ในชีวิตของเด็กบ้านนอกอย่างผม หากไม่ได้ครูช่วยชี้ทางสั่งสอน ก็คงไม่สามารถก้าวมาอยู่ ณ จุดนี้ได้ ก็คงจะทำงานตามอย่างครอบครัวคือเป็นชาวไร่จนๆคนหนึ่งที่ต้องทำงานกลางแดดเปรี้ยงและถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางรับซื้อพืชไร่เหมือนกับที่พ่อแม่เคยเป็น โอกาสในการทำงานอย่างที่ทำในปัจจุบันคงไม่มี
เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี วันครูในปี 2549 นี้ ให้สมกับคำขวัญวันครูที่ว่า "ครูดีเป็นศรีแผ่นดิน ศิษย์ทั่วถิ่นศรัทธาบูชาครู" ผมขอถือโอกาสนี้รำลึกพระคุณครูผู้อบรมสั่งสอนจนผมได้มีอาชีพและได้ทำงานเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ในวันนี้
ผมไม่ได้เรียนชั้นอนุบาลเพราะโรงเรียนในหมู่บ้านำไม่มีอนุบาล มีชั้น ป. 1 เลย ผมเรียนเร็วกว่าเกณฑ์ไป 1 ปีเพราะแม่จำผิดคิดว่าผมเกิดปี พศ. 2511 พอไปเรียนชั้นมัธยมกับเพื่อนๆ เขาบอกว่าแม่ผมทันสมัยให้ลูกเรียนเร็วกว่าเกณฑ์ แต่จริงๆไม่ใช่เพราะสมัยนั้นเวลาเข้าโรงเรียนก็ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องวันเดือนปีเกิดนัก และที่บ้านยายมีหลานหลายคนก็จะนับเรียงๆกันไปว่าใครเกิดก่อนหลังตามลำดับ
ผมเรียนชัน้ประถมศึกษา 1-6 ที่โรงเรียนบ้านป่ากุมเกาะ โรงเรียนประจำหมู่บ้านอยู่ติดกับวัดท่าเกย ผมจึงเป็นทั้งนักเรียนและเด็กวัดไปพร้อมๆกัน น้า อาคนไหนบวชเป็นพระก็ตามไปเป็นลูกศิษย์ด้วย ผมขอระลึกถึงคุณครูประจำชั้นที่ได้อบรมสั่งสอนผมมา เป็นฐานของการเติบโตมาเป็นหมออยุ่ทุกวันนี้ ดังนี้ครับ
ป.1 คุณครูรวย เพียรทำ
ป.2 คุณครูพจน์ ม่วงวงศ์
ป.3 คุณครูอิ่ม ฉาดฉาน
ป.4 คุณครูพจน์ ม่วงวงศ์
ป.5 คุณครูสันติภาพ ประหลาดเนตร
ป.6 คุณครูณรัตน์ ช่วงโชติ
พอมาอยู่ชั้นมัธยมต้องเข้าไปเรียนที่ตัวอำเภอสวรรคโลก เรียนที่โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา (เกิดจากการรวมโรงเรียนชายหญิงเข้าด้วยกันคือโรงเรียนสวรรควิทยาและโรงเรียนอนันตนารี) พอมาอยุ่ที่สวรรค์อนันต์ เปลี่ยนสรรนามเรียกจากครูเป็นอาจารย์ ผมก็ไม่เข้าใจทำไมต้องเปลี่ยน แต่ก็เรียกตามเขาไปเรื่อยๆ แต่ผมคิดเอาตอนโตว่าคำว่า "ครู" น่าจะขัลงกว่าในความรู้สึก แต่อาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมก็ใช้คำว่า"ครู" เวลาพูดกับลูกศิษย์เสมอ ไม่ได้ใช้คำว่าอาจารย์ อาจารย์ประจำชั้นดูจะสนิทกันน้อยลงไปบ้างเมื่อเทียบกับชั้นประถมเพราะมีการเปลี่ยนอาจารย์ผู้สอนเป็นรายวิชา แต่ตอนชั้นประถมสอนคนเดียวเลย
ขอระลึกพระคุณครู ถึงอาจารย์ประจำชั้นในระดับมัธยม ดังนี้ครับ
ม. 1 อาจารย์กัญญารัตน์ วชิรเมธี
ม.2 อาจารย์พรทิพย์ น้อยวงศ์
ม.3 อาจารย์ศิริพร บุญชนาวิน
ม.4 อาจารย์เกศกนก ศรีทรงวุฒิ
ม.5 อาจารย์ทวีป เหล็กขำ
ม.6 อาจารย์ประชา เยาวรัตนประเสริฐ
นอกจากอาจารย์ประจำชั้นแล้ว อาจารย์ที่สอนวิชาต่างๆก็มีความเมตตาต่อผมมาก ในเวลาเรียนผมไม่เคยนั่งหลับเลยไม่ว่าจะเป็นวิทยนาศาสตร์หรือสังคมศาสตร์หรือแม้แต่วิชาอาชีพต่างๆเช่นเกษตร เป็นต้น มีอาจารย์หลายท่านที่ช่วยชี้แนะด้านต่างๆ เช่นอาจารย์เบญจา อ.สุวกุล อ.ฉวี อ.ถนอมพันธ์ อ.วีระ อ.สมบัติ อ.พดล อ.เพ็ญศรี อ.เอนก และอีกหลายๆท่าน หากเขียนทั้งหมดก็เกือบทั้งโรงเรียนเลย หลายท่านไม่ได้สอนโดยตรงหรือเป็นอาจารย์ประจำวิชาแต่ก็ได้ให้ความเมตตาต่อผมอย่างมาก
และที่ผมจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยอีก 3 ท่านคือ
อาจารย์ศรัณยา เรืองวาณิชยกุล อาจารย์ภาษาอังกฤษที่ใจดีมาก อบรมสั่งสอนเรื่องความดีความงามให้ประพฤติปฏิบัติด้วยไม่ใช่แค่สอนภาษาอังกฤษอย่างเดียว ตอนที่ผมไปเรียนแพทย์ที่เชียงใหม่ อาจารย์ศรัณยาก็เป็นผู้ที่เซนต์ค้ำประกันให้ผมด้วย
อาจารย์สมใจ กสิกิจหรือน้าจิ๋ม อาจารย์ภาษาอังกฤษอีกท่านหนึ่ง ที่ให้ความเมตตาผมมาก ถ้าสืบสาวเครือญาติแล้วก็จะเป็นญาติห่างๆกัน แต่ความเมตตาที่น้าจิ๋ม มีให้ผมประดุจเหมือนผมเป็นหลานสายตรงของท่านเลย ผมได้ไปอยู่บ้านท่านตอนผมอยู่ม.4-6 ทำให้ได้อยู่ใกล้โรงเรียนมากขึ้น มีเวลาอ่านหนังสือได้มากขึ้น มีคนคอยชี้แนะในการเรียน ในการปฏิบัติตัว การอยู่การกินตลอดทั้ง 3 ปี
อาจารย์นิโลต์บล ศรีสุโข หรืออาจารย์พริ้ม ท่านสอนวิชาสังคมศึกษา ปัจจุบันย้ายไปอยุ่ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม ท่านให้ความเมตตา แนะนำ จัดหาหนังสือคู่มือต่างๆมาให้ผมอ่านตั้งแต่ผมอยู่ชั้นม.ต้น พาไปแข่งขั้นตอบปัญหา สอนการดำรงชีวิต สอนเรื่องความกตัญญู คอยเป็นกำลังใจให้เวลามีปัญหา ความรู้สึกของผมที่มีต่อท่านเปรียบเหมือนท่านเป็นแม่อีกคนหนึ่งของผม
สำหรับในระดับอุดมศึกษา มีอาจารย์ที่ได้อบรมสั่งสอนในวิชาชีพแพทย์อยุ่หลายท่านด้วยความเมตตาต่อลูกศิษย์ แต่เวลาใกล้ชิดคุ้นเคยกันมีน้อยกว่าชั้นประถมและมัธยม แต่มี 2 ท่านที่ผมขอกล่าวถึง ทานสอนวิชาแพทย์น้อยมากแต่สอนวิชาชีวิตเยอะมากท่านแรกคือศาสตราจารย์นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ปัจจุบันท่านเป็นองคมนตรี และอีกท่านคือผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ผจญ วงษ์ตระหง่านอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ ปัจุบันท่านเกษียรณอายุราชการแล้ว อาจารย์หมอผจญ ได้สอนวิชาผ่าตัดคนให้ผม 1 ชั่วโมง แต่ท่านสอนวิชาผ่าตัดสังคมให้ผมเยอะมาก มีผลต่อการทำงานในฐานะแพทย์ในชนบทอย่างมากและในฐานะของผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วย ท่านเปรียบเสมือนพ่ออีกคนหนึ่งของผม ตอนที่ผมแต่งงานท่านก็เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวให้ผม
หลายครั้งที่เรามักเปรียบครู เป็นเช่นเรือจ้าง ที่พาศิษย์ข้ามฝั่งไปสู่ชีวิตที่ดี โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ หวังเพียงลูกศิษย์ได้ดี เป็นคนดีของสังคมประเทศชาติ
เนื่องในโอกาสวันครูนี้ ผมขอกราบอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดช่วยดลบันดาล ประทานพรให้คุณครูทุกท่านมีความสุขความเจริญ มีพลังในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีของสังคมไทยตลอดไปครับ