อาจารย์ชาวญี่ปุ่นจากสถาบันโยคะวิชาการ ของมูลนิธิหมอชาวบ้าน ด้วยทุน สสส ในแผนพัฒนาจิต มาสาธิตการปรับสมดุลด้วยการทำโยคะ
ภาพรวมของความรู้ที่ได้รับในบ่ายนี้ ผมในฐานะอาจารย์กิจกรรมบำบัดทางจิตสังคม ได้รับรู้ข้อมูลที่ป้องกันและส่งเสริมสุขภาพร่วมกับอาจารย์และนักกายภาพบำบัดมหิดล สรุปได้ดังนี้
- โยคะไม่ใช่การออกกำลังกาย แต่เน้นการฝึก Body Awareness เมื่อเรามีการรับรู้ความรู้สึกสบายขณะมีการเคลื่อนไหวแกนหนึ่งๆของร่างกาย และมีความสามารถแยกแยะข้างที่สบายกับข้างที่ไม่สบาย จากนั้นปรับสมดุลด้วยการเคลื่อนไหวไปในข้างที่สบายอีกสี่ครั้งๆละแปดวินาที ค้างอย่างช้าๆ จากนั้นมีการพักให้ร่างกายอยู่ในสมมาตร และทดสอบการรับความรู้สึกข้างที่ไม่สบายน่าจะสบายขึ้น เมื่อมีการยืดข้างที่สบายแล้ว
- หลักการโยคะมีการพัฒนาการเคลื่อนไหวด้วยเทคนิค BBM (Body Balancing Movement) เน้นให้เรามี structural component of movment หรือ มี Muscle Balance ที่ดี จะส่งผลให้เกิด functional movement ที่ดีตามมา เช่น Physical activity มากขึ้นและมี Emotion disturbance ลดลง จากนั้นก็จะส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่สมดุลกับสุขภาพจิตใจ
- นี้คือตัวอย่าง Humanized Health Care ที่พยายามให้บุคลากรทางสุขภาพเกิดมิติของจิตวิญญาณมนุษย์ร่วมกับมิติของร่างกายและจิตใจ
- การสร้างบุคลิกที่ดีจากการตระหนักรู้ถึงเส้นของความสมดุลสี่เส้น ได้แก่ เส้นตั้งฉาก (กระหม่อมมายังจุดกึ่งกลางสะโพก) เส้นหลัก (เชื่อมระหว่างหัวกระดูกต้นขามายังเชิงกรานทั้งสองข้าง) เส้นสอง (เชื่อมระหว่างกระดูกต้นแขนในแนวไหล่) และเส้นสาม (เชื่อมระหว่างรูหูทั้งสองข้าง)
- ลองพิจารณาดูแนวแกนสมดุลของร่างกายขณะเคลื่อนไหวเป็นส่วนๆ เมื่อมีความผิดปกติของท่าทาง เช่น กล้ามเนื้อแข็งตัว เหน็บชา ปวดเข่า หลังค่อม ขาโก่ง สะโพกย้อย และอื่นๆ เราคงต้องพยายามพิเคราะห์แกนสมดุลและการปรับการรับรู้การเคลื่อนไหวผ่านแกนสมดุลแล้วหละครับ