คาถามหาเสน่ห์


คาถาไหนๆ ก็ไร้ค่าถ้าไม่ใช้คาถานี้ คาถานี้ได้ผลทางเสน่ห์มากๆ

คาถามหาเสน่ห์

 วิกูล  โพธิ์นาง[email protected]๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐

 ...ใครก็ไม่รักผม.ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย...   นั่นเป็นเพลง  หากประสบปัญหาใครๆก็ไม่รัก  เป็นหัวหน้าลูกน้องก็ไม่รัก  เป็นลูกน้องก็ไม่รู้ว่าลูกพี่รักหรือเปล่า  ยิ่งเพื่อนร่วมงานรู้สึกจะหมางเมินเหลือเกิน  ถ้าเป็นอย่างนี้อย่าคิดไปจีบใครเลยหมดหวัง                 ถ้าเกิดอาการข้างต้นในที่ทำงาน  นั่นหมายถึงกำลังอยู่ในสภาวะคล้าย สวรรค์อยู่ในอก  นรกอยู่ในที่ทำงาน  ไม่ดีแน่เพราะมากกว่าแปดชั่วโมงเราอยู่ในที่ทำงาน                เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว  ขอนำเสนอคาถาที่จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว....ไม่เชื่ออย่าลบหลู่    ลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย   คาถานี้เรียกว่าคาถามหาเสน่ห์    คาถานี้ถ้าจะให้ได้ผลมีอยู่สองขั้นตอน      คือ    หนึ่งท่องให้ได้    สองปฏิบัติตามคำแนะนำ                หนึ่งท่องให้ได้    คาถามหาเสน่ห์มีคำท่องตามนี้       ทานะ    ปิยะ    อัตถะ    สมานัต                      ทานะ      =             ทาน                ปิยะ         =             ปิยวาจา                อัตถะ     =             อัตถะจริยา            สมานัต  =             สมานัตตา            สองปฏิบัติ          การปฏิบัติคาถานี้ให้ปฏิบัติเท่าที่ทำได้  ใช้ใจเป็นหลักรับรองว่าคนที่ไม่เคยรักท่านจะเปลี่ยนพฤติกรรมทางบวกทันที                ทาน                        หมายถึงการให้   ให้ความเอื้อเฟื้อ  ให้ความรัก   ให้ความจริงใจ  ให้รอยยิ้ม   จำไว้ว่า ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก  ไม่จำเป็นต้องให้เงินให้ทองหลอก  ถ้าทำได้ก็ไม่ว่ากันแต่อย่าให้ลำบากตนเอง    ให้รอยยิ้มก็ได้  ให้รอยยิ้มนี่แหละง่ายดีไม่ต้องลงทุน  แต่ยิ้มต้องออกมาจากข้างใน  มาจากก้นบึ้งของหัวใจ คือคิดดีๆก่อนแล้วความคิดนั้นจะออกมาทางสีหน้าดวงตาเป็นยิ้มที่สมบูรณ์   วันนี้คุณยิ้มหรือยัง...?                ปิยะวาจา                 หมายถึงการพูดด้วยวาจาไพเราะอ่อนหวาน    สุนทรภูท่านแต่งเป็นกลอนไว้ว่า  ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์    มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต   แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร   จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ฯ  ลูกน้องลูกพี่เพื่อนร่วมงานใครก็ชอบการพูดจาที่ไพเราะอ่อนหวาน แต่เมื่อพูดต้องไม่ฝืนใจตนเองจะเป็นการดัดจริตไม่เป็นตัวของตัวเองข้อสำคัญคิดให้ดีก่อนพูด  ความคิดดีจะส่งผลให้พูดดี  ที่ไหนมีควันที่นั่นมีไฟ  เมื่อพูดก็ อย่าพูดเท็จ  อย่าพูดส่อเสียด  อย่าพูดคำหยาบ  และอย่าพูดเพ้อเจ้อ   ลองยิ้มแล้วพูดกับใครสักคนแล้วกล่าวคำว่า สวัสดีครับ/ค่ะ วันแรกเขาอาจจะงง  ทำต่อไปเรื่อยๆ  คอยวัดผลเป็นระยะๆ                อัตถจริยา               หมายถึงการปฏิบัติที่เป็นประโยชน์   ทำตัวเองให้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ    ลองถามเพื่อนซิ มีอะไรให้ช่วยไหม...?   อะไรที่มีประโยชน์ย่อมเป็นที่ต้องการของสังคม  ต้นตาลใช้ประโยชน์ได้ทุกอย่างตั้งแต่รากจรดปลาย  รากก็ทำยา  ต้นก็ทำสะพาน ยอดอ่อนก็ทำอาหารได้  คนปลูกตาลจึงไม่ทิ้งตาลไปให้เปล่าประโยชน์  เป็นคนทำได้ตั้งหลายอย่าง  หลายคนรอความช่วยเหลือจากท่านอยู่  นึกดูซิว่าเพื่อนร่วมงาน  ลูกน้อง  หัวหน้าเขากำลังรอความช่วยเหลืออะไรอยู่                 สมานัตตา               หมายถึงเป็นผู้เสมอต้นเสมอเปลาย  เป็นคนหนักแน่นไม่ลวนเลในสิ่งที่ปฏิบัติมาทั้งสามข้อเบื้องต้น  ทำให้เป็นนิสัยไม่งั้นเขาจะหาว่า ปากหวานก้นเปลี้ยว            ดังกล่าวข้างต้นเป็นคาถามหาเสน่ห์ที่ใช้ได้ผลในการสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันในที่ทำงาน  หนึ่งในสี่ปัจจัยการผลิต  คือ Man  ( คน )  ถ้าคนไม่พร้อม  คนไม่รักไม่สามัคคี   คนมีความขัดข้องใจ  กลุ่มมีความขัดแย้งกันอย่างไม่สร้างสรรค์  จะใช้กิจกรรมใดมาพัฒนาองค์กรเห็นจะลำบากอย่างยิ่ง  .

 

หมายเลขบันทึก: 118878เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2007 14:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 21:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ธรรมะโง่ๆ อวดว่ามีธรรมะ แต่ก็ขายความโง่ ยกตัวข่มผู้อื่น อย่างนั้นปาฏิหาริย์ในศาสนาก็โกหกนะซี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท