เมื่อธุรกิจล้ม ประสบปัญหาต่างๆ ที่ทำให้ไปต่อไม่ได้ พวกเขาทำอย่างไรกัน คำถามนี้ ดูเหมือนเป็นคำถามง่ายๆ ดูเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่นๆ แต่ว่าคำตอบ ช่างใกล้ตัวเราเสียเหลือเกิน เวลาปัญหามันเดินทางมาถึง
เมื่อธุรกิจไปต่อไม่ได้ ก็ต้อง ล้มเลิก / ปิดกิจการ อันนี้เป็นทางออกที่หนึ่ง ซึ่งหมายถึง การเลิกจ้างงานของพนักงานทั้งหมด ความถดทอยด้านกำลังใจของผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ ที่ต้องแบกคำว่าพ่ายแพ้ ติดหัวใจไว้อีกนาน
อีกทางหนึ่ง คือ การขายต่อกิจการ ให้ผู้อื่นที่สนใจ วิธีนี้ ค่อนข้างเป็นวิธีที่คนไทยไม่ค่อยได้เจอ ได้พบเห็นนัก เพราะคนไทยไม่ได้มีพื้นฐาน ด้านการค้าขายหรือการพาณิชย์อย่างแข็งแรงมาตั้งแต่ต้น วิธีการ Take Over นี้จึงพบเห็นได้น้อยในสังคมธุรกิจไทย แต่ก็มากขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสคนรุ่นใหม่
เอาล่ะ ที่กล่าวมาข้างต้น เป็น 2 วิธีหลักๆ ที่พบเห็นได้เวลาที่ธุรกิจมีปัญหา ย่ำแย่ทั้งการเงินในระบบและยอดขาย
ใครที่ดำเนินธุรกิจมาถึงจุดนี้ จุดที่ล้มเหลว ก็จะได้บทเรียนราคาแพง เพราะแลกมาด้วยความฝันที่พังทลายลงไป แลกด้วยความรู้สึกของคนหลายๆ คนที่ถูกเลิกจ้าง แต่ในอีกมุมหนึ่ง มีกลุ่มนักธุรกิจที่เริ่มประกอบการค้าในระดับความคิด หรือ ระดับ Idea ได้ทำการเฝ้าดูความเคลื่อนไหว แนวโน้ม ประเมินยอดขาย ทิศทางของธุรกิจ เพียงเพื่อจะหาคำตอบว่า "ควรจะทำธุรกิจนี้ดีมั๊ย คุ้มมั๊ย"
ความล้มเหลวของธุรกิจของคนอื่นที่เฝ้าดูอยู่นั้น จึงเป็นบทเรียนราคาแพงของเจ้าของธุรกิจ และก็เป็น บทเรียนฟรีๆๆ (แต่มูลค่าสูง) สำหรับกลุ่มนักธุรกิจที่ใจเย็น และ เฝ้าดูเหล่านี้
//* Editor's Note *// ผมนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพียงเพื่อให้เป็นความเข้าใจสำหรับคนรุ่นใหม่ๆ ที่จะเรียนรู้การทำธุรกิจอย่างมีจังหวะ และไม่พลั้งพลาด
บทความนี้มีหลายตอน มีลิงค์ดังนี้
ไม่มีความเห็น