จะโยงความรู้ในคลาสเรียนจากรายการ AF มาใช้สำหรับการเขียนนิยายอย่างไรดี (2)


 



<table border="0" cellspacing="0" cellpadding="3" width="100%" style="border: #f1eeda 5px dashed" bordercolor="#f3e3b1"><tbody><tr><td width="85%" valign="top" style="padding: 25px" bgcolor="#ffffff"><p> </p>

 

".. การสร้างเอกลักษณ์นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เราแตกต่างไปจากคนอื่น เป็นตัวของเราเอง และนั่นจะเป็นความโดดเด่น ที่ทำให้เราน่าสนใจขึ้น.."

การเขียนนิยาย เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่คล้ายๆกับการร้องเพลง

เมื่อการร้องเพลง..เป็นการแสดง..การโชว์..การพรีเซ้นต์.. โดย "สื่อ" เรื่องราว..อารมณ์..  ที่ผู้ขับร้อง อยากจะบอกกล่าว ผ่านเสียง ท่วงทำนอง และเนื้อเพลง

 ในขณะที่ การเขียนนิยาย เป็นการสื่อ เรื่องราว..อารมณ์.. ที่ผู้เขียนอยากจะเล่า.. ผ่านทางตัวอักษร สำนวนภาษาและรูปประโยค และการดำเนินเรื่องราวต่างๆในนิยาย

ในแต่ละส่วน ของ "สื่อ" และ "สาร" เทียบเคียงกันได้ตรงไหน อย่างไร ?

สำหรับตนเองมีความเห็นว่า  แก้วเสียงของนักร้อง เทียบเคียงได้กับ สำนวนภาษาที่นักเขียนใช้ 

 

韩国童趣插画(二)  53张1 - 童趣韩国插画  Desktop Wallpaper of Computer illustration

 

1. จงสร้างเอกลักษณ์ที่เป็นของตนเอง

จากในคลาสว้อยซ์ (คลาสขับร้อง)  ชอบที่ครูว้อยซ์มักจะบอกนักล่าฝันว่า นักร้องที่ดี หรือนักร้องอาชีพนั้น ควรจะมีเสียงและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ไม่ว่านักร้องคนนั้น อาจจะร้องได้หลายแนว ไม่ว่าจะแนวร็อค แนว A&B ฯลฯ ไม่ว่าจะร้องด้วยเพลงของใคร  แต่สิ่งสำคัญไม่ควรเลียนแบบตามเจ้าของเพลงนั้นๆไปหมดทุกอย่าง  หากแต่ควรสร้างสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองขึ้นมาด้วย

ซึ่งเมื่อใครฟังก็ต้องร้อง "อ๋อ"   อ้อ...คนนี้เองที่ร้อง

คงเหมือนกับการเขียนนิยายมั้ง  ที่นักเขียนควรสร้างเอกลักษณ์ในสำนวนภาษาและสไตล์ที่เป็นของตนเอง ของนักเขียนคนนั้น 

ซึ่งไม่ว่าคุณจะเขียนนิยายแนวไหน จะแนวรักโรแมนติค แนวแฟนตาซี ในแบบที่คุณอาจจจะได้แรงบันดาลใจจากนักเขียนคนอื่นท่านไหน อาจจะเขียนแนวทะเลทรายอย่างโสภาค  สุวรรณ เขียนแนวแฟนตาซีพ่อมดแฮรี่พอตเตอร์อย่างเจเค โรลลิ่ง แต่เอกลักษณ์ความเป็นตัวของตัวเอง ที่คุณถ่ายทอดออกมาทางสำนวนภาษาและสไตล์การเขียน จะทำให้นิยายแนวทะเลทรายของคุณแตกต่างไปจากโสภาค สุวรรณ  หรือแฟนตาซีแนวพ่อมดแฮรี่พอตเตอร์ แตกต่างไปจากเจเค โรลลิ่ง

การสร้างเอกลักษณ์นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เราแตกต่างไปจากคนอื่น เป็นตัวของเราเอง และนั่นจะเป็นความโดดเด่น ที่ทำให้เราน่าสนใจขึ้น

 

 

儿童节主题矢量插画壁纸1 - 儿童节卡通矢量图 - desktop stock for Children's day

 

2. ในการร้องเพลงต้องร้องให้คนฟังเชื่อ ในสิ่ง (สาระ เนื้อหา อารมณ์) ที่เราขับร้องออกไป

อย่างเช่น.. เมื่อเราร้องเพลงที่กำลังผิดหวัง เราก็ต้องร้องให้คนฟังเชื่อว่าเรากำลังผิดหวัง  ร้องเพลงที่มีความสุข ก็ต้องทำให้คนฟังเชื่อว่าเรากำลังมีความสุข

ถ้าจำไม่ผิด..บทเรียนนี้ได้มาจากในคลาสแอ็คติ้ง (การแสดง)

เหมือนกับการเขียนนิยาย..สิ่งที่เราเขียน เรื่องราวที่กำลังดำเนิน ตัวละคร..ตลอดจนความรู้สึกของตัวละคร เราต้องเขียนให้คนอ่านเชื่อไปตามนั้น  สิ่งที่เขียนออกไปอาจจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ แต่เราก็ต้องทำให้คนอ่านเชื่อว่า "มันกำลังเป็น" จริงๆ

แล้วทำอย่างไรล่ะ ถึงจะทำให้คนอ่านเชื่อได้ ?

เทียบกับการร้องเพลงสิ ... คนฟังเชื่อในสิ่งที่นักร้องขับร้องออกมา.. ไม่เพียงแค่เสียง หรือ ท่วงทำนอง หรือคำร้องเท่านั้น  แอ็คติ้งของคนร้อง สีหน้า ท่าทางที่สื่ออารมณ์ออกมา จะต้องลื่นไหลสอดคล้องไปกับเพลงนั้นๆด้วย

เช่นเดียวกับการเขียนนิยาย สำนวนภาษา การบรรยาย.. ต้องสอดคล้องไปกับ  อารมณ์ของตัวละครและบรรยากาศของเรื่องราวด้วยเช่นกัน

นึกมาถึงตรงนี้ทำให้สะดุดใจคิด... แอ็คติ้งของนักร้อง คงจะเปรียบกับ "การบรรยาย" ในการเขียนนิยายได้สินะ ?

 


</font></td></tr></tbody></table>

หมายเลขบันทึก: 122919เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2007 10:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท