และแล้ว ก้อมาถึงสัปดาห์สุดท้าย หลังจากเรียนมายาวนาน 12 สัปดาห์เต็ม
พวกเราแพทย์เวชศาสตร์การบิน ต่างเหล่า ต่างสถาบันทั้งสิ้น 20 นาย
ที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน กินนอนเล่นด้วยกัน ผจญภัยประหลาด ๆ ด้วยกัน
ในที่สุด งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา คิด ๆ แล้วก้อใจหายเหมือนกันที่จะต้องจากกันสักที
สัปดาห์นี้มีการสอบครั้งสุดท้าย (เรียนหลักสูตรนี้สอบเยอะมาก สามเดือนสอบไปหกเจ็ดครั้งอ่ะ)
สอบเยอะจริง ๆ โดยครั้งนี้สอบเรื่องเวชศาสตร์การบินคลินิก
ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาแพทย์ต่าง ๆ นำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับเวชศาสตร์การบิน
ลักษณะเนื้อหาเหมือนการกลับไปเรียนแพทย์ใหม่อีกรอบน่ะ แต่เป็นฉบับย่อ
ก้อจบผ่านไปด้วยดีสำหรับการสอบครั้งสุดท้าย
จากนั้นก้อมีการสอบ post test ปิดท้ายอีกด้วย โดยเป็นข้อสอบเดียวกับ Pre test
ทำเพื่อดูความก้าวหน้าของนักเรียนแต่ละคน
(เสียดาย รู้งี้ทำ pre test ให้ได้คะแนนต่ำ ๆ ดีกว่า จะได้ก้าวหน้าสุด ๆ )
ซึ่งคะแนนสอบรวมทุก part จะนำมาจัดลำดับที่ของนักเรียน ว่าสอบได้ที่เท่าไหร่
ให้ทายซิว่ากระผมสอบได้ที่เท่าไหร่จาก 20
แต่น....แต๊น หล่อ ๆ อย่างกระผมก้อต้องได้ติด Top Five อยู่แล้น เหอ ๆ
กระผมได้ที่ห้าพอดิบพอดีครับ เจ๋งม้า....เหอ ๆ ๆ
แต่ในความคิดกระผม กระผมว่ากระผมได้ที่หนึ่งนะ ในหมู่ผู้ที่ไม่อ่านหนังสือด้วยกันเองน่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะ อันดับที่ 1-4 นั้น เป็นติวเตอร์ให้รุ่นทุกครั้งที่สอบน่ะ
ส่วนกระผม ใช้นโยบายทำแก้วให้ว่าง คือไม่อ่านไรมาเลย
แล้วมาใช้ Short term memory ก่อนสอบ
นั่นคือ จำที่มันติวให้ลูกเดียว โหลดเข้าหัวอย่างไวอ่ะ เหอ ๆ ได้ผลจริง
แต่น่าเสียดาย เขามีเกียรติบัตรดีเด่น ให้แค่อันดับ 1-3 เท่านั้นเอง
เฮ้อ จริงๆ น่าจะขยายมาให้ถึง top five เนอะ จะได้ได้ด้วย
จากนั้นก้อเป็นการถ่ายรูปรุ่น ถ่ายรูปกะคณาจารย์ต่าง ๆ ที่มาสอนพวกเรา
สำหรับงานเลี้ยงอำลานั้น จัดขึ้นที่สโมสรกองทัพบก (Army club) ที่ตรงถนนวิภาวดีรังสิตอ่ะ
สนุกดี จองห้อง VIP2 ไว้ จุแขกได้ประมาณสามสิบคน
อาหารเป็นโต๊ะจีนสี่โต๊ะ แล้วมีคาราโอเกะด้วย
นอกจากนั้นยังมีเกมส์ให้เล่นกันอีก
เป็นเกมส์อนาถ ๆ ชิงรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ
เช่น เกมส์ทำไข่ให้แตก โดยเอาไข่ใส่ถุงพลาสติก แล้วผูกเชือกปากถุงโยงขึ้นมาผูกกับเอวไว้
แล้วห้อยถุงไข่ลงมาระหว่างขา จากนั้นแกว่งให้ชนกะไข่ของคู่ตัวเอง ใครแตกก่อนชนะ....
กับเกมส์คาบช้อนส่งลูกปิงปอง ใครทำหล่นแพ้....
สนุกดี ปล่อยแก่กันสุด ๆ มันส์มาก
คาราโอเกะวันนั้น เลิกเที่ยงคืนกว่า
เลิกเป็นห้องสุดท้ายในสโมสรเลย
โดยตอนเลิก เด็กที่ดูแลห้องมาบอกว่า เขาอยากกลับบ้าน เพราะเขาขึ้นรถเมล์กลับบ้านไม่ได้
แต่พวกเราก้อไม่ยอมแพ้ ร้องต่อ
จนในที่สุด เขาตัดไฟ ตัดไฟเลยครับท่านผู้ชม ไอ้พวกเรากะลังดิ้นกันอย่างเมามันส์ยี่สิบคน ไฟดับพรึ่บ
เลิกครับ คราวนี้ยอมจริง ๆ เฮ้อ
จากนั้นวันรุ่งขึ้นมีพิธีประดับปีกเวชศาสตร์การบิน
โดยเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศเป็นประธานในพิธี
ซึ่งทำให้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ท่านมาประดับปีกให้
สุดท้ายนี้ จากการเรียนทั้งสามเดือนที่ผ่านมาในหลักสูตรแพทย์เวชศาสตร์การบิน
ทำให้ผมพบว่า จากที่เคยคิดว่าวิชานี้ทำไมต้องเรียน มีความสำคัญอะไร แพทย์ทั่ว ๆ ไปก้อน่าจะตรวจได้
แต่ทั้งหมดนั้น ไม่จริง !!
วิชานี้มีอะไรมากกว่าที่คิดมากมายนัก มีสาระสำคัญที่ไม่ได้รับการสอนในโรงเรียนแพทย์ทั่ว ๆ ไป
และมีหน้าที่รับผิดชอบที่หนักหนา เนื่องจากถ้าคุณดูแลนักบินไม่ดี นักบินย่อมทำงานไม่ดีด้วยเช่นกัน
เพราะฉะนั้น สถาบันแห่งนี้จึงจำเป็นต้องจัดอบรมแพทย์เวชศาสตร์การบินขึ้น
ซึ่งนอกจากความรู้ที่จะได้รับแล้ว สถาบันแห่งนี้ยังให้เพื่อนฝูงร่วมรุ่นที่ดี ๆ กับผมอีก 19 คน
ซึ่งผมว่ามิตรภาพนี้ เป็นสิ่งที่ได้รับไม่น้อยไปกว่าความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ เลย
ผมยังเสียดายเลยว่าทำไมหนอ ไม่จัดหลักสูตรนี้ให้เรียนตั้งแต่สองปีที่แล้ว เสียดายเวลาจริง ๆ
เพราะหลักสูตรนี้ คุ้มค่ามาก ให้อะไร ๆ มากกว่าที่คาดคิดไว้จริง ๆ
ปล.สุดท้ายนี้ พี่ Som Sorn แห่งกองทัพอากาศกัมพูชาได้กล่าวลาพวกเราเป็นภาษาไทยได้ซักที
หลังจากฟังพวกเราพูดมาสิบสองสัปดาห์ วันนี้ได้โอกาสที่แกจะได้พูดไทยยาวที่สุดในชีวิตแกซะที
แกพูดได้ซึ้งมาก แถมยังอวยพรภาษาไทย ขอให้ทุกคนมีความสุขในครอบครัวด้วย และยกมือไหว้พวกเราทุกคน
แอบซึ้ง.....นึกในใจว่า วันใดไปเยือนเสียมราฐ กัมพูชา จะโทรหาแกแน่นอน (จะได้กินฟรี มีที่พักไง)
ปล.อีกรอบ สัปดาห์หน้าเราต้องกลับไปรับภาระที่ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม นั่นคือ
แพทย์ประจำ รพ.กองบิน ๔ ตาคลี (รพ.กองบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย)
นอกจากนั้นยังต้องปฏิบัติหน้าที่แพทย์เวชศาสตร์การบินเพิ่มอีกตำแหน่งด้วย
และคาดว่าต้องกลับไปอยู่ชดใช้เวร รพ.อีกด้วย
เพราะเนื่องจากตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ให้น้อง ๆ อยู่เวรแทนไปก่อน เพราะเราไปเรียน
กลับมาคราวนี้รวยแน่ รวยเวร เพราะใช้คืนน้อง งอมพระรามแน่เรา
แต่ภารกิจแรกคือ ต้องทำ รพ.ให้ผ่านโครงการ รพ.ส่งเสริมสุขภาพก่อน
ซึ่งเขาจะส่งคณะกรรมการมาตรวจ รพ.ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้แล้ว
แง้....ปีนี้พี่ ๆ ผมไปหมดแล้ว เหลือต้องลุยคนเดียวแล้ว สู้ตาย.......
ตามสโลแกนของฮีโร่ที่ว่า
"Great Power comes to great responsibilities"