สาระน่ารู้จาก รพ.กองบิน ๔ , External Hard disk


วันนี้กลับมาเล่าเรื่องของโรงพยาบาลกองบิน ๔ กันต่อ
ซึ่งมีเรื่องหนุก ๆ ประหลาด ๆ ต่อเหมือนเดิม
ทุกวันพฤหัสบดีตอนเช้า 06.30-07.00 น.
ซึ่งเมื่อก่อนกระผมต้องไปทำหน้าที่เป็นดีเจของรายการวิทยุทหารอากาศ ๐๔ ตาคลี
ซึ่งกระจายเสียง 20 จังหวัดทั่วประเทศ  ว้าว ....หรูมะ
มิตรรักแฟนเพลงเชิญฟังได้ที่ FM 95.25 MHz
ชื่อรายการ "สาระน่ารู้จาก รพ.กองบิน ๔"
ซึ่งกระผมและบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.
เช่น เภสัชกร , พยาบาล , นักกายภาพบำบัด , นักกิจกรรมบำบัด , โภชนากร
จะสลับกันไปแพล่มบรรยายความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่ตัวเองถนัด
โดยมีกระผมเป็นพิธีกร 
หรือถ้าวันใดที่ไม่สามารถเชิญใครไปบรรยายได้  (คือทุกคนโบ้ย  เพราะง่วงนอนตอนเช้า)
กระผมก้อต้องรับหน้าเสื่อ  บรรยายเองซะเลย  (ระยะหลัง ๆ เป็นแบบนี้ตลอด)
โดยสาเหตุที่กระผมต้องจัดรายการ  เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ด้านชุมชน
ซึ่งงานนี้ก้อเป็นโครงการที่ดี  แต่เหนื่อยและง่วงมาก  เพราะต้องตื่นมาจัดตอนเช้า  จัดไปหลับไป
น้ำก้อไม่ได้อาบ  เพราะตื่นมาอาบไม่ทัน  ได้แค่แปรงฟันอย่างเดียว 
(แต่ไม่เป็นไร  เพราะระหว่างจัดรายการไม่มีใครมาดมเรา)
แต่...ความโชคดีของกระผมก้อมาถึง
เมื่อกระผมได้รับคำสั่งให้ไปเรียนเวชศาสตร์การบินที่กรุงเทพฯ
ว้าว....รอดแล้ว  เย้!! เพราะเราไม่ต้องจัดรายการต่อ...
แถมสาเหตุที่ต้องเลิกจัด....ยังฟังดูมีคุณธรรมอีกด้วย  เหอ ๆ
แต่ไหน ๆ ก่อนไปก้อเลยพาน้องหมอสองคนที่มาใหม่  มาดูงานสักครั้ง
เผื่อว่าน้องเขาจะทำต่อ...
จากนั้นเราก้อไปเรียน ลั่นล้าสามเดือน  เหอ ๆ สุขใจ  ไม่ต้องตื่นเช้า
แล้วพอกลับมาก้อไม่ต้องถ่างตากลับไปจัดรายการอีก
แต่!! สวรรค์หาเข้าข้างคนคิดชั่วไม่
ปรากฏว่าน้องหมอของผมสองคน  มีความขยันเป็นพิเศษ
โดยถึงแม้ว่าจะมีหมอแค่สองคนใน รพ. ที่ต้องทำงานทุกอย่าง
แต่ยังอุตส่าห์เจียดเวลาไปจัดรายการตอนเช้าให้  ทุกสัปดาห์
ตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมา  อย่างไม่ขาดเลยแม้แต่วันเดียว
เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ พี่อย่างเราแทบร้องไห้.....ขอบคุณน้องแทบขาดใจ  ซึ้งอ่ะ
ดีใจที่ได้น้องดี   แต่เสียใจที่พี่อนาถอย่างเราดันขี้เกียจ
เฮ้อ....ไอ้เราเลยต้องกลับไปทำหน้าที่ต่อเลย
แต่ก้อดีเหมือนกัน  ไม่งั้นเสียดายโครงการแย่เลย
อุตส่าห์ทำมาตั้งนาน  แถมเดี๋ยวพวกมิตรรักแฟนเพลงจะคิดถึง
เลยต้องไปจัดเสียหน่อย
ซึ่งสัปดาห์นี้  กระผมก้อต้องพูดเรื่องถนัด  นั่นก้อคือ  เรื่อง Nap หรืองีบหลับนั่นเอง
เพราะเป็นเรื่องเดียวกับที่บรรยายให้นักบินฟังไง  ได้ไม่ต้องเตรียมตัวบ่อย
ก้อผ่านไปด้วยดีเหมือนเคย
จากนั้นวันนี้เราต้องไปปฏิบัติภารกิจของแพทย์เวชศาสตร์การบินเหมือนเคย
เพราะวันนี้กองบิน ๔ ของเรามีการลองเครื่องบินใหม่ ชื่อ Majesty
กล่าวคือ  เครื่องบินนี้เคยปลดประจำการไปแล้ว  แต่กองทัพอากาศให้นำมาซ่อมและปรับปรุงใหม่
ซึ่งเครื่องนี้เป็นลำแรกที่ปรับปรุงเสร็จ  และทำการทดลองเครื่องเตรียมบิน
กระผม และหน่วยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  เช่น  รถดับเพลิง  ,  สารวัตรทหาร ฯลฯ ก้อได้มารวมตัวกัน
เพื่อให้กำลังใจและคอยช่วยเหลือเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน  
ซึ่งก้อได้นั่งชมเครื่องบินวิ่งไปมาบนรันเวย์เสียครึ่งวันจนอิ่มเลย  แต่ยังไม่บินนะ  แค่วิ่งเฉย ๆ
วิ่งไปมาด้วยความเร็วเต็มที่  แล้ววัดอุณหภูมิปีกสองข้างและยาง  ดูสมรรภภาพเครื่องยนต์ ฯลฯ
แล้วบินจริงในสัปดาห์หน้า  ซึ่งคาดว่าคงต้องมานั่งเป็นกะลังใจอีกเหมือนเดิม  เหอ ๆ
(เสี่ยงชีวิตจริง ๆ พวกนักบินลองเครื่องเนี่ย...)
จากนั้นกระผมก้อได้กลับมานั่งตรวจ OPD ได้อีกสองคน
แล้วเดินออกไปกินข้าว
ระหว่างที่กะลังเดินออกนอกห้องตรวจ
มีลุงแก่ ๆ คนนึงเดินมา  แล้วบอกผมว่า
"หมอครับ  ผมไปตรวจความหนาแน่นกระดูกมา  เขาว่าเป็นโรคกระดูกพรุน  ให้มาขอแคลเซียม"
กระผมเลยจูงมือลุงพาเดินกลับเข้ามาในห้องตรวจ
แล้วอ่านผลแลป  ตรวจร่างกาย  และเขียนใบสั่งยาให้
ระหว่างกะลังเขียนใบสั่งยานั้นเอง  ลุงแกเกิดอาการเมื่อย  เลยนั่งลงบนเก้าอี้
ซึ่งมีกระเป๋าผมวางอยู่ !! 
ในกระเป๋าใบนั้นก้อไม่มีอะไรมาก 
มีแค่ PDA , มือถือ , กล้องดิจิตอล , bluetooth , thumbdrive , External hard disk แค่นั้นเอง
แล้วท่ามกลางความเงียบ  ก้อมีเสียงดังขึ้นว่า "กร๊อบ !!"
จบข่าว...กระผมและลุงต่างหน้าซีด  ผมค่อย ๆ เปิดกระเป๋าขึ้นมาดู  เช็คความเสียหาย
พบว่า  เจ้าของเสียงกร๊อบนั้น  คือ  เจ้า External  Hard disk ของผมนั่งเอง
เรียบร้อยครับ  กระจกหน้าจอแตกละเอียด  ไม่มีชิ้นดี
เพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึงสองเดือนนะเนี่ย  เฮ้อ...
แต่ผมมองไปที่ลุง (ผู้มีก้นด้านชา) ซึ่งนั่งหน้าซีดอยู่
ผมก้อยิ้ม  แล้วบอกว่า  "ไม่เป็นไรหรอกลุง  นิดหน่อย....ลุงต้องกังวล  รีบไปรับยาเถอะ  เดี๋ยวห้องยาจะปิดเสียก่อน"
ลุงก้อเลยยกมือไหว้  แล้วรับใบสั่งยา  แล้วเดินออกไป
เฮ้อ....ผมงี้เซ็งเลย  แต่ก้อคิดว่าดีแล้วที่ไม่เอาความลุง
เพราะของราคาหลายพันอยู่  ขนาดกระผมยังนับว่าแพง
ถ้าลุงจ่ายค่าเสียหาย  สงสัยเดือนนี้ทั้งเดือนลุงไม่ต้องกินข้าวแน่ 
เมื่อคิดได้ดังนี้  ก้อไม่ว่าไรดีกว่า  ลุงได้ไม่เครียดด้วย
แต่.....ผมเครียด!!!!!   แง้.....เศร้าใจ  ซวยจริง ๆ เพิ่งซื้อนะเนี่ย
แง้ว....อย่าจะร้องดางดาง  ฮึ่ย !!!
บ่นแล้วบ่นอีก  ทนไม่ได้ 
แต่ก้อดีใจนะ  ที่ปล่อยลุงไป  (นับว่าเรายังมีข้อดีบ้าง)
แย้ก...................
ไปดีกว่าวันนี้   เริ่มคุมสติไม่อยู่แย้วววววววววววววววว
ลาก่อน..............ย้ากกกกกกกก
หมายเลขบันทึก: 120517เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2007 18:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 10:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เวชศษสตร์การบินต้องเรียน commed กอ่นรึเปล่าคะพี่

แล้วต้องสังกัดทอ.ใช่ป่าว...แล้วเรียนนานเท่าไหร่ กีปี ต้องใช้ทุนครบ 3 ปีรึเปล่าอ่ะคะ

ไม่ต้องเรียน Commed ก่อนครับ

แต่ต้องเป็นแพทย์ในสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือ เป็นแพทย์ตำรวจเท่านั้นครับ

ผมมีเรื่องอยากเรียนถาม คือผมถือ cpl อยู่แล้วแต่เคยต้องทำ balloon มาโดยที่ไม่เคยมีประวัติของค่าใดๆในเลือดเกินเกณฑ์เลย หมอสันนิษฐานว่าเกิดจากลิ่มเลือดไปอุดตัน หลังการรักษาผลการตรวจเลือด ทำ ekg รวมทั้ง การทำ exercise test หมอบอกว่าผลดีมากปกติดีทุกอย่าง จะมีผลต่อการต่อใบอนุญาตหรือไม่ หากมีจะต้องทำอย่างไรบ้าง และเคยมีคนอื่นๆเป็นอย่างผมบ้างหรือไม่ ขอคำแนะนำด้วยครับ

อยากเป็นพยาบาลในกองบินค้ารับคนนอกรึป่าวคร้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท