แพทย์ผิวหนังเตือนวัยรุ่นที่ไม่สวมเสื้อยกทรงออกกำลังกาย ระวังหัวนมเสียดสีกับเสื้อเกิดหัวนมอักเสบ เต้านมบวม แนะเลือกยกทรงผ้าไหม ติดสติ๊กเกอร์ลดการเสียดสี กระแสนิยม “บอล-ภราดร” พบคนไข้เล็บหัวแม่เท้าห้อเลือดจากการเล่นเทนนิสเข้ารับการรักษาเพิ่มมากขึ้น
จะออกกำลังกายทั้งที่ ก็ควรต้องสวมเสื้อใน ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเป็นหัวนมอักเสบ น.พ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดภูมิแพ้ผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIH) กล่าวแสดงความเห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นให้คนไทยออกกำลังกาย เพราะมีผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสโดยไม่ต้องพึ่งคอร์สรักษาผิวหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้ออกกำลังกายควรแต่งกายให้เหมาะสม ออกกำลังกายถูกวิธี ป้องกันการบาดเจ็บและติดเชื้อ
ทั้งนี้ปัจจุบันพบปัญหาผิวหนังของวัยรุ่นไทยที่พบแพทย์มากขึ้น คือ หัวนมอักเสบ เนื่องจากไม่สวมเสื้อยกทรงหรือโนบรา ขณะออกกำลังกาย ทำให้ระหว่างวิ่งหรือระหว่างออกกำลังกาย หัวนมเสียดสีกับเสื้อ จนหัวนมอักเสบ ปวดแสบปวดร้อน เต้านมบวม ศัพท์แพทย์เรียกว่า Jogger’s nipples หรือ หัวนมอักเสบในนักวิ่ง
“เด็กวัยรุ่นเวลาไปออกกำลังกาย มีผู้ไม่ใส่เสื้อยกทรงมากขึ้น ต้องยอมรับวัยรุ่นเราทุกวันนี้ขนาดเต้านมใหญ่ขึ้น อย่างฝรั่งเขาเป็นมาก เพราะขนาดเต้านมเขาใหญ่ เกิดการเสียดสีมาก เวลาออกกำลังกายควรใช้พลาสเตอร์ปิดที่หัวนมไม่ให้หัวนมเคลื่อนที่ ไปเสียดสีเสื้อผ้า หรือทาขี้ผึ้งขาว ควรสวมเสื้อยกทรงที่ทำจากผ้าไหมอ่อน ๆ จะลดการเสียดสีลง” น.พ.ประวิตร
น.พ.ประวิตร กล่าวว่า ตั้งแต่มีแฟชั่นนางแบบโชว์เต้านม พบว่ามีวัยรุ่นไทยเข้ารับการรักษาเพราะหัวนมอักเสบมากขึ้น นอกจากนั้น วัยรุ่นที่นิยมเล่น “เบรค ดานซ์” ตามสวนสาธารณะเช่น สวนสันติชัยปราการ เวลาเล่นลงไปคลุกฝุ่นทำให้ติดเชื้อราเกิดขุมขนอักเสบที่ขา เพราะผิวหนังอักเสบและเหงื่อไคลสะสม ติดเชื้อที่ง่ามนิ้วเท้า หลังเล่นต้องรีบอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด ท่าหมุนหัวลูกข่างของเบรค ดานซ์ยังทำให้ผมร่วง
นอกจากนั้น ความดังของ ภราดร ศรีชาพันธุ์ ทำให้เด็กหันมานิยมเล่นเทนนิสกันมาก เกิดปัญหาเล็บหัวแม่เท้าห้อเลือด (Tennis Toe) ต้องเข้ารับการรักษาเพิ่มมากขึ้น
น.พ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า มีนักรักบี้ในต่างประเทศติดเชื้อตุ่มหนองพุพองที่ผิวหนังจนเป็นอันตรายถึงไตอักเสบทั้งทีม เนื่องจากมีเพื่อนในทีมเป็นแผลหนองพุพองแล้วติดสู่คนอื่น ซึ่งมีหลายโรคที่ติดต่อกันได้เช่น เริม งูสวัด อีสุกอีใส หูดข้าวสุก ซิฟิลิส หิด เหา โลน ตับอักเสบ เอดส์ โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกัน มีงานวิจัยต่างประเทศพบว่า ร้อยละ 34 ของนักมวยปล้ำอาจติดเชื้อเริม
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 11/26/2003
ไม่มีความเห็น