไม่ประกาศ ใจร้ายอย่างนั้น

คนที่ต้องประเมินครูผู้ช่วย

อยากให้อธิบายวิธีคิดคะแนน ที่จะต้องใส่ในช่อง คะแนนรวมหมวดที่ 1 - 2 ว่าจะให้เอาคะแนนดิบมารวม หรือเอาคะแนนที่สรุปผลคะแนนร้อยละมารวมคะ ขอความกรุณาตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ...

รบกวนหน่อยนะครับ พอน้องที่โรงเรียนตอนนี้อยู่ในตำแหน่งครูผู้ช่วย แล้วกำลังจะลาคลอด ไม่ทราบว่าจะต้องยืดเวลาการประเมินออกไปตามที่ลาคลอดหรือเปล่าครับ

นับต่อเนื่องได้เลยค่ะ ข้าราชการมีสิทธิลาคลอดได้ค่ะ

ในช่วงเกือบ2ปีในการพัฒนาอย่างเข้ม ดิฉันได้ลาคลอดมาแล้ว 90 วัน และมีลาป่วยและลากิจส่วนตัวบ้างเล็กน้อย ไม่ทราบว่าการคิดวันลาจะนับรวมกันเลยใหม(ที่ว่าครูผู้ช่วยลาได้ไม่เกิน 90วันน่ะค่ะ) งงๆค่ะ ว่าจะนับวันลา 90 วันนั้นนับรวมกันไหมในระหว่างลาคลอดบุตร ลาป่วยและลากิจ ถ้านับรวมแสดงว่าดิฉันได้ลาเกิน และต้องทดลองงานต่อใช่ใหมคะ.....อยากทราบมากค่ะ เครียดมาก อยากรู้ความจริง เพราะบางคนบอกว่า นับวันลารวมทั้งหมดในแต่ละครั้ง บางคนบอกว่าไม่นับรวม

การลาอยู่ในปีงบประมาณเดียวกันหรือเปล่าค่ะ ถ้าคนละปีงบประมาณก็ไม่นับรวม

ตอนนี้หนูเป็นครูผู้ช่วยกำลังจะคลอดในเดือนเมษายนนี้ซึ่งอยู่ในช่วงปิดเทอมพอดี หนูอยากรู้ว่าจะลาคลอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ

ลาคลอดสามารถลาก่อนได้ แต่จะนับวันลารวมกับวันลาคลอดบุตร

ตอนนี้สอนอยู่ มหาสารคามค่ะ ต้องการย้ายสับเปลี่ยนไปที่ปทุมธานี หรือกรุงเทพมหานคร ค่ะ ถ้าหากมีครัยต้องการย้ายติดต่อมาที่ 0847864519 ค่ะ

จะเป็นไปได้ไหมคะ มี่ กรณี ครูผู้ช่วยลาคลอด 90 วัน

แล้ว ทางโรงเรียน ยีดเวลาประเมินการพัฒนาฯ ( คือ + เพิ่ม อีก 3 เดือน)

พอดีว่าจำเป็นต้องลาคลอดค่ะ...แต่ อยากให้ผ่านครูผู้ช่วย ภายใน 2 ปี ไม่อยาก ให้ + เพิ่ม

ขอบคุณค่ะ

อยากจะถามว่าในกรณีที่ดิฉัน มาบรรจุ วันที่ 9 พ.ย. 52 และการประเมินอย่างเข็มในครั้งที่ 1 คือ 9 พ.ย. 52 - 8 ก.พ. 53 แต่ว่า วันที่ 30 พ.ย. 52 ดิฉันลาคลอด ถึงประมาณปลายเดือน ก.พ 53 รวมระยะเวลาการลาคลอด 88 วัน ครูพี่เลี้ยงที่ประเมินให้ บอกว่าครั้งที่1 ไม่สามารถประเมินได้เพราะลาคลอด ทั้งที่ดิฉันก็ทำงานจากวันที่ 9 - 29 พ.ย. 52 ประมาณ 20 วัน คืออ่านระเบียบแล้วไม้เข้าใจคะ ที่ว่าถ้าลาเกิน 90 วัน ไม่นับรวมกับการพัฒนาอย่างเข็ม ซึ่งดิฉัน ลาในครั้งที่1 ค่อมไปในครั้งที่ 2 นิดๆๆ และไม่เกิน 90 วันด้วย อยากจะทราบว่าครูพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ประเมินเค้าคิดถูกหรือผิดคะ เพราะว่าดิฉันต้องเพิ่มระยะการประเมินอย่างเข็มอีก 1 ครั้ง และเลื่อนเวลาไปอีก 3 เดือนค่ะ ขอความกรุณาช่วยตอบคำถามด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

การลาคลอดหากไม่เกิน90 วัน นับรวมในการพัฒนาอย่างเข้ม เลยไม่ต้องเพ่ิมเวิลาการประเมินอีก 3 เด่ือน

หนูเป็นครูผู้ช่วยจะครบสองปีวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ค่ะ ซึ่งหนูได้ลากิจไปแล้ว 10 วัน จะมีผลต่อการประเมินมั๊ยค่ะหนูเครียดมากเลยค่ะ(ลากิจเนื่องจากคุณยายเสียชีวิต กับพ่อเข้าโรงพยาลบาลผ่าตัดหัวใจค่ะ)

ครููผู้ช่วยบรรจุใหม่

อยากจะเรียนถามผู้รู้ เกี่ยวกับการลาคลอด

ในกรณีของดิฉัน คืือดิฉันพึ่งบรรจุในวันที่ 17 ก.พ. 55 แต่ช่วงนี้ได้ลงมาช่วยราชการยังไม่ได้ขึ้นไปปฎิบัติงานที่ร.ร.ที่เรียกบรรจุเลย และช่วงที่จะคลอดคือประมาณ วันที่ 10 เม.ย 55 ถ้าในกรณีนี้ดิฉันจะลาคลอด 90 วันได้หรือไม่

แต่ทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ติดต่อกับดิฉันให้ขึ้นไปปฎิบัติหน้าที่ ในเดือนพ.ค. 55 ซึ่งดิฉันดูแลบุตรยังจะไม่ครบเดือนเลย

ถ้ากรณีนี้ดิฉัน อยากเรียนถามว่าดิฉันควรทำอย่างไร

ถ้าสมมุติว่า ดิฉันขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาจะมีผลต่อการประเมินครูผู้ชาวยไหมค่ะ

(หนูเครียดมาก ขอความกรุณาช่วยตอบดิฉันด้วยค่ะ เพราะสงสารลูกด้วยไม่ได้ดื่มนมแม่เลย เพราะหนูมาบรรจุที่ตามจังหวัดไกลมาก)

กราบขอบพระคุณมาล่วงหน้า

ดิฉันเป็นครูผู้ช่วยบรรจุเมื่อ 1 กรกฎา 2554 จะครบสองปี 30 มิถุนา 2555 แต่พอดีตั้งครรภ์ และคลอดเมื่อวันที่ 29 มีนา 55 อยากเรียนถามท่านผู้รู้ดังนี้ค่ะ 1 . รร.เริ่มหยุดวันที่ 8 เมษา และเปิดวันที่ 1 พฤษภา ดิฉันควรจะเริ่มลาเมื่อไหร่ ถ้าจะลากิจหรือลาป่วย 29 มีนา ถึง 8 เมษา แล้วค่อยเริ่มลาคลอด 1 พฤษภา จะได้ไหมคะ 2. เนื่องจากดิฉันจะผ่านประเมิน 30 มิถุนา แต่อยู่ในช่วงที่ลาคลอด รร.จะให้พัฒนาอย่างเข้มต่ออีก 3 เดือน เนื่องจากเค้าให้เหตุผลว่าระหว่าง 3 เดือนนี้ดิฉันไม่ได้มาทำงานแล้วจะเอาคะแนนประเมินครั้งสุดท้ายนี้มาจากไหน ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ

เพิ่งจะผ่านครูผู้ช่วยแต่คำสั่งยังไม่ออกจะสามารถเขียนย้ายได้ไหมคะ

พี่นาถตอบด่วนเลย

ตอนนี้น้องทดลองงาน ครบ 2 ปีแล้วแต่ทางโรงเรียนยังไม่ได้แจ้งผลการประเมินไปยังเขตพื้นที่และยังไม่ผ่าน อกคศ.หากน้องทำเรื่องขอย้ายในช่วงนี้ 1 - 15 .................2555 ที่จะถึงนี้ สามารถทำเรื่องย้ายได้ไหม เกี่ยวข้องกับการปรับเป็นครู คศ. 1 หรือเปล่าหรือว่าไม่เกี่ยวคนละส่วนกัน ตอบด่วนจี๋เลย

รบกวนสอบถามค่ะ ถ้าเราเพิ่งได้บรรจุครูผู้ช่วยไม่ถึง 6 เดือนแต่ว่า จะคลอดแล้วสามารถลาได้ไหม คะ แล้วมีผลต่อการผ่านไม่ผ่านครูผู้ช่วยหรือเปล่าคะ

ขอบคุณครับสำหรับรายละเอียดที่ช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างเข้มเรื่องการลา


ถ้ายังไม่ครบ หก เดือนลากิจได้มั้ยครับ ถ้าได้ๆกี่วันครับ รบกวนทีครับผม

นายสาโรจน็ รอดสีเสน

กรณีที่ ครูผู้ช่วยประสบอุบัติเหตุต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 เดือน (30วัน)ตามด้วยลาคลอด 3 เดือน (90 วัน)

( หมายเหตุ;ขณะเกิดอุบัติเหตุตั้งครรค์ 7 เดือน ) ตามระเบียบบอกว่าการลาต้องไม่เกิน 90 วัน อยากทราบว่า วันลาที่เกินไป 30 วัน นั้นจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรบ้าง เพราะตอนนี้เลยระยะเวลาการพัฒนาอย่างแข้ม มา 1เดือน( เท่ากับวันลาที่เกิน)   (อายุราชการ 2 ปี 1เดือน ) ยังมั่ยมีการประเมินใดๆ ทางโรงเรียนยังไม่ได้แจ้งผลการประเมินไปยังเขตพื้นที่และยังไม่ผ่าน อกคศ. จะเขียนย้ายได้มั้ย ในช่วง วันที่ 1 - 15 สิงหาคม 2556 

ขอบคุณมากครับ

ปรึกษาแทนภรรยา

ครูบ้านนอกโดนแกล้ง

อยากทราบว่าถ้าทางโรงเรียนแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินความเข้มครูไม่ตรงตามที่พรบ.กำหนดจะสามารถแย้ง ผอ.ได้ไหมหรือคัดค้านการประเมินรอบนั้นได้ไหม

เพราะคนข้างนอกไม่สามารถรู้การปฏิบัติงานของเราได้นอกจากคนในโรงเรียนเดียวกัน

ส่งผลให้คะแนนประเมินต่ำ

คนทำงานแต่เขาไม่เห็นค่า

เหมือนกันเลยคะ ปลาสร้อยปลาซิล เราครบครูผู้ช่วย 1 พย แต่ผอไม่ยอมส่งเรื่องให้เขต ต้องการอะไรคะ ดิฉันทำงานจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง มีอะไรก็ดิฉัน แต่เขาคิดว่าเราว่าง เราทำงานวิชาการหนักมาก เขาคิดว่าก็แค่งานวิชาการ ตอนนี้ท้อแท้มาก อยากย้าย อยากรู้ว่าผอคิดอะไรอยู่ แบบนี้ ผอ ผิดไหมที่ไม่ยอมทำเรื่องให้เรา ถามเพื่อนคนอื่นเวลาถึงวันพ้นเขาก็มีคำสั่งแต่ตั้งทันที


อยากทราบว่าครูผู้ช่วยมีสิทธิลากิจได้หรือไม่ค่ะ

อยากขอถามหน่อยคะคือว่าหนูเป็นครูผู้ช่วยมาได้ปีหนึ่งแล้ว ปีแรกลาคลอด2เดือน พอมาปีที่2หนูตั้งครรภ์อีก จะลาเพิ่มอีก1เดือนได้มั้ยคะหนูเคลียดมากกลัวประเมินไม่ผ่านช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

ขณะนี้เป็นนักจัดอยู่สพป.แห่งหนึ่งภาคกลาง ตั้งครรภ์5เดือน อยากจะขอช่วยราชการสพป.แห่งหนึ่งในภาคเหนือ(บ้านเกิด)สามารถขอช่วยราชการได้มั้ยค

ส่งเรื่องขอช่วยราชการได้ค่ะ โดยส่งเรื่องไป สพฐ. การช่วยราชการต่างเขตเปนอำนาจของสพฐ. ค่ะ

อยากเรียนถามเกี่ยวกับการลาคลอดหน่อยคะตอนนี้เป็นครูผู้ช่วยได้ลาคลอดไป60 วันในปีแรกและมาปีนี้ตั้งครรถ์อีกแบบนี้ต้องเลื่อนการประเมินออกไปเป็น2ปีกว่าหรือตามกำหนดเดิมคะแต่เท่าที่อ่านระเบียบการลาก็ไม่เห็นว่าจะต้องเอาไปเพิ่มหรือยังไง .....รบกวนไขข้องใจให้หน่อยนะคะขอบพระคุณคะ

เรียนถามว่า ถ้าการประเมินครูผู้ช่วย แล้วผู้ประเมินครั้งที่ 1 ให้คะแนนเกิน 70% ถือว่าผิดไหมครับ

อยากทราบว่าการประเมินครูผู้ช่วยครั้งสุดท้ายต้องส่งผลการประเมินให้เขตภายในกี่วันค่ะ

เรียนสอบถามค่ะ พอดีจะประเมินเข้มรอบสุดท้าย วันที่ 31 ก.ค. 61 แต่จะลาคลอดวันที่ 16 ก.ค. 61 เราต้องทำเรื่องขอประเมินวันที่เท่าไหร่ค่ะ สามารถขอประเมินก่อนครบกำหนดได้ไหม หรือต้องรอให้ครบก่อนถึงขอประเมินได้ค่ะ

รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ หนูบรรจุครูผู้ช่วย 25 ม.ค61 แล้ว 11 มิย 61 ประมาณ 6 เดือน ระหว่างนั้นเกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างปฎิบัติหน้าที่ ทำให้หัวเข่าหลุด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้วได้เข้าเฝือกที่หัวเข่าเป็นเวลา 1 เดือน พอวันที่ 25 มิย คุณหมอนัดไปเอาเฝือกออก ปรากฏว่า ขาเดินไม่ได้ เพราะเอ็นหัวเข่าขาดต้องทำ mri ดูเส้นเอ็นที่ขาดกี่เส้นจึงผ่าตัดต่อเอ็นที่หัวเข่า ในรอบที่1-2 ได้ลาป่วยตามใบรับรองแพทย์มาพักฟื้นที่บ้าน ลาป่วย 1 เดือน 2 วัน ในรอบที่3 คุณหมอให้พักเป็นเวลา 3 เดือน จึงขอลาเพิ่มอีก 10 วันเพื่อรอดูหนังสือที่ดิฉันขอแจ้งความประสงค์ทำงาน แต่ขอช่วยราชการนอกเขตที่ดิฉันบรรจุ เพราะไม่สะดวกในการเดินทางและใช้ชีวิตประจำวัน รวมเวลา ‼️ลาป่วย 1 เดือน 12 วัน จะมีผลกับการประเมินครูผู้ช่วยไหมค่ะ‼️ขอช่วยราชการนอกเขตที่เป็นภูมิลำเนาของตนเองจะมีผลการประเมินครูผู้ช่วยไหมค่ะ จะต้องเพิ่มเวลาการประเมินขึ้นอีกไหม รวมทั้งขั้นเงินเดือนจะยังได้อยู่ไหมค่ะ

รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ หนูบรรจุครูผู้ช่วย 25 ม.ค61 แล้ว 11 มิย 61 ประมาณ 6 เดือน ระหว่างนั้นเกิดประสบอุบัติเหตุระหว่างปฎิบัติหน้าที่ ทำให้หัวเข่าหลุด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้วได้เข้าเฝือกที่หัวเข่าเป็นเวลา 1 เดือน พอวันที่ 25 มิย คุณหมอนัดไปเอาเฝือกออก ปรากฏว่า ขาเดินไม่ได้ เพราะเอ็นหัวเข่าขาดต้องทำ mri ดูเส้นเอ็นที่ขาดกี่เส้นจึงผ่าตัดต่อเอ็นที่หัวเข่า ในรอบที่1-2 ได้ลาป่วยตามใบรับรองแพทย์มาพักฟื้นที่บ้าน ลาป่วย 1 เดือน 2 วัน ในรอบที่3 คุณหมอให้พักเป็นเวลา 3 เดือน จึงขอลาเพิ่มอีก 10 วันเพื่อรอดูหนังสือที่หนูขอแจ้งความประสงค์ทำงาน แต่ขอช่วยราชการนอกเขตที่หนูบรรจุ เพราะไม่สะดวกในการเดินทางและใช้ชีวิตประจำวัน รวมเวลา ‼️ลาป่วย 1 เดือน 12 วัน จะมีผลกับการประเมินครูผู้ช่วยไหมค่ะ‼️ขอช่วยราชการนอกเขตที่เป็นภูมิลำเนาของตนเองจะมีผลการประเมินครูผู้ช่วยไหมค่ะ จะต้องเพิ่มเวลาการประเมินขึ้นอีกไหม รวมทั้งขั้นเงินเดือนจะยังได้อยู่ไหมค่ะ

เตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มแล้ว 2 ปี มีวันลากิจ 9 วันครึ่ง ลาป่วย 3 วัน รวมทั้ง 12 วันครึ่ง ถือว่าเยอะไหมคะ และจะมีผลต่อการแต่งตั้งเป็นตำแหน่งครูไหมคะ

เตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มแล้ว 2 ปี มีวันลากิจ 9 วันครึ่ง ลาป่วย 3 วัน รวมทั้ง 12 วันครึ่ง ถือว่าเยอะไหมคะ และจะมีผลต่อการแต่งตั้งเป็นตำแหน่งครูไหมคะ หรือว่าต้องยืดเวลาครูผู้ช่วยออกไปไหมคะ ร.ร.ได้ส่งคะแนนประเมินไปที่เขตแล้วค่ะ เลยอยากทราบว่าวันลาเยอะ จะมีผลต่อคำสั่งแต่งตั้งไหมคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท