เรื่องการสื่อสารระหว่างกัน เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก จำได้ว่าสงครามโลกครั้งที่สองนั้น รบกันจะเป็นจะตาย ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาการสื่อสาร การเข้าใจผิด ก็พบบ่อยๆ จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งกันหนักบ้างเบาบ้าง หรือ การสื่อสารที่ทำให้เกิดอาการ “ขำกลิ้ง” ก็ได้รับฟังรับชมกันบ่อยๆเช่นกัน
เมื่อคืนสุดที่รักเล่าให้ฟังว่า เกิดปัญหาการสื่อสารระหว่างทีมงานกับเจ้าหน้าที่ อปท.ท้องถิ่น อันเนื่องมาจากเอกสารที่ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์อดีตข้าราชการท่านหนึ่ง ซึ่งได้แสดงความเห็นไว้ และได้กล่าวถึงบางอย่างต่อบุคลากรปัจจุบันและ อปท. แห่งนั้น สาระในนั้นมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความรู้สึกต่อต้าน ไม่เห็นด้วย คัดค้านต่ออดีตข้าราชการให้สัมภาษณ์ จึงมีปฏิกิริยาต่อทีมงานของสถาบันที่กำลังร่วมงานอยู่กับ อปท.นั้น
เธอขอปรึกษาว่าจะมีทางออกอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด เหตุที่เกิดเพราะผู้จัดทำเอกสารไม่มีเจตนาจะกล่าวร้ายป้ายสีใครแม้แต่น้อย เพียงทำหน้าที่สื่อสารความคิดเห็นคนหนึ่ง ผ่านเอกสารไปสู่คนกลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของการสื่อสารกัน
รูปนี้ไม่เกี่ยวกับสาระบันทึกหรอกครับ แต่เอาความน่ารักมาฝาก
ผู้บันทึกเลยเสนอไปว่า สิ่งที่สื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางของการสื่อสาร จากแหล่งข่าวสารไปสู่ผู้บริโภค หากข่าวสารเป็นเพียงความรู้ ผู้บริโภคก็รับรู้ อาจจะมีผลในทางอื่นใดนั้น ก็เป็นแต่กรณีไป แต่หากสิ่งที่สื่อได้สื่อสารไปนั้นเป็นข้อคิดเห็น ที่เกี่ยวกับสถาบัน ตัวบุคคล ย่อมมีผลสะท้อนกลับ แล้วแต่ว่าเป็นทางบวกหรือทางลบ ทางบวกก็ดีไป แต่หากเป็นทางลบ ย่อมมีผลกระทบต่อผู้ให้สัมภาษณ์ และมักจะหมายรวมตัวสื่อด้วยว่ามีเจตนาที่จะสื่อสิ่งนั้นๆด้วย
ในกรณีคนใกล้ชิดที่นำเรื่องนี้มาปรึกษา ผู้บันทึกเสนอไปว่า ต้องให้โอกาสแก่ผู้เสียหายมาแสดงเหตุผลโต้แย้ง เท่าๆกับผู้ให้สัมภาษณ์ในครั้งแรกนั้น เพื่อให้เขาอธิบายข้อเท็จจริงที่ผู้ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกอาจจะไม่ทราบก็ได้ สื่อควรจะทำหน้าที่ให้ทั้งสองฝ่ายได้มีเวที มีพื้นที่ ในการให้สัมภาษณ์เท่าๆกัน เพื่อนำข้อเท็จจริงมาแผ่ให้ผู้บริโภคสื่อทั่วไปทราบ แล้วผู้บริโภคจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าจะเชื่อใคร อย่างไร
สื่อมีความสำคัญมาก ยิ่งในระดับประเทศที่มีการใช้ความเป็นเสรีประชาธิปไตย ก็ใช้ช่องว่างของระเบียบสังคมมาสร้างกระแส ให้เกิดความเชื่อถือ ความนิยมชมชื่น และได้ผลมากเสียด้วย จึงมีการควบคุมสื่อกันในปัจจุบัน
เจ้าเหมียวน้อยสองตัวนี้ก็ไม่เกี่ยวกับสาระสักนิดเดียว เอามาดูเล่น
สื่อที่เราใช้กันในการทำงานปัจจุบันก็ขยายตัวมากมาย คนที่ทำหน้าที่สื่อสารจึงพึงมีความละเอียดรอบคอบให้มาก เพราะกรณีคนใกล้ชิด กล่าวว่า “เรากำลังส้รางความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อบูรณาการงานกันในเรื่องพลังงาน และกำลังไปได้ดี เมื่อมาเกิดการสื่อสารที่ไปกระทบบุคคล สถาบันเข้าโดยไม่ตั้งใจอย่างนี้ จะทำให้ความร่วมมือลดลงหรือเปล่า การก้าวเข้ามาอย่างเต็มอกเต็มใจจะลดลงไปแค่ไหน
สังคมไทยเป็นสังคมที่รักษาหน้าตา ส่วนข้อเท็จจริงเอาไว้อีกเรื่องหนึ่ง การทำงานกับคนจึงต้องมีกระบวนท่ามากมาย โดยเฉพาะกับผู้หลักผู้ใหญ่ มิเช่นนั้น อนาคตของคุณจะถูกจับเอาไปใส่ขวดโหล เอาเกลือใส่ เอาน้ำใส่ เอาผ้าดิบมาปิดแล้วเอาฝามาปิด แถมมัดให้แน่นปึ้ก หรือเอาขี้เถ้าจากเตาถ่านมาผสมกับข้าวสุกบดให้เข้ากันดีแล้วเอามายารอบๆฝาขวด “เขาเรียกดองเค็มครับ” อิ.อิ.อี้..
ไม่มีความเห็น