ช่วงเที่ยงวานนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสฟังธรรมะที่สนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง โดย พระครูสุวิมล ธรรมวาที รองเจ้าอาวาส จากวัดใหม่ทุ่งคา อ.รัตภูมิ นี่เอง จนคนที่ไม่ได้ฟังอดแซวไม่ได้ว่า ไปฟังพระ หรือไปฟังตลกกัน อิ อิ ก็เป็นอันว่าไปฟังพระเทศน์สนุก ๆ มาค่ะ ผู้เขียนได้บันทึกข้อคิดดี ๆ มากมาย จนต้องขอนำมาเก็บไว้ในบันทึกตามความเข้าใจ (แบบสรุป ๆ และไม่เรียงหัวข้อน๊ะ (แบบว่ามันเยอะมาก)
-
สิ่งไหนที่ไม่ได้คิดมักจะสำเร็จ(เสมอ)
-
ปัญหาเรื่องไม่ได้กินนั้นเรื่องเล็ก แต่ไม่ได้ “ฉัน” (กิน) เรื่องใหญ่กว่า
-
ใจเราก็เปรียบเหมือน “แอ่งน้ำ” และกิเลส (ความโลภ โกรธ หลง) ก็เปรียบเสมือน “ตอไม้” ภายใต้แอ่งน้ำก็จะมีตอไม้อยู่เสมอ แต่เมื่อใดที่น้ำแห้ง ตอไม้ก็จะผุดขึ้นมา เพราะฉะนั้นเราต้องให้แอ่งน้ำนั้นเต็มอยู่เสมอ สุดท้าย “ตอไม้”ก็จะสลายไปเอง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องฝึกฝนจิตใจเรา อย่าให้ตอ(กิเลส)ผุด
-
ไม่มีอะไรที่สบายที่สุด (ทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดี) หากเรานั่งอยู่นาน ๆ เราก็มักจะบอกว่า การนอน สบายที่สุด แต่ลองถามคนป่วยที่นอนในโรงพยาบาลดูสิ เขาก็อยากลุกขึ้นนั่ง หรือเดินเล่นเหมือนกัน
-
คนในสังคมมี 3 ประเภท
1. ตาเดียว นั่นคือมีตาโลก หรือตาธรรมเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ตาโลกจะมีความโลภ อยากได้ อาฆาต โกรธ รู้เรื่องโลกแต่ไม่รู้เรื่องธรรม หรือรู้เรื่องธรรมอย่างเดียวแต่ไม่เข้าใจโลกก็ดำเนินชีวิตยาก
2. สองตา มีทั้งตาโลกและตาธรรม คนผู้นี้จะใช้ชีวิตอย่างเข้าใจ และมีศิลปะในการครองชีพ
3. ตาบอด คนประเภทนี้อันตรายมาก มืดทั้งความรู้ทางโลกและความรู้ทางธรรม
-
คนบางคนจะเข้าวัดต่อเมื่อ ไปสะเดาะเคราะห์ ดวงไม่ดี เป็นต้น แต่ก็มีอีกหลายคนไม่เข้าวัดเพราะ ตัดบ่วงไม่ขาด ภาระมากมายไม่สามารถไปวัดได้ ฉลาดกว่าพระเทศน์ เศรษฐกิจไม่อำนวย สังขารไม่อำนวย พระบอกหวยไม่ถูก (หวย = ห –หายนะ, ว-วินาศ, และย – ยับเยิน) และวัดไม่ผูกศรัทธา
-
ผีขี้เกียจ เสนียจจัญไร อยู่กับใคร บรรลัยทุกคนฯ(จดไม่ทัน)
-
"คาถา" ระงับ "ความโกรธ" (ผู้เขียนชอบมาก ๆ ) นั่นก็คือ สูดหายใจยาว ๆ ลึก ๆ ท่องในใจว่า
“ มีอะไรน่าโกรธ อย่าโทษเขา ต้องโทษที่ใจเราไม่เข้มแข็ง
เรื่องน่าโกรธ ไม่ว่าจะมาแรง ถ้าใจแข็งเหนือกว่า ชนะมัน”
ถ้ายังโกรธอีก ให้หายใจยาว ๆ ลึก ๆ ท่องในใจต่ออีกว่า
“ เขาว่าเรา เราอย่าโกรธ ลงโทษเขา ในเมื่อเรานี้ไม่เป็นเช่นเขาว่า
หากเราเป็นจริงจัง ดังวาจา เมื่อเขาว่า อย่าโกรธเขา เราเป็นจริง”
-
ตอนนี้คงจะจบด้วย คุณลักษณะที่เหมาะสมของทุก ๆ คน นั่นคือ "เสือ สิงห์ กระทิง แรด"
- เสือ ไม่กินของเสีย กินของที่สะอาด ไม่ฉ้อโกง
- สิงห์ ภาวะความเป็นผู้นำ สง่างาม (จ้าวป่า)
- กระทิง ต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ
- แรด มีความอดทน ไม่ท้อถอย
สรุปว่า “ต้องกินอย่างเสือ อยู่อย่างสิงห์ สู้อย่างกระทิง อดทนอย่างแรด” (เอาเป็นว่าใครว่าเรา "แรด" เราต้องขอบคุณเพราะนั่นเป็น “คำชม” ต่างหาก)
ตอนนี้คงจบลงเพียงเท่านี้ยังมี "คุณธรรมตามหลักปรัชญาเศรษกิจพอเพียง" ในตอนหน้าค่ะ (อ้อ !! ต้องขอบคุณกรรมการ สสพ. ทุกท่านค่ะ ที่จัดกิจกรรมดี ๆ ให้พวกเราทุกคนค่ะ)