Notebook กับแบตเตอรี่
สมัยก่อน แบตเตอรี่โน้ตบุคเป็นแบบ Ni-Cad มีข้อกำหนดว่าต้องใช้ไฟให้หมดจึงจะชาร์ตใหม่ได้ ดังนั้น เมื่อคุณใช้โน้ตบุคเสียบสายไฟบ้านจึงควรถอดแบตเตอรี่ออก ไม่ให้มีการชาร์ตไฟ ถ้าจะใช้แบตเตอรี่ ก็ต้องไม่เสียบไฟบ้าน ไม่งั้นแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว จะชาร์ตได้ ก็ต้องใช้ไฟให้หมด
กับโน้ตบุคสมัยนี้ ใช้แบตเตอรี่แบบ Li-ion มีวงจรตรวจสอบว่าถ้าไฟเต็ม ก็จะไม่ชาร์ตไฟ ไม่ว่าคุณจะเสียบไฟไว้หรือไม่ก็ตาม และเมื่อคุณเสียบไฟบ้านไว้ เครื่องโน้ตบุคก็จะเลือกใช้ไฟจากไฟบ้าน และเผอิญไฟฟ้าดับ มันก็จะใช้ไฟจากแบตเตอรี่ทันที่ ดีซะอีก ข้อมูลไม่เสียหาย
จะชาร์ตไฟเมื่อไร.....แบตเตอรี่ยุคนี้ ไฟเหลือ 50-60% ก็ชาร์ตได้แล้ว ไม่ต้องรอให้หมด ปล่อยให้หมดเกลี้ยงเลย กลับไม่ดี เพราะแบตเตอรี่ทุกชนิด กลัวร้อน ไฟหมดเกลี้ยงต้องชาร์ตนาน ยิ่งนาน ยิ่งร้อน ไม่ดีต่อสุขภาพและอายุของแบตเตอรี่
ข้อมูลนี้ใช้ได้กับแบตเตอรี่ของเครื่องมืออื่นๆ เช่นโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล
ลองดูซิว่า แบตเตอรี่ของคุณเป็นแบบไหน
เพิ่งเข้ามาอ่าน เข้าใจเรื่องแบตเตอรี่โน้ตบ๊ตแล้ว หลังจากได้ฟังจากหลายๆที่
คิดว่าที่ใช้อยู่คงเป็นแบบแบตเตอรี่แบบเก่า ไม่ค่อยได้ใช้แบบแบตล้วนๆ ส่วนมากใช้แบบเสียบไฟ แต่รู้สึกว่าแบตมันคงเสื่อมแล้ว เพราะเคยลองใช้แบบไม่เสียบไฟใช้ได้แป๊บเดียวแบตก็หมด ตอนนี้ใช้แบบเสียบไฟอย่างเดียว
ก็เลยสงสัยว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนแบต แต่เราจะใช้แบบเสียบไฟทุกครั้ง จะทำให้โน๊ตบุ๊คเรามีปัญหาไม๊คะ
ขอบคุณท่านศน.มาก8jt ที่ได้เข้าไปให้ความรู้เรื่องแบบเตอรี่โน้ตบุ๊คที่ blog ทำให้เข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น
และขอบคุณอีกครั้งสำหรับลิงค์ เกี่ยวกับความรู้ เรื่องbackward design