หน้าแรก
สมาชิก
คนชายขอบ
สมุด
คุรุชน -@- คนชายขอบ
รอยยิ้มและเสียงหั...
คนชายขอบ
Mr. Phunet Chanchit
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ...
เราหัวเราะคนทั้งโลกจะหัวเราะกับเรา เราร้องไห้เราจะร้องไห้คนเดียว
ปราชญ์ชาวจีนกล่าวว่า
เวลาที่เราหัวเราะคนทั้งโลกจะหัวเราะกับเรา
เวลาที่เราร้องไห้เราจะร้องไห้คนเดียว
เป็นปรัชญาที่แสดงให้เห็นว่า
ความสุขเป็นสิ่งสากลที่สังคมและใครๆ ต่างก็ปรารถนาจะใฝ่คว้าให้มี
และให้เกิดขึ้นกับตัวเองให้มากที่สุด
ความทุกข์คือสิ่งที่ใครๆ ต่างไม่ต้องการ
เราไม่เคยเห็นใครที่บอกเราว่า
ทำทุกอย่างเพื่อความทุกข์
มีแต่ได้ยินว่า ทำทุกอย่างเพื่อความสุข
และอยาได้มากๆด้วย
ความสุข เป็นสิ่งที่มนุษย์เห็นว่าเป็นสิ่งสูงค่า
แต่มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่เห็นว่า
ความสุข
คือหลุมพลางของชีวิต
เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำลายมนุษย์และฆ่ามนุษย์มามากมาย
โดยเฉพาะคนที่เพลิดเพลินติดอยู่กับความสุขจนลืมเรียนรู้ความทุกข์
แท้จริง
ความสุข
ก็ไม่ต่างจากเศษเนื้อข้างเขียง
ที่บรรดาเราๆท่านๆ
ต่างหมายมุ่งและแก่งแย่งเศษเนื้อเหล่านั้นเอามาไว้ครอบครอง แต่เราไม่เคยเงยหน้ามองและเห็นค่าของเนื้อบนเขียง
ที่เปรียบเสมือนความทุกข์
(บางคนบอกเนื้อที่อื่นดีกว่าเนื้อบนเขียง)
แต่หารู้ไม่ว่า ความสุขมีมุมต่างที่ถูกปกปิดมาตลอดเวลา
คือ
1.
ความสุข ไม่เคยสร้างอารยะธรรมให้แก่ความเป็นมนุษย์ แม้ว่าความสุขคือดินแดนแห่งสวรรค์ในปัจจุบันของมนุษย์
แต่ว่ามนุษย์กับต้องต่อสู้กับความทุกข์ตลอดเวลา
จะเห็นว่า การเริ่มต้นของวันใหม่ในแต่ละวัน
คือวันแห่งการต่อสู้
วันแห่งความทุกข์ วันที่แสนจะเหนื่อยล้า
และจะต้องอดทน
โดยเฉพาะกับการต้องดูแลตัวเองและคนอื่น
ต้องทำสารพัดทำเพื่อตนเอง
และต้องทำสารพัดอย่างเพื่อคนที่เรารักและรักเรา
นี่คงไม่ใช่ความสุขแท้แน่นอน
ความทุกข์
เป็นความรู้สึกที่ขัดกับความรู้สึกที่แท้
เป็นความรู้สึกว่าต้องปรับเปลี่ยนยอมรับ
เป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกับความต้องการของตนเอง
ความทุกข์คือสิ่งที่เราปฏิเสธตลอดเวลาที่ผ่าน
เราทำทุกอย่างเพื่อหลบหลีก และหนีมัน
การหลีกหนีความทุกข์คือวิธีการหนึ่งที่จะทำให้ความสุขมีได้
การที่เราเคยชิน และมีชีวิตที่คุ้นเคย โดยมีจุดหมายที่ถ่ายทอดเป็นแรงใจว่า
เดี๋ยวก็สบาย
สักพักจะดีเอง
ไม่นานเราจะพบกับความสุข
โดยนัยคือ
การปฏิเสธความทุกข์
แต่เหมือนว่า
เราปฏิเสธมัน มันเหมือนจะใกล้ชิดเรา
เราหนีเหมือนกับยิ่งตามติด
เราไม่ปรารถนาแต่ต้องรับเอามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ปากเราปฏิเสธแต่ใจต้องโอบกอด
เราอาจจะให้คุณค่าบางสิ่งมากไป แต่ลืมไปว่า
ความทุกข์ทั้งมวล
ที่ใครๆไม่ต้องการกลับแปรสภาพเป็นพลังให้เราแกร่งขึ้น
ทำให้เรามีพัฒนาการขึ้น
ทำให้เกิดการเรียนรู้ตามลำดับ
เหมือนกับการก้าวเดิน
ก้าวแรกที่พลาดพลั้งคือก้าวหลังที่มั่นใจ
ก้าวแรกที่พลาดไปคือก้าวใหม่ที่มั่นคง
ความสุขไม่เคยทำให้เราแข็งแกร่ง
ความสุขไม่เคยทำให้เราจดจำสิ่งที่น่าจดจำ
วันนี้เราวิ่งได้เร็วเพราะเมื่อวานเราวิ่งแล้วล้ม
วันนี้เรากล้าแกร่งเพราะเมื่อวานเราทนต่อความอ่อนล้า
2.
ความสุข
ไม่เคยสร้างคุณธรรมอันน่าสรรเสริญให้กับมนุษย์
คุณธรรมเป็นสมบัติของมนุษย์
ตัวอย่างเช่น
คุณธรรมของพ่อและแม่
ถ้าครอบครัวใดมีพ่อและแม่ขาดคุณธรรม
จะส่งผลกระทบต่อลูกๆที่เกิดขึ้นมาเป็นสมาชิกของครอบครัว
เหมือนข่าวที่นำเสนอเกี่ยวกับครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ที่มีพ่อแม่และลูกสาว
พ่อและแม่ทะเราะ
แม่ไม่พอใจพ่อ
โกรธพ่อ
ด้วยความที่ลุแก่อารมณ์โกรธ
อันขาดการยับยั้งจึงเอาน้ำกรดหวังจะไปสาดสามีของตนเอง
ไม่รู้ว่าเวรกรรมของใคร
น้ำกรดที่สาดไปนั้นพลาดไปโดนเอาใบหน้าลูกสาวของตนเองอย่างจัง
น้ำกรดได้ทำลายใบหน้าเกือบทั้งหมด
ดีที่ดวงตายังใช้การได้อยู่
อยู่ๆมาแม่ได้ตายจากไป
ทิ้งความอัปยศเอาไว้บนใบหน้าลูกไว้เป็นอนุสรณ์แก่ลูกตัวเอง
เดี๋ยวนี้ลูกสาวได้เติบใหญ่เป็นสาวเต็มตัวแล้ว
นี่คือภาพสะท้อนว่าคุณธรรม หรือจริยธรรม มีค่ามากแค่ไหน
มันมีเพราะคนเห็นค่ามัน
กับความสุขก็ไม่เคยสร้างคุณธรรมให้กับใคร
ตรงกันข้ามเวลาที่มีความสุขกับลืม หรือระเริงขาดสติ
สำหรับพ่อกับแม่
ท่านมีคุณธรรมของความเป็นพ่อแม่
เพราะท่านรู้บทบาทและทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์
การที่ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ คือความเหนื่อยยากเพื่อครอบครัว เพื่อลูก
เป็นความทุกข์อีกประเภทหนึ่ง
ยิ่งคาดหวังกับลูกเท่าใดก็ทุกข์มากเท่านั้น
แต่นั่นคือกระบวนการสร้างคุณธรรมของพ่อกับแม่
ที่มีความทุกข์เป็นองค์ประกอบ
ความสุขก็พอมี
แต่เป็นความสุขที่เป็นเศษเสี้ยวซึ่งหลุดเหลือหล่นมาจากความทุกข์
3.
ความสุข
เป็นเพียงมายา
มายาก็คือภาวะที่เปลี่ยนแปลง
มีลักษณะไม่แน่นอน
ความสุขคือสิ่งไม่แน่นอน
เรามีความสุขไม่นาน
มีเวลาจำกัด
เราจะเห็นว่าเราจะจดจำเวลาแห่งความสุขได้น้อยมาก
แต่เวลาแห่งทุกข์เราจดและจำได้นาน
บางคนนานเท่าชีวิตเลยทีเดียว ยิ่งเรื่องใดที่เจ็บปวดมากเท่าใด
ยิ่งทรงคุณค่าแก่การจดจำ
นั้นแสดงว่า ความสุขมีเพียงชั่วพักชั่วครู่ เป็นมายาแห่งชีวิต ความทุกข์ต่างหากที่เป็นเพื่อนแท้
ความสุข
เหมือนคนที่เรารัก
ความทุกข์เหมือนคนที่รักเรา
เป็นคำพูดของอาจารย์กำพล
ซึ่งเป็นธรรมะของคนพิการ
ที่ชี้ให้เห็นว่าความสุขคือคู่ชีวิตคนแรก
ความทุกข์คือคู่ชีวิตคนสุดท้าย
ความเห็นเกี่ยวกับความสุขและความทุกข์
ได้ให้แนวคิดเชิงปรัชญา
ที่แตกต่างกัน
ความเหมือนกันก็คือ
มนุษย์ทุกคนยังต้องแสวงหาความสุขและหนีความทุกข์ต่อไป
วันนี้ความทุกข์คือของไม่ดีที่ใครๆไม่ต้องการ
แต่การไม่ต้องการหรือปรารถนามัน
ใช่ว่าความทุกข์จะไม่เกิดกับตัวเรา ในพุทธศาสนาสอนเรื่องเกี่ยวกับความทุกข์ว่า
ให้เรียนรู้ความทุขก์และอยู่ได้อย่างเป็นสุข
ให้เรียนรู้จักมัน เมื่อรู้จักและเข้าถึง จะเข้าใจ
วันนี้ มันจะเปลี่ยนเป็นเพื่อนแท้
เป็นครู
เป็นความสุขได้ทุกเมื่อ
ไม่ว่าเราจะประสบกับภาวะใดๆก็ตาม
ขอให้ทุกคนเป็นนักปรับเปลี่ยน
Adaptor
เปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นความสุข
มีความทุกข์เป็นความสุข
มีความสุขที่เกิดจากความทุกข์
เขียนใน
GotoKnow
โดย
คนชายขอบ
ใน
คุรุชน -@- คนชายขอบ
คำสำคัญ (Tags):
#ความสุข
#ความทุกข์
หมายเลขบันทึก: 120279
เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2007 19:37 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:57 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (2)
เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2007 21:41 น. (
)
เข้าใจแฮะ
เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2007 21:43 น. (
)
เข้าใจยากคร๊าบบบบบบ
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
คนชายขอบ
สมุด
คุรุชน -@- คนชายขอบ
รอยยิ้มและเสียงหั...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท