งานให้คำปรึกษา
กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์

ทะเลแห่งความคิด


ตราบใดที่เรามีกำลังไม่ไล่ตามความคิด และสามารถกระโดดออกมาเป็นผู้ชมโรงละครความคิดภายในของตน ก็จะไม่หยิบฉวยเอาความคิดไหนเป็นที่ตั้งในการกระทำสิ่งต่างๆ ที่ไร้ประโยชน์ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

นานมากที่เข้ามาอ่านแต่ไม่ได้บันทึกเป็นเรื่องเป็นราว ได้แต่ไปแวะทักทายกับโรงเรียนพ่อแม่ตามประสาคนคุ้นเคย

เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือพิมพ์และคอลัมน์โปรด "จิตวิวัฒน์" ในมติชนวันเสาร์ ได้พบเรื่อง "ทะเลแห่งความคิด" โดย คุณจารุพรรณ กุลดิลก ในความเห็นของดิฉันเป็นการเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ และทำให้อ่านง่าย เข้าใจถึงกระแสของความคิด และถ้าจะลองเลือกไปปฏิบัติตามก็พอเป็นไปได้

เริ่มจาก...กาลครั้งหนึ่ง....พูดถึงเรื่องราวที่กระตุ้นให้ผู้เขียนสนใจว่า ธรรมชาติของความคิดคืออย่างไร มีอะไรเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนตัวของผู้เขียนและทั้งในภาพรวมของสังคมที่คนอื่นก็รับรู้เช่นเดียวกัน แล้วสรุปรวมเป็นปัญหาที่เขียนเรื่องนี้ ตามด้วยทางออกที่ผู้เขียนน่าจะมีประสบการณ์มากพอสมควร กับการฝึกฝนใช้ทางออกนี้ในการแก้ปัญหา

ดิฉันขอยกบางส่วนของเนื้อหามาให้อ่านกันค่ะ

" ครูบาอาจารย์มักจะแนะนำว่า ก่อนที่จะตอบปัญหาต่างๆ ข้างต้นนั้น มนุษย์จำเป็นต้องศึกษาและเข้าใจธรรมชาติของความคิดเสียก่อน โดยเริ่มจากการวางพัก ความจำ ที่เป็นรายละเอียดของเรื่องราวที่เราชอบใจ หรือไม่ชอบใจไว้ก่อน จากนั้นจะพบว่าธรรมชาติของความคิดในมนุษย์แต่ละคนไม่แตกต่างกัน นั่นคือ ปริมาณความคิดมีจำนวนมากมายมหาศาล และรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ชั่วพริบตา เดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเรื่องนู้นเรื่องนี้ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เหมือนคลื่นในทะเล มากมายเหลือคณานับ ซึ่งคนแต่ละคนจะหยิบความคิดหนึ่งๆ ขึ้นมาเป็นวาจาหรือการกระทำนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะทางร่างกายบ้าง ทางจิตใจบ้าง และความคิดที่เกิดขึ้นในใจบางครั้งนั้น เจ้าของความคิดเอง ยังรู้สึกไม่พอใจกับความคิดที่ตนมีอยู่เลยด้วยซ้ำ อาจจะโทษตัวเอง โกรธตัวเอง

อันที่จริง ความคิดไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไร ล้วนเป็นธรรมชาติที่ไม่มีใครสามารถสั่งการให้เกิดขึ้นได้ ผุดขึ้นมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอธิบายได้

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เราก็สามารถให้อภัยความคิดของตนเองและผู้อื่น อย่างเข้าใจและเห็นใจ ย่อมจะเกิดความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง เพียงเฝ้าดูธรรมชาติของความคิดที่เกิดขึ้นภายในตนเองอย่างเป็นปัจจุบัน ย่อมจะเห็นความเป็นธรรมดา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อย่างรวดเร็ว ก็ไม่น่าจะไปทุกข์ตามเรื่องราวของมัน

และตราบใดที่เรามีกำลังไม่ไล่ตามความคิด และสามารถกระโดดออกมาเป็นผู้ชมโรงละครความคิดภายในของตน ก็จะไม่หยิบฉวยเอาความคิดไหนเป็นที่ตั้งในการกระทำสิ่งต่างๆ ที่ไร้ประโยชน์ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ได้แก่ การเอารัดเอาเปรียบ หรือการกระทำที่รุนแรง ทำร้ายตนเองและผู้อื่น เป็นต้น ตราบนั้นก็จะไม่มีสิ่งใดที่กระทบกระเทือนจิตใจเราได้ ท่ามกลางทะเลความคิดที่เหมือนและไม่เหมือนกับเรา "

ลองตามไปอ่านดูนะคะ

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02110850&day=2007-08-11&sectionid=0130

                                                                               DAENG...D

หมายเลขบันทึก: 118801เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2007 07:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • สวัสดีครับ
  • ผมชื่นชอบข้อสังเกตอันแหลมคมและเป็นธรรมชาตินี้ยิ่งนักครับ

ความคิดไม่ว่าจะมีเรื่องราวอะไร ล้วนเป็นธรรมชาติที่ไม่มีใครสามารถสั่งการให้เกิดขึ้นได้ ผุดขึ้นมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอธิบายได้

P

  • สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน

การเรียนรู้ธรรมชาติของกระแสความคิดในตัวเอง ว่าขณะใดที่ความคิดจะนำพาเราไปสู่ผลกระทบที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ความรู้สึก หรือการกระทำ ฝึกฝนการรับรู้ให้ว่องไว จัดการกับอารมณ์ได้รวดเร็ว ขั้นต่อไปเราก็จะมีโอกาสสังเกต รับรู้กระแสความคิดของผู้อื่น และสะท้อนกลับได้อย่างเหมาะสม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท