บุรุษผู้ไร้รักความอุดมสมบูรณ์ ความหลากหลาย ทุกๆสิ่งที่กำเนิด ทุกๆสิ่งที่มีตัวตน ทุกๆสิ่งที่แบ่งแยก ทุกๆสิ่งที่ค้นหาก่อกำเนิดศิลปะ ให้พลังอันสุนทรี ให้พลังแก่ความเหงา ให้พลังแก่ชีวิต ก่อกำเนิด นาคีร์ คัมภีร์แห่งฝัน
จากความทรงจำตั้งแต่เยาว์วัย ผ่านร้อนผ่านหนาวตั้งแต่จำความได้ที่ชีวิตได้ต่อสู้ค้นหาสิ่งที่มีคุณค่าเพื่อสิ่งดีๆให้กับตัวเองตลอดระยะเวลา 25 ปี ยังคงอยู่ในความทรงจำอันล้ำค่า ทุกบทบาท ทุกกาลเวลา ทุกนาที ที่ลมหายใจเข้าออก ยังไม่ได้มีการจดแต่เป็นเพียงการจำ บางครั้งมันยังเลือนลาง กับสิ่งที่คิดฝัน แม้บางคราในความคิดยังชักนำให้จิตตกอยู่ในโลกแห่งจิตนาการก็ตามแต่มันก็ทำให้จิตใจมีความสุข ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา มีคุณค่าอนันต์ยิ่งนัก ยากที่จะได้พบได้เจอกับสิ่งเหล่านั้นอีก เวลาผ่านไปช่างรวดเร็วนัก จึงไม่ได้ย้อนคิดเลยซักนิดว่า เกิดมาได้ทำสิ่งใดให้เป็นรางวัลแก่ตัวเองบ้าง แม้จะผ่านทั้งความเหงา ความเศร้า สุข ทุกข์ มาเท่าไรแล้วก็ตามแต่ ชีวิตของทุกคนไม่มีสิ่งใดที่แน่นอนได้ บทบาทของตัวละครแห่งชีวิตที่ได้สัมผัสนั้นเป็นภาพที่น่าดูยิ่ง บทบาททุกบทบาท ของแต่ละตัวละครแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง แม้จะดูแต่ภาพลักษณ์ภายนอกต่างๆ ก็ตาม แต่ภายในใจเล่า เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณค่าของความเป็นคนอยู่ที่ไหน ได้คิดได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมกันบ้างหรือยังล่ะ! ดังนั้นผมจึงได้หวนคิดและหาวิธีที่จะให้เกิดผลดีที่สุดบางครั้ง ก็เกิดความท้อแท้แต่ใจไม่แพ้ ไม่คิดจะท้อถอย ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ย่อมมีหนทางที่จะแก้ไข หากหลีกหนีมันแล้ว ใครล่ะ! ที่จะแก้ปัญหาที่เกิดแก่เราได้ ดังนั้น มันจะต้องกล้าที่จะเผชิญกับความเป็นจริง และจะสู้ต่อไป……….ผมจึงได้เขียนเรื่องราวและย้อนนึกถึงความเป็นมาของตัวเอง บันทึกเป็นเรื่องราวต่างๆ ที่ยังจดคืนวันนั้นได้ ถึงว่ามันจะยาวนานเพียงใด แต่บางเหตุการณ์นั้นยังคงกับเราเองไปจวบจนนาทีสุดท้าย เพื่อค้นหาตัวเองให้เจอและยอมรับมันปรับตัวให้เข้ากับสังคมปัจจุบัน และสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้า จะจดจำเหตุการณ์ที่มีค่าไว้กับละครแห่งชีวิตนี้ไว้ตลอดกาล………….. รวมธาตุเรื่องราวที่น่าจดจำในวัยเยาว์นั้น ยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงสำนึกของตัวเองตลอดเวลา ว่าเรานั้นกำเนิดมาจากไหน ชีวิตของเราแท้จริงแล้วมาจากธรรมชาติที่เกิดการรวมตัวของธาตุนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ธาตุในที่นี้หมายถึง ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นเองเรื่องราวบางเหตุการณ์นั้น เราไม่สามารถรู้ซึ้งแก่นแท้ แต่ได้ฟังจากเรื่องเล่าในอดีต ก่อนที่เราจะได้กำเนิดขึ้นมาลืมตาดูโลก นับแต่การเจอะและเจอกันของคนที่เรารักมากที่สุดและเป็นครูคนแรกของเราคอ พ่อ แม่ ของเรานั่นเองนั่นคือรักที่ได้หล่อหลอมมาเป็นระยะเวลายาวนานที่เราสามารถรู้ได้ด้วยญาณของความรัก จากหนึ่งรวมเป็นสอง ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเกิดมาย่อมที่จะมีของคู่ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่า หญิงคู่ชาย ฟ้าคู่ดิน ปลาคู่น้ำ สุขและทุกข์ รอยยิ้มและคราบน้ำตา ฯลฯ…..ทุกสิ่งเมื่อคู่กันแล้วได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวทำให้เกิดชีวิตใหม่ขึ้นมาได้พึ่งพาอาศัยดิน คือเนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆที่ห่อหุ้มเต็มไปด้วยสิ่งที่อาจจะมองดูว่าสวยงามแต่ที่จริงแล้วสกปรกในส่วนลึกหรือแก่นแท้น้ำ คือโลหิตที่สูบฉีดอวัยวะในร่างกาย ทุกอย่างที่เป็นของเหลวลม คืออากาศที่เราใช้เป็นเครื่องกำหนดเข้าออกทุกๆนาทีไฟ คือ อุณหภูมิในร่างกายของเรานั่นเองทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนแต่คู่กันและพึ่งพาด้วยกันทั้งสิ้น แล้วสิ่งเหล่านี้ก็กลับสู่ธรรมชาติดังเดิมในที่สุดโดยไร้กฏเกณฑ์และกาลเวลาที่แน่นอนในยามที่ลืมตาดูโลก จดจำได้ว่าข้างกายนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มารุมล้อม ซึ่งเป็นผู้ให้ชีวิตโดยสายเลือด มีความรัก ความผูกพันเอาใจใส่ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีความทุกข์ เดือดเนื้อร้อนใจในบางครั้ง แต่ก็ไม่อาจรับรู้ได้เลย แม่คือคนที่ดูแลห่วงใย ทนอดหลับอดนอน เมื่อยามเราร้องไห้งอแง ไกวเปลเมื่อยามเราจะหลับ ไม่รู้เลยว่าในยามนั้นมันทรมานเพียงใด แต่อย่างไรเสียท่านก็ไม่เคยบ่น อาจมาจากการที่เราได้เห็นมาหลายๆตัวอย่างที่เกิดขึ้น และดำเนินต่อไปหากโลกยังไม่หยุดหมุน
ไม่มีความเห็น