เด่นแจ่มฟ้า ณ ยามรัตติกาล
มินานเพียงพองามในฤดู
ส่องฉานเพียงหนึ่งดวงนั้น พธู
นวลนัยนา ศุภาเพ็ญ
กลมกลึงละมุนอุ่นละไมใน-
ดวงตาดวงใจ สว่างเห็น
แขวนฟ้างามทุกวันหลังยามเย็น
ณ คืนค่ำ ระบำดาว
วาดสาดประภาต้อง เคลิ้มนัทที
ฤดีโดย สุกสกาว
วะวิบวะวิบในละลอก วาว
ประดุจเพชรเม็ดน้ำงาม
ประกายวะวับแวมคะครื้นเลื่อม
กระเพื่อมทรวง มนะตาม
ดาราที่พร่างพริบกระพริบถาม
วัจนะเน้น เข้าแนบครอง
ประพิณผ่องที่ต้องชล ก็หวั่น
ระริกสั่นในครรลองโอ้ จันทรา รัตติยาประคอง
นภาพราว ก็เฝ้าครวญ
ดาวเดือนคู่เคียงขวัญ ณ ฤทัย
ก็ไหวหวานอยู่เย้ายวน
แล้วอุ่นรักประจักษ์แจ้งแสงนวล
ขณะพร้อมในมนัสย
อมสมอารมณ์สอง หวลหวิวหวาม
ในทุ่มยามราตรีรัตน์
กอดเกี่ยว กลมกล่อม คะนึงกระหวัด
จนประภา ทิวาวัน
ตื่นฟื้น รู้รัก เฝ้าฝากใจภัศด์
วักตักสวาทสวรรค์
เพ็ญประกายจันทราดาราก็ผูกพัน
ไว้ในสมัญญา ฆราณีฯ
ไม่มีความเห็น