การบรรยาย เรื่อง "การประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจแก่องค์กรในภาวะวิกฤติ" และ "การใช้สื่อวิทยุเพื่อการประชาสัมพันธ์" (ต่อจากบันทึกแรก)
ต่อจากบันทึกที่แล้ว http://gotoknow.org/blog/gossip/110178 ดิฉันได้เกริ่นนำพอสังเขป ว่าจะเล่าถึง เหตุการณ์จากประสบการณ์ในการประชาสัมพันธ์ของท่านวิทยากรทั้ง 2 ท่าน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ดิฉันจะเริ่มเล่าเลยละกันนะคะ
วิทยากรท่านแรก คือ พ.อ. อัคร ทิพโรจน์ ท่านได้เล่าถึงประสบการณ์ของท่าน เกี่ยวกับการใช้การประชาสัมพันธ์มาช่วยในการแก้ไขสถานการณ์ในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำให้ปัญหาบางอย่างได้คลี่คลายลง และท่านยังพูดเสริมอีกว่า การให้ข้อมูลข่าวสารในภาวะวิกฤติอย่างทุกวันนี้ มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากเรื่องสถานการณ์ในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ซึ่งถ้าหากให้ข้อมูลข่าวสารไม่ดี อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดพลาดไป และอาจจะทำให้สถานการณ์ต่างๆเลวร้ายลงกว่าเดิม แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากให้ข้อมูลข่าวสารดี ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ อาจจะเบาบางลงได้
สำหรับวิทยากรท่านที่สอง ก็คือ คุณสุภาวดี ชัยวิเศษ ซึ่งเรื่องเล่าของท่าน ทำให้ดิฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากคะ เพราะดิฉันได้รับข้อคิดดีๆ จากการฟังเรื่องเล่าของท่านในครั้งนี้ และท่านก็ยังเป็นบุคคลที่มีอารมณ์ขัน จึงทำให้เรื่องเล่าของท่านมีความน่าสนใจ และสามารถเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ดิฉันขอเริ่มเล่าเลยนะคะ ท่านได้เล่าถึงประสบการณ์ของท่าน เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ใน จ.สงขลา เมื่อปี พ.ศ. 2543 ซึ่งเหตุการณ์นี้หลายๆท่านคงจะจำกันได้ดีนะคะ ในปีนั้น อ.หาดใหญ่ นับเป็นอีกอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก บ้านพัก และ อาคารต่างๆ จมอยู่ใต้น้ำ และมีผู้สูญหาย และ เสียชีวิต เป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลให้สถานีวิทยุต่างๆ ใน อ.หาดใหญ่ ไม่สามารถออกอากาศได้ ยกเว้น สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบและสามารถออกอากาศได้ตามปกติ ซึ่งท่านวิทยากร(คุณสุภาวดี ชัยวิเศษ) ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการวิทยุดังกล่าว และได้เป็นสื่อกลางในการรับแจ้งเหตุผู้สูญหาย และ ผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งได้รายงานข่าวให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ โดยมีประชาชนหลายท่านได้โทรศัพท์มาแจ้งเหตุผู้สูญหาย และ เสียชีวิต ซึ่งในแต่ละวันจำนวนยอดผู้สูญหาย และ เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากเหตุการณ์ต่างๆได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ก็ได้ข้อมูลจำนวนผู้สูญหาย และ เสียชีวิต (จำไม่ได้ว่าจำนวนเท่าไหร่คะ) แต่ข้อมูลดังกล่าว ไม่ตรงกับข้อมูลที่ทางจังหวัดสงขลาได้ตรวจสอบ จึงทำให้ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ได้รับการต่อว่าอย่างรุนแรง ซึ่งหลังจากที่เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้คลี่คลายลงแล้ว ท่านวิทยากร (คุณสุภาวดี ชัยวิเศษ) ก็ได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวมาใช้เป็นบทเรียนสอนตัวเองว่าในการทำงานครั้งต่อไป ก่อนที่จะรายงานข่าวต่างๆออกไป นั้น ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก และไม่ควรจะทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม อย่างเช่นเหตุการณ์ดังกล่าวอีก
นอกจากเรื่องเล่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ท่านวิทยากร (คุณสุภาวดี ชัยวิเศษ) ยังได้พูดถึงหลักการเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 ข้อ คือ
1. ผู้รู้ คือ เป็นผู้ที่รอบรู้เรื่องต่างๆ รอบตัว และรู้อย่างแท้จริง
2. ผู้ตื่น คือ เป็นผู้ที่ตื่นตัว พร้อมที่จะรับรู้เรื่องใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่เป็นพวกที่ตื่นตูม ทำอะไรโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบ(อย่างเช่น กรณีตัวอย่างที่ได้กล่าวมาแล้วคะ)
3. ผู้เบิกบาน คือ เป็นผู้ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เบิกบาน มีความเป็นมิตร และ ยินดีต้อนรับผู้มาติดต่อตลอดเวลา
สำหรับบันทึกทั้งหมด ที่ดิฉันได้เล่าสู่กันฟังนี้ ดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านอีกหลายๆ ท่าน อย่าลืมนำข้อคิดและหลักการต่างๆ ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานของท่านนะคะ สำหรับบันทึกในฉบับนี้ ดิฉันก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนคะ ไว้พบกันใหม่ในบันทึกฉบับต่อๆไปนะคะ...สวัสดีคะ
ความเห็น (3)
- น่าสนใจมาก
- ได้อ่านเรื่องดีๆๆ
- งานยุ่งไหมครับ
สวัสดีคะ อ.ขจิตฯ
ต้องขอบคุณสำหรับคำชมของ อ. ขจิตฯ มากคะ ดิฉันรู้สึกดีใจ ที่มีคนชอบบันทึกฉบับนี้ ส่วนเรื่องงานตอนนี้ก็ไม่ค่อยยุ่งแล้วคะ ยังงัยก็ติดตามกันใหม่ในบันทึกฉบับต่อไปนะคะ
บุญเลิศ วงค์โพธิ์
สวัสดีครับคุณ NooBee ผมขอความอนุเคราะห์ข้อมูลหรืองานวิจัย ที่เกี่ยวกับเรื่องการใช้สื่อวิทยุชุมชนในการพัฒนาหรือส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นะครับ ผมกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่ ขอความกรุณาช่วยเรื่องข้อมูลด้วย ขอบคุณมากครับ
บุญเลิศ วงค์โพธิ์