ปกติโรงเรียนพี่ฟาง กับ น้องฟ้า จะจัดงานวันแม่ทุกปี โดยในทุกครั้งก่อนจัดงาน ทางโรงเรียนก็จะมีหนังสือเชิญถึงผู้ปกครองถามความสมัครใจ ว่า มาร่วมงานได้หรือไม่
ปีนี้ก็เช่นกัน น้องฟ้ากุลีกุจอ เอาหนังสือเชิญมาให้คุณแม่ เพื่อให้ตอบรับการเข้าร่วมงาน ผิดกับพี่ฟาง ซึ่งดูจะเงียบกว่าทุกปี คุณแม่ไม่สงสัยอะไร คิดเพียงว่า คุณครูคงยังไม่ฝากหนังสือเชิญมาให้
พอใกล้ถึงวันจัดงาน
"แม่ ไม่ไปงานวันแม่ไม่ได้เหรอ" น้องฟาง
"ทำไมเหรอลูก มีอะไรรึเปล่า" ดิฉันเอ่ยถาม
"เปล่า" เธอบอกเพียงสั้น ๆ
"แล้วแต่ลูกสิคะ แม่ยังไงก็ได้ ถ้าลูกไม่อยากให้แม่ไป แม่ไม่ไปก็ได้" ดิฉันกล่าวกับเธอ เพื่อให้เธอคลายความกังวลลง โดยที่ยังไม่ทราบเหตุผล ว่าเช่นไรเธอถึงไม่ยอมให้ดิฉันไปงานวันแม่ในปีนี้
จนถึงวันที่ต้องส่งหนังสือเชิญ ระหว่างนั่งรถไปส่งลูก ๆ ที่โรงเรียน เธอพูดกับดิฉันอีกครั้งว่า
""แม่ ไม่ไปงานวันแม่ไม่ได้เหรอ"
ดิฉันกล่าวเช่นเดิมว่า "แล้วแต่ลูกสิคะ แม่ยังไงก็ได้ ถ้าลูกไม่อยากให้แม่ไป แม่ไม่ไปก็ได้" ทั้ง ๆ ที่ในใจแอบน้อยใจเล็กน้อย แล้วกล่าวกับเธอว่า
"แม่ไม่ไป ไม่เป็นไรหรอกลูก แต่ลูกลองนึกดูสิว่า คนอื่นที่เขาไม่มีแม่ เขายังอยากมีโอกาสสักครั้งให้แม่ได้ไปงานวันแม่ แต่นี่ลูกเอง กลับไม่อยากให้แม่ไป"
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วยื่นหนังสือเชิญให้ดิฉัน แล้วบอกว่า "ตกลงฟางให้แม่ไปก็ได้ แม่เซ็นต์ตอบรับให้ฟางหน่อยนะ"
ดิฉันเซ็นต์หนังสือให้เธอ แล้วไม่พูดอะไร
หลังจากนั้น หนึ่งวัน ดิฉันเพิ่งมาทราบเหตุผลว่า เพราะเหตุไร เธอถึงไม่ยอมให้ดิฉันไป เนื่องจากเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเธอพนันกันว่า ถ้าวันแม่ปีนี้ ใครร้องไห้ ถือว่าคนนั้นแพ้ แต่ถ้าใครไม่ร้อง คนนั้นชนะ แล้วน้องฟางลูกสาวคนนี้ของดิฉันหนะ บ่อน้ำตาแตกทุกปีในวันแม่ เธอจึงกังวลมากถึงมากที่สุด ว่าเธอจะแพ้เพื่อน ๆ เพราะเธอต้องร้องไห้แน่ ๆ
โธ่ ลูกหนอลูก เหตุผลแค่นี้เอง
แต่ในที่สุด เช้านี้ ดิฉันก็ได้ไปร่วมงานวันแม่ที่โรงเรียนของน้องฟาง ปรากฎว่า พอช่วงเวลาที่คุณครูปล่อยให้เด็ก ๆ มาหาแม่ เราสองคนใช้เวลานานสักเล็กน้อยกว่าจะหากันเจอ ดิฉันเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ เนื่องจากตัวเองสายตาสั้น และไม่ได้สวมแว่นด้วย จึงหาลูกไม่เจอ
สุดท้ายเมื่อได้เจอกัน ต่างคนต่างโผกอด ไม่มีน้ำตา มีแต่รอยยิ้ม และความปิติในหัวใจของเราสองคน
น้องฟางบอกว่า " แม่ วันแม่ปีนี้ ลูกไม่มีของขวัญให้แม่นะ เพราะลูกตั้งใจจะทำที่วางจานให้แม่ แต่เผอิญด้ายหมดซะก่อน ลูกเลยทำไม่เสร็จ"
"ไม่เป็นไรหรอกลูก แค่ลูกเป็นเด็กดีเหมือนทุก ๆ วัน ก็คือของขวัญอันวิเศษสุดของแม่แล้ว" ดิฉันกล่าวกับเธอ
"อ้อ ที่สำคัญ วันแม่ปีนี้ ลูกเป็นฝ่ายชนะแล้วใช่ไหมค่ะ"
เธอยิ้มให้ดิฉัน ก่อนจะขอตัวไปเข้าเรียนตามปกติ
และดิฉันเพิ่งมาทราบจากคุณพ่อในภายหลังว่า เธอกังวลเรื่องการร้องไห้มาก ถึงขนาดบอกกับคุณพ่อไว้ก่อนแล้วว่า ปีนี้เธอจะเข้มแข็ง แม่จะไม่มีทางเห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด
แล้วคุณแม่ท่านอื่น ๆ หละคะ บรรยากาศของวันแม่ในปีนี้ เป็นอย่างไรบ้าง อย่าลืมนำเรื่องราวอันอบอุ่น มาเล่าสู่กันฟังนะคะ
รักแม่กอดแม่ทุกวันที่บ้านก็พอแล้ว
น้าอ๊อบกอดแม่แป๊ดเผื่อน้องฟาง น้องฟ้า วันแม่แล้วนะคะ
ขอให้เด็ก ๆ เป็นเด็กดี ทุกวัน ๆ ๆ ๆ ๆๆ
สวัสดีค่ะ
โถ เด็กคือเด็กนะคะ บางทีเขากังวลอะไร ตามประสาเขา และไม่บอกเรา
ไม่อยากให้เพื่อนล้อว่า ขี้แยนั่นเอง
ก็happy ending ค่ะ
ของดิฉัน อยากให้ช่วยอ่านค่ะ มันยาวค่ะ เขียนอีกไม่ไหว ก้ตื้นตันค่ะ และภูมิใจในการทำหน้าที่ของแม่ค่ะ แม้จะ ยังต้องทำต่อไป แต่ก็น้อยลงค่ะ