มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน
ว่าที่ร้อยตรี จิรศักดิ์ กรรเจียกพงษ์

เลี้ยงดูลูกน้อยให้เก่งและดี


 ในโลกยุคปัจจุบันการเลี้ยงดูลูกน้อยไม่ได้มีเป้าหมายเพียงให้เด็กเติบโตอย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เด็กพัฒนาเต็มที่ทั้งด้านร่างกาย พฤติกรรม อารมณ์ และจิตใจด้วย โดยเฉพาะพัฒนาการสมองและอารมณ์จิตใจตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีของชีวิตเป็นช่วงที่สำคัญ เพราะสมองจะเติบโตมากและรวดเร็วที่สุดในช่วงนี้ สำหรับด้านอารมณ์จิตใจก็เช่นกัน จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมากในวัยนี้ อันจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการกำหนดความคิดพฤติกรรมและบุคลิกภาพของเด็กเมื่อเติบโตขึ้น

    
       เด็กแรกเกิดจะมีขนาดสมองประมาณ 50% ของผู้ใหญ่ แต่เมื่ออายุเพียง 3 ปี สมองจะเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีขนาดถึง 80% ของผู้ใหญ่ทีเดียว ปัจจัยที่สำคัญมากที่ทำให้สมองเติบโตและมีคุณภาพเต็มศักยภาพคือ การที่สมองได้รับการกระตุ้นผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
       
       ทางตา ได้มองรูปภาพวัตถุที่น่าสนใจ เช่น สีสันสดใส รูปทรงเลขาคณิต หรือใบหน้า ดวงตาของแม่
       
       ทางหู ได้ฟังเสียงที่หลากหลายและน่าฟัง เช่น เสียงแม่พูดคุยด้วย เสียงดนตรี เพลงกล่อมนอน ฯลฯ
       
       ทางจมูก ได้กลิ่นที่หลากหลายและพอใจเช่น กลิ่นน้ำนมแม่ กลิ่นอาหาร กลิ่นในธรรมชาติต่าง ๆ
       
       ทางลิ้น ได้ลิ้มรสอาหารที่หลากหลายและเหมาะสม เช่น รสนม รสอาหารต่างๆ
       
       ทางกาย ถูกสัมผัสที่อบอุ่นอ่อนโยน เช่น อุ้ม กอด หรือการใช้มือสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ที่มีรูปทรง พื้นผิวที่หลากหลาย เป็นต้น
       
       แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ทางใจ การได้รับความรัก ความอบอุ่น รู้สึกมั่นคง ปลอดภัย จากการได้รับการดูแลใกล้ชิด เอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ และมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน เช่น สบตา เล่น พูดคุย สัมผัส
       
       ด้านอารมณ์จิตใจนั้น ช่วง 6 ปีแรกเด็กจะพัฒนา “พื้นฐานของบุคลิกภาพ” ซึ่งมีส่วนอย่างมากที่จะกำหนดว่าเด็กจะโตขึ้นเป็นคนนิสัยใจคออย่างไร ปัจจัยที่สำคัญคือ ลักษณะการเลี้ยงดูของพ่อแม่และสภาพแวดล้อมที่เด็กเติบโต หากเด็กได้รับอย่างเหมาะสม เมื่อเติบโตขึ้นจะเป็นคนมีอารมณ์จิตใจมั่นคง มีมนุษยสัมพันธ์ดี มองโลกในแง่บวก ไม่ย่อท้อยอมแพ้ง่าย ๆ รู้จักให้ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งลักษณะการเลี้ยงดูที่เด็กต้องการคือ บรรยากาศในครอบครัวที่สงบ อบอุ่น ไม่มีความรุนแรง ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมมารดา ได้รับเวลาและความใกล้ชิดจากมารดาอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนผู้เลี้ยงดูบ่อย ๆ มีของเล่นเหมาะกับวัยและมีโอกาสได้เล่นอย่างเพียงพอ รวมทั้งมีคนที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเขาโดยการเล่น พูดคุย ทำกิจกรรมกับเขาในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสได้พูดคุย ซักถาม เล่นสมมติและเล่นจินตนาการ ขณะเดียวกันก็มีผู้ใหญ่กำหนดขอบเขต ควบคุมพฤติกรรม และอบรมสั่งสอนเขาด้วย

    
       จะเห็นได้ว่าบทบาทของผู้เลี้ยงดูเด็กเล็กมีความสำคัญยิ่ง ซึ่งปัจจุบันมีวิชาการความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาที่จะช่วยให้พ่อแม่เลี้ยงดูลูกน้อยของท่านอย่างมีความสุขและบรรลุเป้าหมายดังกล่าวด้วยความมั่นใจ
       
       อย่างศูนย์รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กศิริราช ได้จัดโครงการอบรม “การเลี้ยงดูลูกน้อย สำหรับพ่อแม่ยุคใหม่” ด้วยเนื้อหาสาระและวิธีการที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อหาในหัวข้อนั้น ๆ เช่น การบรรยาย สาธิต อภิปราย และทดลองปฏิบัติ โดยเปิดอบรมเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. ณ ห้องประชุมประสงค์ ตู้จินดา ตึกอานันทมหิดล ชั้น 10 รพ.ศิริราช
       
       15 กรกฎาคม 2550
       09.00-12.00 น.“เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเด็กดีและมีความสุข”
       13.00 -16.00 น. “ปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ที่พบบ่อยและการปรับพฤติกรรมลูก”
       
       22 กรกฎาคม 2550
       09.00 -12.00 น. “รู้ทันพัฒนาการ เสริมสร้างสมองด้วยสองมือพ่อแม่”
       13.00-16.00 น. “เล่นกับเจ้าตัวน้อยและเล่นอย่างไรให้ลูกฉลาด”
       
       5 สิงหาคม 2550
       09.00 -12.00 น. “การสื่อสารและสัมผัสทารกด้วยรัก”
       13.00-16.00 น. “สื่อสารอย่างไรให้ลูกรักและเชื่อฟัง”
       
       19 สิงหาคม 2550
       09.00 -12.00 น. “มหัศจรรย์นมแม่และบันได 10 ขั้นสู่ความสำเร็จของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่”
       13.00-16.00 น.“อาหารเพื่อลูกรัก”
       
       และเมื่อผ่านการอบรมแล้ว ยังได้ประกาศนียบัตรรับรองด้วย ผู้สนใจสอบถามหรือสมัครล่วงหน้าในราคาพิเศษที่ ศูนย์รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กศิริราช โทร. 0-2419-5722, 0-2419-7626 (ในวันเวลาราชการ) หรือดูรายละเอียดที่ www.si.mahidol.ac.th
       
       เริ่มต้นสิ่งดีๆ แก่ลูกน้อยในวันนี้ด้วยความปรารถนาดีและรักอย่างจริงใจ เชื่อแน่ว่าพ่อแม่ของเจ้าตัวน้อยคงประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูเป็นแน่เทียว เอาใจช่วยครับ
       ————————————————————–
       รู้เรื่อง“ไข้เลือดออก-โรคฉี่หนู”
       
       ขอเชิญฟังบรรยาย เรื่อง “ไข้เลือดออก-โรคฉี่หนู” โดย ศ.พญ.ยุพิน ศุพุทธมงคล ภาควิชาอายุรศาสตร์ 13 กรกฎาคม 2550 ณ ห้อง 7006 ตึก สยามินทร์ ชั้น 7 รพ.ศิริราช สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2419-7419 , 0-2419-8990

ที่มา : โดย ผู้จัดการออนไลน์     5 กรกฎาคม 2550 08:16 น.
       คอลัมน์สายตรงสุขภาพกับศิริราช
       ผศ.นพ.ชาตรี วิฑูรชาติ กุมารแพทย์

หมายเลขบันทึก: 108855เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2007 15:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2014 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท